“มนุษย์ใช้เวลานอนเฉลี่ย  1 ใน 3 ส่วนของชีวิต ความจริงข้อนี้สามารถยืนยันได้อย่างดีว่าการนอนหลับ คือสิ่งที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ

ใช่แล้ว การนอนคือกิจวัตรสุดแสนจะพื้นฐานของชีวิต มนุษย์ทุกคนต่างมีวิธีนอนหลับในแบบฉบับตัวเอง นอนมาก นอนน้อย แต่จุดมุ่งหมายล้วนเหมือนกัน นั่นคือการได้หยุดพักร่างกายให้หายเหนื่อยล้า ไม่เว้นแม้แต่บุคคลระดับประวัติศาสตร์โลกอย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ หรือ โทมัส อัลวา เอดิสัน ที่ใช้การนอนเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญเพื่อขับเคลื่อนสร้างสรรค์ผลงาน 

ตัดมายังโลกปัจจุบัน สังคมมนุษย์ตอนนี้ดูจะให้ความสำคัญกับการนอนลดน้อยลง และให้เวลาต่อกิจวัตรอื่นๆ มากกว่า อาจเพราะด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เรื่องเรียน เรื่องงาน ทุกคนต่างวิ่งแข่งกันจนลืมพักผ่อน บางคนอาจหลุดปากบ่นออกมาว่าหนึ่งวันควรมีเวลามากกว่า 24 ชั่วโมง ฟังดูผิวเผินเหมือนเพียงเรื่องล้อเล่นธรรมดา แต่กลับแฝงไปด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าในหนึ่งวันเราใช้เวลาไปอย่างรวดเร็วจนแทบไม่มีเวลาพักหายใจ และผลลัพธ์ที่ได้นอกจากความเหนื่อยล้าแล้วยังทำให้เราไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคซึมเศร้า ไทรอยด์ และอาการขาดสมาธิ

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ผู้เขียนจึงอยากแนะนำให้รู้จักกับหนังสือ เทคนิคหลับสนิท นอนน้อยแค่ไหนก็สดชื่น หนังสือระดับเบสต์เซลเลอร์ในประเทศญี่ปุ่น ที่ว่าด้วยเรื่องการแนะนำเทคนิควิธีนอนหลับพักผ่อน โดย ‘นายแพทย์ซาโตรุ ทสึโบตะ’ ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ จากสมาคมส่งเสริมการนอนหลับแห่งประเทศญี่ปุ่น ที่ทำการค้นคว้าวิจัยความลับของมนุษย์กับกิจวัตรการนอนเป็นเวลา 20 ปี จนเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ว่ามนุษย์ควรมีช่วงเวลานอนแบบไหนถึงจะเพียงพอเหมาะสมต่อร่างกาย และเทคนิคอย่างไรที่สามารถย่นระยะเวลานอนที่มีจำกัด แต่ได้ผลลัพธ์กลับมาแบบเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเรื่องง่ายดายเหลือเกิน  

โดยภายในหนังสือ นายแพทย์ซาโตรุใช้วิธีแบ่งเนื้อหาหลักเป็น 2 ส่วน ยิบย่อยด้วย 4 ขั้นตอนหลัก 

ส่วนแรก คือเทคนิคนอนหลับสนิทเต็มที่ 5 ชั่วโมง เป็นวิธีเพิ่มคุณภาพการนอนด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่

1. เพิ่มประสิทธิภาพการนอนด้วยเทคนิคหลับง่าย-ตื่นไว

2. เพิ่มคุณภาพการนอน พร้อมฟื้นฟูสมองและร่างกายแบบฉับไว

3. วิธีงีบหลับระหว่างวันที่ทำให้ไม่เหนื่อยและไม่เพลีย

และส่วนที่สอง กับการตื่นนอนในช่วงเวลา ‘ตีห้า’ ให้เป็นกิจวัตรประจำวัน ซึ่งเป็นวิธีการนอนที่ได้รับการยืนยันจากทางการแพทย์แล้วว่าเหมาะสม โดยใช้การย่นระยะเวลา 4 ขั้นตอน ภายใน 2 เดือน

