ปีนี้เป็นปีที่แฟนๆ ได้เห็นหน้า พัค โบกอม (Park Bo Gum) อย่างเต็มอิ่ม ทั้งจากซีรีส์เรื่อง When Life Gives You Tangerine หรือชื่อไทย ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน และซีรีส์เรื่อง Good Boy นอกจากในจอแล้ว ยังเป็นปีที่โบกอมเดินสายจัดงานแฟนมีตติงทั่วเอเชีย 

และความพิเศษคือ ‘PARK BO GUM 2025 FAN MEETING TOUR [BE WITH YOU] IN BANGKOK’ เป็นแฟนมีตติงในรอบ 6 ปีของโบกอมที่จะได้พบกับแฟนชาวไทยแบบเต็มฮอลล์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา

แม้งานแฟนมีตติงจะผ่านไปเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว แต่เชื่อว่าความสนุกที่ได้รับจากโบกอมยังไม่จางหาย และความประทับใจจะคงอยู่ตลอดกาล เมื่อคิดถึงบรรยากาศในวันแฟนมีตติงเหมือนได้รับการโอบกอดอย่างอบอุ่นทุกครั้ง ตั้งแต่ช่วงแรกที่โบกอมออกมาต้อนรับอย่างแจ่มใสด้วยเพลง Hello-Joy และเพลง Fine-Soran ก่อนจะเข้าสู่ช่วงพูดคุยอย่างเป็นกันเอง โดยมี โอปอล์-ปาณิสรา อารยะสกุล รับหน้าที่พิธีกร

พูดคุยเรื่องซีรีส์ การวิ่ง และเซอร์ไพรส์

ในปีนี้โบกอมมีซีรีส์ให้เราดูแล้ว 2 เรื่องซึ่งเป็นบทบาทที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะบทของ ยัง กวานชิก จาก When Life Gives You Tangerine โบกอมคือหนุ่มชาวเรือ สู้ชีวิต อบอุ่น และรักครอบครัว ซึ่งเป็นครั้งแรกที่โบกอมรับบทเป็นคุณพ่อ ในขณะที่บทในเรื่อง Good Boy ยุน ดงจู เป็นตำรวจที่ทั้งกล้าและบ้าบิ่น

“สำหรับเรื่อง When Life Gives You Tangerine ทำให้ผมมีความสุข แล้วก็ได้มีโอกาสร่วมทำงานกับผลงานที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ที่ทุกคนสามารถเข้าใจและเชื่อมโยงกันได้ แม้ว่าจะมีความแตกต่างทางด้านภาษา แต่ก็เป็นผลงานที่ทำให้ผมได้คิดถึงวิธีการแสดงออกความรัก ได้มีโอกาสคิดถึงการเป็นผู้ใหญ่ที่ดีว่าเป็นอย่างไร เป็นเวลาที่ได้คิดถึงความตั้งใจ ความซื่อตรงในการใช้ชีวิต ใช้เวลาของตัวเองอีกครั้ง

“ผมหวังว่า ทุกคนที่น่ารักและอบอุ่นแบบนี้จะได้ใช้ชีวิตด้วยความฉลาด ด้วยความสดใส ด้วยความสนุกสนานระหว่างการเดินทางของตัวเองผ่านทางการดูซีรีส์นี้ไปด้วยกันครับ” โบกอมกล่าวถึงความประทับใจในซีรีส์

รวมถึงบทบาทใน Good Boy ที่โบกอมกล่าวว่า การเล่นฉากบู๊เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย เพราะในเรื่องนี้โบกอมคืออดีตนักมวยทีมชาติ ที่ผันตัวมาเป็นตำรวจหนุ่มเลือดร้อน ผู้รักความยุติธรรม

“จำได้ว่าตอนที่อ่านบทเรื่องนี้ สนุกเหมือนกับอ่านการ์ตูนเลย เวลาที่เราใช้ชีวิตในโลกนี้มันมีบางอย่างที่เราคิดได้ แต่จะปฏิบัติยากคือ บางอย่างเรารู้ว่าสิ่งไหนถูกและสิ่งไหนผิด แต่ด้วยสิ่งที่สืบทอดกันมา ด้วยประเพณีดั้งเดิม หรือค่านิยมที่มาแต่เดิม ทำให้บางทีเราไม่สามารถทำอย่างที่เราคิดได้

“แต่ตัวละครที่ชื่อว่าดงจู เขามีความคิดที่ว่าถ้าถูกต้องเขาก็จะทำ ไม่ว่าค่านิยมหรือประเพณีจะเป็นอย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เขาเป็นตำรวจ และมีน้ำใจนักกีฬา เขาจะลงมือทำ ซึ่งผมเองก็อยากเป็นแบบนั้น รวมถึงอยากให้มีคนที่เป็นแบบนี้ในสังคมมากขึ้น ผมจึงตัดสินใจรับเรื่องนี้”

