นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดตั้งขึ้น การสร้างเสริมสุขภาพที่ดีของคนไทยก็กลายเป็นวาระสำคัญ ได้รับผลักดันผ่านการรณรงค์ สร้างความรู้ความเข้าใจ และขับเคลื่อนผ่านการทำกิจกรรม การผลิตสื่อ ไปจนถึงการร่วมมือระหว่าง สสส. กับหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศตลอดมา

ไม่เพียงแต่ปี 2564 จะเป็นปีที่ สสส. อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่ สสส. องค์กรเล็กๆ คนทำงานสร้างเสริมสุขภาพตัวเล็กๆ นำความภาคภูมิใจสู่ประเทศชาติและคนไทยทั้งปวง ด้วยการคว้า ‘รางวัลระดับโลก’ โดย สสส. ได้รับรางวัลเนลสัน แมนเดลา รางวัลอันทรงเกียรติด้านการสร้างเสริมสุขภาพประจำปี 2564 (Nelson Mandela Award for Health Promotion 2021) จากองค์การอนามัยโลก (WHO)

รางวัลเนลสัน เมนเดลา ก่อตั้งโดยองค์การอนามัยโลกในปี 2562 ด้วยการริเริ่มของกลุ่มรัฐมนตรีสาธารณสุขของประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลกภูมิภาคแอฟริกา เพื่อเป็นการรำลึกถึงมนุษยธรรมของเนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ผู้มีบทบาทในการรณรงค์ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ โดยรางวัลนี้จะมอบให้กับบุคคลหรือองค์กรที่สร้างผลงานที่สำคัญ โดดเด่นด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ในปี 2563 ได้มีการมอบรางวัลนี้เป็นครั้งแรก กระทั่งในปี 2564 กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอชื่อ สสส. เข้าร่วมการคัดเลือกในนามของประเทศไทย

สสส. คว้ารางวัล เนลสัน แมนเดลา

ช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจเกิดขึ้นในวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา WHO ได้จัดประชุมสมัชชาอนามัยโลก (World Health Assembly: WHA) สมัยที่ 74 ผ่านระบบออนไลน์ ระหว่างช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ ทาง สสส. ได้จัดกิจกรรมถ่ายทอดสดพิธีมอบรางวัลผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ สสส. ให้ชาวไทยมีโอกาสได้ร่วมชม โดยมีบุคคลทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังมาร่วมแสดงความยินดีต่อการเข้ารับรางวัลครั้งนี้ด้วย อาทิ ศ.นพ. ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่, นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา, พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต ฯลฯ

คนไทยส่วนใหญ่คุ้นเคยกับ สสส. ผ่านแคมเปญต่างๆ ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแคมเปญรณรงค์ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่สื่อสารออกมาเมื่อไร ก็เรียกกระแสความสนใจจนกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ได้แทบทุกครั้ง และอยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน เริ่มตั้งแต่แคมเปญ งดเหล้าเข้าพรรษา ต่อยอดมาสู่ประโยคแสนสะกิดใจ และถูกนำมาพูดกันจนติดปากอย่าง ‘จน เครียด กินเหล้า’ หรือ ‘ให้เหล้าเท่ากับแช่ง’ แต่นอกจากแคมเปญที่มุ่งสร้างเสริมสุขภาวะให้คนไทยผ่านการเปลี่ยนทัศนคติต่อการดื่มแอลกอฮอล์ สสส. ยังมีบทบาทในการขับเคลื่อนสร้างสุขภาพร่วมกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกด้วย

เหตุผลหลักที่ สสส. ได้รับรางวัลเนลสัน แมนเดลา

ไม่ว่าคนจะรู้จัก สสส. ในแง่มุมไหน อย่างไร สิ่งยืนยันว่า สสส. เหมาะสมกับรางวัลเนลสัน แมนดาลา คือการที่ สสส. ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่า เป็นองค์กรสร้างเสริมสุขภาพที่มีบทบาทโดดเด่นในประเทศไทยตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา และยังมีบทบาทในการขับเคลื่อนสุขภาพที่ดีในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

5 เหตุผลหลักที่ สสส. ได้รับรางวัลเนลสัน แมนเดลา คือ

1. สสส. เป็นองค์กรที่ช่วยขับเคลื่อนกฎหมายนโยบายเอื้อให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีสุขภาพดี เช่น การควบคุมผลิตภันฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 การห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการปรับอายุต่ำสุดสำหรับดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายเป็น 20 ปี สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้อัตราดื่มและอัตราสูบในประเทศลดลง

2. สสส. ร่วมในการขับเคลื่อนเปลี่ยนความเชื่อ ปรับบรรทัดฐานในสังคมเรื่องสุขภาวะสร้างได้ และผลักดันส่งเสริมความเท่าเทียมทางสุขภาพ เช่น งานบุญปลอดเหล้า แคมเปญงดเหล้าเข้าพรรษา

3. เจตนารมณ์ของการก่อตั้ง สสส. ที่มีการใช้ระบบการเงินการคลังเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพ สุขภาวะที่ดีขึ้น และยังช่วยขับเคลื่อนในต่างประเทศอีกด้วยเช่น ลาว มองโกเลีย และเกาหลีใต้