ขอขยายความวิธีทั้งสองส่วนแบบสั้นๆ เริ่มที่ส่วนแรก ‘เทคนิคนอนหลับสนิทเต็มที่ 5 ชั่วโมง’ เพราะการนอนหลับให้ถึง 8 ชั่วโมงเต็มดั่งใจหวังคงยาก แค่จะลากสังขารกลับมาหลังเลิกงานก็ปาเข้าไป 2-3 ทุ่มแล้ว ซึ่งโดยปกติ เมื่อหัวถึงหมอนคงไม่หลับแบบทันทีทันใด ยังไงก็คงต้องขอเวลาส่วนตัวบ้างเสียหน่อยสำหรับดูทีวี เล่นเกม เล่นโทรศัพท์มือถือ แต่หากทำแบบนั้นย่อมทำให้การนอนหลับไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะแสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือที่สาดใส่ลูกตาซึ่งรบกวนต่อสายตาและสมองยามนอน รวมถึงความเครียดที่หิ้วกลับมาตั้งแต่ที่ทำงาน ฉะนั้นเราจะนอนดึกก็ได้ แต่ภายใน 5 ชั่วโมงซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่เราหลับลึกที่สุด ต้องโยนทุกอย่างทิ้งให้หมด ย้ำกับตัวเองว่านอนคือนอน อาจจะใช้สิ่งเร้าภายนอกช่วยให้ประสิทธิภาพการหลับดีมากยิ่งขึ้น ทั้งเทียนหอม ชุดเครื่องนอน หรือแม้แต่หัวหอมใหญ่ที่มีสาร ‘ไดแอลลิลซัลไฟด์’ (Diallyl Disulfide) กลิ่นของหัวหอมจะช่วยให้ผ่อนคลาย รู้สึกสงบมากยิ่งขึ้น

ส่วนที่สอง ‘ตื่นนอนในช่วงเวลาตีห้า ให้เป็นกิจวัตรประจำวัน’ เมื่อได้ต้นทุนจากส่วนแรกมา ส่วนที่สองนี้คือการตั้งปณิธานกับตัวเองว่าหากตื่นตั้งแต่ตีห้าได้ เราจะมีเวลาให้กับตัวเองตอนเช้ามากยิ่งขึ้น ไม่ต้องรีบร้อน ออกกำลังกาย ดูหนังดีๆ สักเรื่อง เตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับงาน หาเป้าหมายของการตื่นเช้าให้เจอก่อน แล้วค่อยๆ ปรับตัวไป เริ่มขยับจากตื่นตอนเวลา 7 โมงเช้า ขยับลงทีละ 15–120 นาทีตามลำดับ ภายในระยะเวลา 2 เดือน คุณจะกลายเป็นคนที่มีเวลาตื่นนอนเป็นระเบียบ ส่งผลดีต่อชีวิตอย่างมากจนน่าอิจฉา

ภายในหนังสือ เทคนิคหลับสนิท นอนน้อยแค่ไหนก็สดชื่น ยังคงแทรกด้วยเนื้อหายิบย่อยของเทคนิคการนอนไว้อีกมากมาย แม้แต่เคล็ดลับของคนระดับโลกกับการนอน อย่างประเด็น ทำไม ‘สตีฟ จ็อบส์’ กับ ‘บิล เกตส์’ ถึงจำเป็นต้องมีเวลาพักสายตาให้แก่พนักงาน หรือเคล็ดลับแค่หลับตา 1 นาทีสั้นๆ ก็ช่วยให้ปัญหาง่วงเหงาหาวนอนระหว่างวันดีขึ้น เรื่องทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้แทบจะนำไปปรับใช้ได้กับทุกคน เพียงหาจุดที่เหมาะสมว่าเวลารูปแบบการนอนไหนเหมาะกับเรา

เมื่ออ่านจบ ความรู้สึกตอนแรกที่คิดว่าต้องเป็นเรื่องวิชาการทางการแพทย์ เนื้อหาหนักๆ แน่นๆ ย่อยยาก แต่ความจริงแล้วไม่เลยสักนิด เทคนิคใหญ่ๆ ทั้ง 2 ส่วนที่ว่าใช้เพียงการควบคุมร่างกายง่ายๆ เรื่องพื้นฐานที่เราล้วนมองข้ามไป แท้จริงแล้วสุขภาพที่ดีแทบไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรกับมันให้มากมาย ลองเปิดใจหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา แล้วทดลองนำไปใช้ตามทีละขั้นตอน ซึ่งสุดท้ายแล้วคงเข้าใจได้ถ่องแท้ว่าการนอนที่ดีมีคุณภาพนั้นช่างส่งผลบวกต่อตัวเราได้มากเหลือเกิน…

Fact Box

  • เทคนิคหลับสนิท นอนน้อยแค่ไหนก็สดชื่น, ผู้เขียน นายแพทย์ซาโตรุ ทสึโบตะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ สมาคมส่งเสริมการนอนหลับแห่งประเทศญี่ปุ่น, ผู้แปล เมธินี นุชนาคา, สำนักพิมพ์อมรินทร์เฮลท์
Tags: ,