ช่วงพูดคุยกับโบกอม นอกจากเรื่องผลงานการแสดงแล้ว โบกอมยังเล่าว่า เมื่อเช้าก่อนขึ้นเวทีแฟนมีตติง เขาไปวิ่งที่สวนเบญจกิติ ช่วง 7 โมงเช้า สิ่งที่เขาได้พบเห็นคือความสวยงามในสวนทั้งต้นไม้ใหญ่ และดอกบัวสีชมพูสดใส ที่บางทีคนไทยอย่างเราเห็นจนชินตาและอาจมองข้ามไป เมื่อได้ดูภาพถ่ายในสวนจากโบกอม จึงได้ย้อนกลับมาชื่นชมความงามของสิ่งเล็กๆ รอบตัว

ความน่ารักของโบกอมยังไม่หมดเพียงแค่นี้ เพราะก่อนหน้าวันแฟนมีตติงในช่วงหัวค่ำของวันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม โบกอมแวะไปเซอร์ไพรส์แฟนๆ ที่ PARK BO GUM POP-UP IN BANGKOK 2025 หรือป็อปอัปสโตร์ที่ตั้งอยู่ที่ชั้น M ของห้าง Emsphere สถานที่เดียวกันนี้

“เมื่อวานนี้เดินทางมาถึงแล้ว ได้มีโอกาสไปเยี่ยมป็อปอัปสโตร์ อยากไปชมด้วยตัวเอง และอยากไปเยี่ยมแฟนๆ ด้วย ก็ได้รับการต้อนรับมากมายเลยรู้สึกดีใจ ซึ่งสถานที่ที่ผมเปิดป็อปอัปสโตร์มีกรุงเทพฯ เป็นที่แรกเลย”

นอกจากนี้ แฟนๆ ผู้โชคดียังได้มีโอกาสใกล้ชิดกับโบกอมเป็นเวที ทั้งถ่ายรูปเซลฟี่, รูป 4 ช่อง, ได้วัดขนาดมือกับโบกอม พร้อมมอบกอดสุดอบอุ่นให้กับแฟนๆ รวมถึงลูกสาวคนเก่งของโบกอมบกจีบูอย่าง ‘น้องกู๊ดเกิร์ล’ ที่แสดงความสามารถด้านการเต้นจนได้ใจคนทั้งฮอลล์

ร้องเพลงและวิ่งรอบฮอลล์

แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นงานแฟนมีตติง แต่ความจริงงานนี้แทบจะเป็นคอนเสิร์ตเลยทีเดียว เพราะโบกอมขนเพลงมากว่า 20 เพลง เพื่อขับกล่อมและมอบความสุขให้กับแฟนๆ มีทั้งเพลงของโบกอมเอง อย่าง On My Way, My Person, All My Love, Waterfall และ Let’s go to see the star ที่ล้วนอบอุ่นและมอบพลังบวก

และยังมีเพลงที่โบกอมชอบ เช่น Confession ของ Delispice ที่ร้องเพลงไปพร้อมกับโชว์เล่นเปียโน รวมถึงเพลงไทยอย่าง อาย ของ สิงโต-นำโชค ทะนัดรัมย์ และรักติดไซเรน ของ ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต, แพรวา-ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ ที่แม้ไม่ได้ซ้อมมาแต่ยังคงจำเนื้อเพลงได้

เมื่อใกล้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการแสดง โบกอมยังแรงดีไม่มีตก เขาวิ่งไปทักทายแฟนรอบฮออล์อย่างทั่วถึง เพื่อมอบความรักให้อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าบัตรราคาไหนก็คุ้มค่าทุกที่นั่ง

สุดท้ายนี้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมงกับโบกอมเป็นช่วงเวลาที่มีความหมาย และเขาหวังว่าในอนาคตโบกอมบกจีบูจะไม่รู้สึกเสียใจเมื่อมองย้อนกลับมายังเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน

“ปี 2025 สำหรับผมเป็นปีที่เต็มไปด้วยคำขอบคุณและความสุขครับ คิดว่าน่าจะเป็น 1 ปีที่ผมได้มีโอกาสตอบแทนความรักของทุกคนที่มีให้ผมเสมอมา ปีนี้ผมเลยอยากสื่อคำว่า ความรัก”

จนกระทั่งในวันนี้เชื่อว่า หลายคนคงคิดเหมือนโบกอมว่า ปีนี้คือปีที่มีความสุขและเต็มไปด้วยความรัก เพราะโบกอมเดินทางมาเสิร์ฟความรักให้ถึงประเทศไทยแล้ว

ภาพ: BOGUMMY

.

Tags: , , , , , , , , , , , ,