นับถอยหลังสู่ปีใหม่กันแล้ว หลายคนคงกำลังวางแผนการใช้วันหยุดอย่างคุ้มค่า บางคนเลือกจะพักผ่อนอยู่เฉยๆ ที่บ้าน คนต่างจังหวัดบางส่วนกลับภูมิลำเนาไปฉลองสิ้นปีกับครอบครัว คนเมืองก็อาจกำลังมองหาสถานที่เคาต์ดาวน์และสังสรรค์กับแก๊งเพื่อน ไม่ว่าใครจะเดินทางไปไหนเราก็ขอให้ทุกคนเดินทางโดยปลอดภัย
เมื่อปีใหม่มาถึง เราก็มักจะมองว่านี่คือหมุดหมายที่ดีที่จะลงมือทำอะไรสักสิ่งให้สำเร็จ เราจึงมีปณิธานส่วนตัวกันเสมอ “To do list” ที่บอกกับตัวเองว่าปีนี้ฉันจะต้องทำให้ได้! เมื่อถึงสิ้นปีก็จะมาสำรวจกันว่ามีสิ่งใดที่ทำสำเร็จไปแล้วบ้าง รวมถึงสรุปรายการความชอบของตัวเองกันอย่างสนุกสนาน ทั้งอันดับเพลง ภาพยนตร์ ซีรีส์ หนังสือ มีม โฆษณา และอีกร้อยแปดพันเก้าที่ผ่านมาในปีนี้
สำหรับผู้เขียนเอง สิ่งหนึ่งที่ตั้งเป้าไว้ก็คือ “ฉันจะอ่านหนังสือให้มากขึ้น” เพราะปีก่อนปริมาณการอ่านลดลงอย่างน่าใจหาย ดังนั้น สำหรับคอนเทนต์นี้เราจึงอยากสรุป ลิสต์หนังสือ ปี 2018 ที่คาดว่าเข้าไปครองใจนักอ่านกันอย่างทั่วถึงจากหลากหลายสำนักพิมพ์ ส่วนใครมีลิสต์อะไรในใจ ถ้าจะแบ่งกันบ้างเราก็ไม่ว่ากัน
เซเปียนส์: ประวัติย่อมนุษยชาติ
ผู้เขียน: ยูวัล โนอาร์ แฮรารี
ผู้แปล: ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์
สำนักพิมพ์: ยิปซี
หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกในภาษาฮิบรูในปี 2011 และถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษในอีกสามปีถัดมา กลายเป็นหนังสือที่ติดอันดับขายดีอย่างต่อเนื่องไปทั่วโลก ถูกแปลไปมากกว่า 50 ภาษา จนมาถึงปีนี้เราก็ได้จับต้องเซเปียนส์ในฉบับภาษาไทย หนังสือที่มีความหนากว่า 600 หน้า อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวโลดโผนทางประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง วิวัฒนการ วัฒนธรรม ตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน
แฮรารีพาเราไปสำรวจประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติจากการวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณในยุคหินจนถึงศตวรรษที่ 21 โดยแบ่งออกเป็นสี่ส่วนหลัก ได้แก่ การปฏิวัติการรับรู้ การปฏิวัติเกษตรกรรม การรวมเป็นหนึ่งของมนุษยชาติ และการปฏิวัติวิทยาศาสตร์ หนังสือเล่มนี้จะให้คำตอบเราได้ว่า เหตุใดมนุษย์จึงผงาดขึ้นมาในโลกแล้วแซงหน้าทุกสิ่งมีชีวิตที่มาก่อนได้ แม้จะเป็นหนังสือที่หนาหนักและจุความรู้ไว้ทุกหน้า แต่เซเปียนส์ก็เป็นหนังสือที่อ่านสนุกไม่น้อยหน้านวนิยายเลย
ความลี้ลับของเวลา: ถอดปริศนาแห่งเวลาในสายตาควอนตัมฟิสิกส์
ผู้เขียน: คาร์โล โรเวลลี
ผู้แปล: โตมร ศุขปรีชา
สำนักพิมพ์: Salt Publishing