4. เป็นองค์กรที่มีสภาพคล่องตัวในวิกฤตต่างๆ เช่น การแพร่ระบาดของโควิด-19 สสส. ก็มีบทบาทในการสร้างวิถีชีวิตใหม่ และการเว้นระยะห่างทางสังคม

5. มีส่วนช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีของสุขภาพ ตัวชี้วัดทางสุขภาพประจำปี 2560 ระบุว่า อัตราการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลงจาก 32.7% ในปี 2547 เป็น 28.4% ในปี 2560 นอกจากนี้ จำนวนประชากรไทยมีกิจกรรมทางกายเพียงพอเพิ่มขึ้นจาก 66.3% ในปี 2555 เป็น 74.6% ในปี 2562

ดร.ชเวลินี มะคีเซ (Dr.Zwelini Mkhize) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประเทศแอฟริกาใต้ ผู้แทนรางวัลแมนเดลา กล่าวในวาระที่ สสส. ประเทศไทยได้รับรางวัลอันทรงเกียรติครั้งนี้ว่า “สสส. เป็นองค์กรที่เหมาะสมกับรางวัลทรงคุณค่านี้ ซึ่งทั่วโลกให้การยอมรับการทำงานของ สสส. ซึ่งมีแนวการทำงานที่ตรงกับข้อคิดของเนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีของแอฟริกาใต้ ที่ว่า สุขภาพที่ดีไม่ใช่เป็นเงื่อนไขตามรายได้หรือฐานะคน แต่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์”

การสร้างเสริมสุขภาพภายใต้หลักการของความเท่าเทียม และการทำให้คนไทยทุกคนเข้าถึงการมีสุขภาพที่ดีอย่างถ้วนหน้า ถือเป็นหัวใจสำคัญในทุกภารกิจสร้างเสริมสุขภาพของ สสส. ที่ดำเนินมาตลอดสองทศวรรษ และจะยังเป็นหลักการสำคัญที่ สสส. มุ่งมั่นสานต่อในอนาคต

“รางวัลนี้เป็นเหมือนผลึกที่สะสมต่อเนื่องมายี่สิบปี มันไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นข้ามเดือนข้ามปี แต่เราวางเข็มทิศวางทิศทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย โดยหลายคนไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าปลายทางเส้นนี้คืออะไร แต่สิ่งที่ใฝ่ฝันเชิงอุดมคติจะทำให้เราบรรลุผลอย่างแน่นอน อย่างน้อยที่สุด สุขภาพของคนไทยจะต้องดีขึ้น ในขณะที่มองไปข้างหน้าก็ยังมีความท้าทายอีกมากมาย เราก็ยังยืนยันจะเดินหน้าต่อไป” ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าว

รางวัลที่ สสส. ได้รับในครั้งนี้ จึงเป็นทั้งสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจขององค์กร และยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จที่เกิดจากความพยายามของคนทำงานทุกภาคส่วน อีกทั้งสะท้อนให้เห็นว่า ภารกิจด้านการเสริมสร้างสุขภาพของคนไทยตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์และน่ายกย่องในเวทีของการส่งเสริมสุขภาพระดับโลก

แม้การดำเนินภารกิจสร้างเสริมสุขภาพของ สสส. ที่ผ่านมา จะชี้วัดความสำเร็จได้จากสถิติที่ชี้ให้เห็นว่าคนไทยมีอายุยืนขึ้น โดยอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 75.3 ปี และความสนใจเกี่ยวกับเรื่องการดูแลสุขภาพก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ต้องยอมรับว่าวิกฤตโรคระบาดที่ผู้คนทั่วโลกต่างเผชิญอยู่ คือโจทย์ใหญ่ที่กำลังท้าทายคนทำงานด้านสาธารณสุขเป็นอย่างมาก ซึ่ง ดร.ชเวลินีก็ได้เปรยไว้ในโอกาสนี้ว่า “ขอให้ สสส. มีความเข้มแข็งและยั่งยืน ในขณะที่เราร่วมกันเป็นประชาคมโลกในการสร้างระบบการดูแลสุขภาพที่มีความยืดหยุ่น สนองตอบอย่างรวดเร็วต่อภาวะวิกฤตหรือความต้องการของสังคมที่เกิดขึ้นใหม่ อาทิ การแพร่ระบาดของโควิด-19”

สสส. ในทศวรรษหน้าจะขับเคลื่อนภารกิจการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้คนไทย และมีส่วนร่วมในการยกระดับเรื่องสุขภาวะให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดครั้งใหญ่นี้ได้แค่ไหน อย่างไร นี่คือโจทย์ท้าทายที่คนไทยและประชาคมโลกต่างเฝ้ามอง พร้อมส่งแรงใจช่วย

อ้างอิง

https://www.facebook.com/thaihealth/videos/178860294155041

https://bit.ly/35Al1JK

https://www.bltbangkok.com/news/4892/

Tags: , , , , , , , , , ,