รสนิยมด้าน ‘แฟชั่น’ เป็นเรื่องของปัจเจก โดยเฉพาะในยุคโลกาภิวัฒน์ ที่การแต่งกายของมนุษย์แตกแขนงออกหลากหลาย อย่างไรก็ดี บางพื้นที่บนโลกก็ยังคงวัฒนธรรมและรากเหง้าประจำชนชาติ ที่แสดงผ่านเอกลักษณ์การแต่งกายไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เช่น อินเดีย แต่ล่าสุด แบรนด์เสื้อผ้าจากดินแดนภารตะแห่งนี้ กำลังจะก้าวสู่อุตสาหกรรมแฟชั่นโลก และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการแฟชั่นอินเดีย

‘กูตูร์’ (Couture) แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังสัญชาติอินเดีย ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2006 และสร้างสถิติด้วยยอดขายราว 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ตามสถิติจากนิตยสารฟอร์บส กำลังจะนำเอกลักษณ์แบบอินเดียเข้าสู่แวดวงแฟชั่นระดับโลก โดยมี ‘Reliance Brands Limited’ (RBL) กลุ่มทุนเอกชนเจ้าของธุรกิจน้ำมันและก๊าซมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะเข้าเป็นผู้ถือหุ้นเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ร่วมกับ ‘มานิช มาลโฮตรา’ (Manish Malhotra) แฟชั่นดีไซเนอร์และผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ซึ่งเคยสร้างเสียงฮือฮาจากการออกแบบเซ็ตเสื้อผ้าในงานสัปดาห์แฟชั่น ‘Lakme Fashion Week’ เมืองมุมไบ ปี 2019 และเป็นผู้ปั้นหุ้นขี้ผึ้งมาดามทุสโซสองนักแสดงบอลลีวูดชื่อดังอย่าง คาทรินา เคฟ (Katrina Kaif) และ รันบีร์ กาปูร์ (Ranbir Kapoor)

‘กูตูร์’ เป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่โดดเด่นด้วยการนำเอกลักษณ์จาก ‘ส่าหรี’ ผ้าเอกลักษณ์ของสตรีอินเดีย ที่มีความสวยงาม มีสีสัน มาผสมผสานการตัดเย็บให้ออกมาเป็นชุดเดรสแบบโมเดิร์น ส่งผลให้มียอดขายถล่มทลาย แต่การจะฉีกกรอบจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเฉพาะในประเทศ เพื่อก้าวสู่ระดับโลกตามแบรนด์เสื้อผ้าดัง เช่น H&M, Dior, Saint Laurent หรือ Chanel ก็จำเป็นต้องมีงบมหาศาลเพื่อต่อยอดโปรเจ็กต์ต่างๆ รวมถึงการจ้างแบรนด์แอมบาสเดอร์ อันเป็นส่วนสำคัญของการทำให้แบรนด์มีภาพจำ 

แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า มหาอำนาจวงการแฟชั่นในปัจจุบันยังคงมาจากฝั่งยุโรปและอเมริกา การจะนำเงินไปลงทุนจึงอาจเสี่ยงต่อความล้มเหลว หากแบรนด์ ‘กูตูร์’ เลือกทิ้ง ‘เอกลักษณ์รากเหง้า’ ความเป็นอินเดีย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้แบรนด์ยืนหยัดอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ไป

โนนิตา คลารา (Nonita Kalra) ผู้อำนวยการบริหารจาก Tata CliQ Luxury แบรนด์ลักชัวรีสัญชาติอินเดีย ออกมาแสดงความเห็นต่อการร่วมถือหุ้นครั้งนี้ว่า เป็นการก้าวไปอีกขั้นของวงการแฟชั่นอินเดียสู่ระดับโลก และเป็นก้าวสำคัญที่ชาวอินเดียจะได้สวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์ยี่ห้อดังในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป

“ตลอดเวลาที่ผ่านมา แบรนด์แฟชั่นจากต่างประเทศพยายามเข้ามาตีตลาดอินเดีย แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถมัดใจพวกเขาได้ เพราะชาวอินเดียต่างมีรสนิยมเฉพาะของตัวเอง อุตสาหกรรมแฟชั่นอินเดียส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยขนบธรรมเนียมพิธีมงคลต่างๆ เช่น งานวิวาห์ งานมงคลทางศาสนา รวมถึงเรื่องของชาติพันธุ์ ฉะนั้น คุณจำเป็นต้องคำนึงถึงพื้นฐาน รสนิยม และหากต้องการเป็นที่ชื่นชอบด้วยเวลาอันสั้น เรื่องของราคาก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่ทุกคนจะสามารถเข้าถึงได้”  โนนิตากล่าว

แมคคินซีย์ (McKinsey) บริษัทให้คำปรึกษาชื่อดัง คาดการณ์ว่าภายในปีหน้า (2022) ตลาดอุตสาหกรรมแฟชั่นประเทศอินเดีย จะมีมูลค่าถึง 60 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก เทียบเท่ากับประเทศมหาอำนาจอย่างอังกฤษและเยอรมนี หลังจากที่ปีนี้ หลายธุรกิจในประเทศอินเดียต้องเหนื่อยหนักจากวิกฤติเศรษฐกิจ เนื่องจากโควิด-19 ดังนั้นโจทย์สำคัญของแบรนด์ ‘กูทัว’ ก่อนออกสู่อุตสหากรรมแฟชั่นโลกตามเป้าหมายที่วางไว้ คือการทำให้คนในประเทศกลับมาจับจ่ายใช้สอยเลือกซื้อเสื้อผ้ากันเองให้ได้เสียก่อน

อย่างไรก็ดี การเข้ามาร่วมถือหุ้นกิจการ ‘กูตูร์’ ของ Reliance Brands Limited’ (RBL) อาจมีนัยแอบแฝงถึงการผูกขาดของธุรกิจในประเทศอินเดีย เพราะนอกจากการเป็นผู้ครอบครองธุรกิจเชื้อเพลิงพลังงานและแฟชั่นแล้ว RBL ยังมีอีกหลากหลายธุรกิจในเครือ ทั้งร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด โครงข่ายโทรคมนาคม แบรนด์โทรศัพท์มือถือ สินค้าอุปโภค และห้างสรรพสินค้า จึงเป็นสิ่งที่ต้องติดตามต่อว่า ดีลในครั้งนี้เป็นความตั้งใจเข้ามาผลักดันอุตสาหกรรมแฟชั่นอินเดีย หรือเป็นเพียงความพยายามในการครองอำนาจทางธุรกิจเท่านั้น

 

ภาพ: coutureindia.show

ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-asia-india-59219355

https://www.freepressjournal.in/business/designer-manish-malhotra-and-reliance-brands-limited-join-hands-after-acquiring-40-stake

– https://www.businesstoday.in/latest/corporate/story/reliance-brands-acquires-40-stake-in-designer-manish-malhotras-mm-styles-309504-2021-10-15

 

Tags: , , , ,