เวลาเป็นสิ่งมีค่า แต่ค่าที่ว่านี้มันมากมายขนาดไหน ในเมื่อใครๆ ก็ไม่เคยจับต้องเวลาได้เลย เวลาใช่สิ่งที่อยู่บนหน้าปัดหรือเปล่า หรืออยู่กับตัวเลขที่มีแต่วิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง หรืออยู่บนพระจันทร์และพระอาทิตย์ สิ่งที่คาร์โลพยายามผ่านหนังสือเล่มนี้คือการถอดรื้อความลี้ลับของเวลา ปลดความสงสัยบางอย่าง และชวนตั้งคำถามกับอีกหลายอย่าง คลายความซับซ้อนให้เข้าใจง่าย แม้จะอยู่บนพื้นฐานควอนตัมฟิสิกส์ที่หลายคนเบือนหน้าหนี
ปัจจุบันจะเป็นเพียงอดีต มนุษย์เป็นแค่ส่วนประกอบหนึ่งของความทรงจำของใครของมัน เพราะเราต่างมีเวลาเป็นของตัวเอง
อ่านรีวิวเพิ่มเติม https://themomentum.co/the-order-of-time-carlo-rovelli/
มนุษย์ร้านสะดวกซื้อ
ผู้เขียน: มุราตะ ซายากะ
ผู้แปล: พรรณวิมล จิตราวิริยะกุล
สำนักพิมพ์: Animag
มุราตะ ซายากะ เจ้าของรางวัลอาคุตะกาวะ ประจำปี 2016 และเคยคว้ารางวัลมาก่อนหน้านี้แล้วอีกหลายรางวัล นอกเหนือจากการทำงานเป็นนักเขียน เธอยังทำงานพาร์ตไทม์ที่ร้านสะดวกซื้อสามครั้งต่อสัปดาห์ และนี่เองจึงเป็นที่มาของ มนุษย์ร้านสะดวกซื้อ
เรื่องราวเล่าผ่านตัวละคร ฟุรุคุระ เคโกะ หญิงวัย 36 ปี สถานะโสด ไม่เคยคบกับผู้ชายแบบจริงจังเลยตลอดชีวิต และแน่นอนว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่ เคโกะทำงานพาร์ตไทม์ในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งต่อเนื่องมานานถึง 18 ปี ใช้ชีวิตไปแต่ละวันอย่างเรียบง่าย วนเวียนอยู่กับกิจวัตรเดิมๆ ไม่ปรารถนาสิ่งใดไปมากกว่านั้น และนั่นทำให้เธอถูกมองว่าแปลกแยก การเป็นมนุษย์แบบนั้นในสังคมทำให้สายตาที่คนอื่นมองมานั้นเต็มไปด้วยคำถาม แต่สิ่งที่เป็นบรรทัดฐานของสังคมมันคือสิ่งที่ดีและจำเป็นปฎิบัติตามจริงๆ หรือ ทำไมคนอย่างเคโกะถึงถูกมองว่าไม่ปกติ ก็ในเมื่อชีวิตนี้มันเป็นของเธอไม่ใช่หรือ
ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ
ผู้เขียน: ฮิงาชิโนะ เคโงะ
ผู้แปล: กนกวรรณ เกตุชัยมาศ
สำนักพิมพ์: น้ำพุสำนักพิมพ์
ฮิงาชิโนะ เคโงะ เป็นชื่อที่่รู้จักกันดีสำหรับคอหนังสือสืบสวนสอบสวน ผลงานของเขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสร้างปมของเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีความสามารถในการคลี่คลายคดีในแบบที่เรานึกไม่ถึง
ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ ไม่ได้เปิดมาด้วยการตายของใคร แต่เริ่มต้นด้วยการก่อเหตุของหัวขโมยสามคน พวกเขาอยู่ในระหว่างการหลบหนีและบังเอิญไปซ่อนตัวอยู่ในร้านชำนามิยะ ซึ่งปิดตัวลงไปนานแล้ว ร้านชำที่รกร้างและห่างไกล จู่ๆ ก็มีจดหมายลึกลับโผล่มา เนื้อความในจดหมายเล่าเรื่องปัญหาชีวิตและขอคำแนะนำสำหรับการแก้ไข ทั้งสามนึกสนุกจึงเขียนจดหมายตอบกลับ และทันใดนั้นจดหมายก็หายวับไป และแทนที่ด้วยจดหมายฉบับใหม่
ปาฏิหาริย์นี้ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิตคน ไม่ใช่แค่ผู้ที่ได้รับจดหมาย แต่ยังรวมไปถึงชีวิตของสามหัวขโมยด้วย
ฉันไม่ชอบทั้งโลก ฉันชอบแค่เธอคนเดียว
ผู้เขียน: เฉียวยี
ผู้แปล: ภิรมณ ประพฤติประยูร
สำนักพิมพ์: วารา
นิยายแปลจีนที่ได้รับการตอบรับดีมากในประเทศจีน ยอดขายทะลุ 3 ล้านเล่ม และนำไปดัดแปลงเป็นซีรีส์ในเวลาต่อมา เนื้อหาถูกแบ่งออกเป็นตอนๆ ลักษณะคล้ายการเขียนบล็อก เล่าเรื่องในแต่ละช่วงเวลาและเหตุการณ์ในอดีต ที่สำคัญคือมีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงของตัวผู้เขียนเอง
ฉันไม่ชอบทั้งโลกฯ เล่าผ่านสายตาและคำพูดของเฉียวยี หญิงสาวที่แต่งงานแล้วกับเพื่อนร่วมห้องวัยมัธยม เขามีนามสมมติว่านายเอฟ เรื่องราวย้อนไปในวัยเด็กตั้งแต่พวกเขาพบกันครั้งแรก การไม่ค่อยลงรอยกัน การเป็นเพื่อนกัน และการจากลาที่ทำให้หัวใจขยับเข้าใกล้กันยิ่งกว่าเดิม เนื้อหาอาจไม่ต่างจากความรักทั่วๆ ไปของวัยรุ่น มีพบและลาจาก สุดท้ายก็ลงเอยกัน แต่ผู้เขียนก็เล่าได้อย่างน่ารักน่าชัง ชวนเขินและชวนยิ้มไปกับความไร้เดียงสาและความเจ้าเล่ห์ของทั้งคู่ แม้เราจะไม่ได้อยู่ในวัยใสขนาดนั้น แต่พอได้อ่านหัวใจก็พองโตได้เหมือนกัน
ผุดเกิดมาลาร่ำ
ผู้เขียน: อารยา ราษฎร์จำเริญสุข
สำนักพิมพ์: มติชน
นวนิยายเล่มแรกของอารยา ราษฎร์จำเริญสุข ศิลปินผู้มีผลงานโดดเด่นทั้งในระดับชาติและนานาชาติ หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของผลงานศิลปะในนิทรรศการ ‘ศิลปินกำลังพยายามกลับไปเป็นนักเขียน’ คำโปรยที่วางอยู่บนปกหลังอาจไม่ได้ทำให้เราเข้าใจเนื้อหาที่จะกล่าวถึงทั้งหมด แต่แน่นอนว่าเราย่อมมองเห็นความตาย “นิยายของศิลปะ เมื่อศิลปะถมเติมนิยาย เมื่อความตายถมเติมชีวิต”
นวนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ ไลลียา สามช่วงชีวิตของเธอตั้งแต่ผุดออกมาจากครรภ์มารดา วัยเด็ก วัยสาว และวัยชรา ไลลียาเติบโตมาท่ามกลางครอบครัวที่คล้ายว่าเธอเป็นส่วนเกิน เมื่อเติบโตพอจะก้าวเท้าออกจากบ้านก็ผจญกับโลกที่ทั้งขมขื่นและชอกช้ำ แต่เธอกล้าแกร่งพอจะเดินไปข้างหน้า เพราะรู้ความต้องการของตัวเองดี
ไลลียาใช้ชีวิตเต็มที่กับการเป็นศิลปิน ท้าทายขนบธรรมเนียมอย่างไม่หวาดหวั่น และสิ่งหนึ่งที่เธอให้ค่าเสมอคือความตาย แง่งามของมันที่คงจะมีเพียงเธอเท่านั้นที่มองเห็น และเมื่อคนอย่างเรามองเข้าไป เราก็จะได้เห็นอัตชีวประวัติของอารยา ราษฎร์จำเริญสุข หนังสือเล่มนี้คือส่วนเสี้ยวหนึ่งของเธอ
อ่านรีวิวเพิ่มเติม https://themomentum.co/a-flowery-cry-of-birth/
สามวันดี สี่วันเศร้า
ผู้เขียน: อินทิรา เจริญปุระ
สำนักพิมพ์: บัน
ในแต่ละวันที่เดินทางออกจากบ้าน เราพบผู้คนมากมายบนท้องถนน ในจำนวนคนที่เราเดินผ่านอาจมีสักคนที่กำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เราไม่มีทางรู้หรอกว่าทำไมคนที่มีรอยยิ้มสดใสที่สุดจึงตัดสินใจจบชีวิต ไม่มีทางเข้าใจว่าทำไมบางคำพูดจึงไปทำร้ายเขาทั้งที่เราหวังดี คนที่หัวเราะได้ดังที่สุดในวันนั้นกลับน้ำตาพรั่งพรูจนเหมือนเขื่อนแตกในวันนี้
ตามสถิติองค์การอนามัยโลกบอกว่าโลกเรามีผู้ป่วยโรคซึมเศร้ากว่า 100 ล้านคน และปี 2020 โรคนี้จะเป็นภาวะสุขภาพที่สำคัญอันดับ 2 รองจากโรคหัวใจ
ทราย เจริญปุระ คือคนที่เลือกจะบอกให้ทุกคนรู้ว่าเธอกำลังป่วยด้วยโรคดังกล่าว ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นซ้ำสองในระยะเวลาห่างกันเพียงหนึ่งปี ครั้งแรกเกิดหลังจากอุบัติเหตุร้ายแรงที่ยังคงฝังใจแม้ในยามลืมตา และครั้งที่สองเกิดจากความเครียดที่จิตใจต้องแบกรับ หนังสือเล่มนี้จึงไม่ได้เป็นแค่สารที่สื่อกับคนเป็นโรคซึมเศร้าเท่านั้น แต่คนรอบข้างหรือคนทั่วๆ ไปก็สามารถอ่านได้ ซึมเศร้าก็เป็นโรคอย่างหนึ่ง ป่วยได้ รักษาได้ และหายได้ ทรายจะเป็นคนเล่าให้คุณฟังอย่างเข้าใจว่าเบื้องลึกในฐานะผู้ป่วย เธอรู้สึกอย่างไร เราจะเดินหน้าได้อย่างไรหากต้องอยู่ร่วมกับโรคซึมเศร้าของตัวเอง
สงครามที่ไม่มีวันชนะ
ผู้เขียน: นพ.ชัชพล เกียรติขจรธาดา
สำนักพิมพ์: ชัชพลบุ๊คส์
หนังสือเล่มล่าสุดของ นพ.ชัชพล ผู้เขียนหนังสือความรู้ให้ย่อยง่ายและสนุกไปพร้อมๆ กัน อาทิ เรื่องเล่าจากร่างกาย, 500 ล้านปีของความรักฯ และ ทำไมเราเลี้ยง PIG แต่กิน PORK คราวนี้เขาจะพาเราย้อนกลับไปยังต้นตอของมหากาพย์แห่งสงครามระหว่างมนุษย์กับเชื้อโรค
ก่อนที่การแพทย์จะเจริญรุ่งเรืองอย่างในปัจจุบัน ก่อนที่การรักษาโรคจะถูกรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนหน้านั้นมนุษย์ที่เจ็บไข้ได้ป่วยมีหนทางรักษาอย่างไร? ในตอนที่ยังไม่มีใครเข้าใจวิทยาศาสตร์ มนุษย์ต้องอยู่กับความหวาดกลัว อาการเจ็บป่วยถูกมองว่าเป็นบทลงโทษจากพระผู้เป็นเจ้า ดังนั้น การรักษาจึงต้องพึ่งนักบวช ผู้สวดมนต์อ้อนวอนและชำระล้างร่างกายและจิตใจมนุษย์ให้สะอาด
แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลง ความเชื่อก็เปลี่ยนไป วิทยาศาสตร์เริ่มก้าวหน้า การแพทย์ค้นพบสิ่งใหม่ๆ แล้วมนุษย์ก็รู้จักกับเชื้อโรค ตัวการของโรคทั้งหลาย ศัตรูฉกาจที่เราพยายามจะเอาชนะมันตั้งแต่นั้นมา การคิดค้นยาปฏิชีวนะเป็นหมุดหมายสำคัญและความหวัง
แต่เหมือนว่ายิ่งเราเข้าใกล้ชัยชนะมากเท่าไร เชื้อโรคยิ่งรุดหน้าไปมากเท่านั้น สงครามอันยาวนานจึงยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะไม่ว่าจะเชื้อโรคหรือมนุษย์ เราต่างพยายามอยู่รอดและดำรงไว้ซึ่งเผ่าพันธุ์ของตัวเอง
ปัญญาวิชาชีวิต
ผู้เขียน: เคลย์ตัน เอ็ม. คริสเตนเซน
ผู้แปล: ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา
สำนักพิมพ์: โอเพ่นบุ๊คส์
ความสำเร็จนั้นเป็นสิ่งหอมหวาน เราจึงพยายามกันอยู่ทุกวันเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น แต่เพื่อจะก้าวไปข้างหน้า เราจะปฏิเสธได้หรือว่าบางครั้งเราก็ต้องทิ้งบางสิ่งไว้ข้างหลัง
หนังสือ ปัญญางาน จัดการตน ของดรักเกอร์อาจจะช่วยให้เราได้ทบทวนถูกจุดว่าทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จด้านการงาน ค้นหาจุดแข็งและวิธีการทำงานของตัวเองให้เจอ แต่ ปัญญาวิชาชีวิต จะตั้งคำถามที่ใหญ่กว่านั้น คือเราจะประสบความสำเร็จอย่างไร โดยไม่ทิ้งสิ่งมีค่าไว้เบื้องหลัง
หนังสือเล่มนี้เป็นประเด็นที่คริสเตนเซนได้กล่าวไว้ในวันจบการศึกษาของวิทยาลัยธุรกิจฮาร์วาร์ด ในหัวข้อที่ว่า เราจะสร้างความสุขในการทำงานและการมีชีวิตได้อย่างไร ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่นาน เขาเพิ่งรู้ว่าตนป่วยเป็นมะเร็ง ในยามที่ความตายเข้ามาเฉียดใกล้ เราจึงตระหนักถึงการมีชีวิตอยู่ได้อย่างเด่นชัด ในห้วงเวลานั้นคริสเตนเซนจึงได้ใคร่ครวญว่าชีวิตของตนตอนนี้เป็นอย่างไร มนุษย์ทุกวันนี้จัดสรรเวลา พลังงาน และปัญญาไปกับสิ่งใด การได้มองเห็นภาพรวมของสิ่งเหล่านั้นจะช่วยให้การเดินทางไปสู่เป้าหมายอย่างเป็นสุขนั้นไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป และเราจะได้เดินไปตามแนวทางที่ว่านั่น
บุพเพสันนิวาส
ผู้เขียน: รอมแพง
สำนักพิมพ์: Happy Banana
จากนวนิยายพีเรียดเล่มหนาสู่ละครดังที่สร้างกระแส “ออเจ้า” ไปทั่วประเทศ ยอดตีพิมพ์ใหม่หนึ่งแสนเล่มภายในเวลาเพียงสามเดือนก่อนละครเริ่มออนแอร์ เมื่อละครออกอากาศจำนวนหนังสือก็จำหน่ายจนหมด และต้องพิมพ์เพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก
คุณอุ้ย-จันทร์ยวีร์ สมปรีดา หรือเจ้าของนามปากกา รอมแพง เปิดผยว่าเธอใช้เวลาในการเขียนนวนิยายเรื่องนี้เพียงหนึ่งเดือน แต่ใช้เวลาในการศึกษาค้นคว้าข้อมูลนานถึงสามปี จนออกมาเป็นผลงานที่ผู้อ่านชื่มชมมากขนาดนี้
เรื่องราวของแม่หญิงการะเกดเริ่มขึ้นจากอุบัติเหตุของนักโบราณคดีสาว เธอชื่อ เกศสุรางค์ แต่แทนที่เมื่อลืมตา เธอจะตื่นมาในโลกใบเดิมที่ทุกอย่างกำลังพัฒนาและก้าวไกลไปเรื่อยๆ เกศสุรางค์กลับตื่นขึ้นมาในร่างของแม่หญิงการะเกด ที่น่าประหลาดไปกว่านั้นคือที่นั่นเป็นยุคสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
เดิมทีการะเกดเป็นคนที่มีจิตใจอาฆาตมาดร้าย เธอร้ายถึงขนาดสั่งฆ่าคน ซึ่งนี่เองเป็นเหตุผลให้ชะตาลงโทษเธอด้วยการนำวิญญาณออกจากร่าง แต่กลายเป็นว่าร่างนั้นกลับมีเกศสุรางค์มาแทนที่ ความวุ่นวายจึงบังเกิด ไม่ใช่แค่กับเกศสุรางค์ แต่ยังรวมไปถึงคนรอบข้างในเวลานั้นด้วย
Tags: หนังสือ, เรื่องสั้น, สารคดี, นวนิยาย