งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23 นี้ ต้อนรับผู้อ่านกันด้วยคอนเซ็ปต์ ‘อ่านออกเสียง’ ซึ่งงานนี้ก็คงเต็มไปด้วยขบวนหนังสือทัพใหญ่ไม่ต่างจากครั้งก่อนๆ หนังสือหลายหมวดหมู่จากหลากสำนักพิมพ์เริ่มทยอยออกมาให้เราเห็นหน้าค่าตากันบ้างแล้ว และมันก็คงเขย่าหัวใจผู้อ่านอย่างเราไม่มากก็น้อย
แน่ล่ะว่าหนังสือจากงานครั้งก่อน หรือว่าจากปีที่แล้วหรือสองปีที่แล้ว เราอาจจะยังอ่านกันไม่หมด แต่มันก็เหมือนเป็นพิธีกรรมอะไรสักอย่างของชาวเราที่มักอยากได้หนังสือดีๆ มาครอบครองไปเสียทุกเล่ม แม้มันจะสวนทางกับเวลาอ่านที่เรามี เรายังยืนยันหนักแน่นว่าหนังสือเหล่านั้นจะต้องถูกนำมาวางประดับชั้น
และจากทั้งหมดทั้งมวล บทความนี้เราขอนำเสนอหนังสือแปล 5 เล่มที่คู่ควรและน่าจับจองเป็นเจ้าของ มากมายด้วยอรรถรสและคุณภาพที่เราไม่อยากให้คุณพลาด
ออร์แลนโด: ชีวประวัติ
ผู้เขียน: Virginia Woolf
ผู้แปล: จุฑามาศ แอนเนียน
สำนักพิมพ์: Library House
นวนิยายที่เขียนในรูปแบบชีวประวัติ ที่ผู้เล่าเป็นบุรุษที่ 3 ผู้คอยเฝ้าดูและคอยบันทึกเหตุการณ์ชีวิตของออร์แลนโด
เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคสมัยพระนางเจ้าเอลิซาเบธที่ 1 ‘ออร์แลนโด’ เป็นหนุ่มสูงศักดิ์วัย 16 ปี ผู้อยู่ในฐานะขุนนาง เขาเปี่ยมเสน่ห์ สง่างาม เป็นที่รัก สุภาพ และพานพบหญิงงามมากมาย ชีวิตเขาพลิกผันและเปลี่ยนแปลงไปในวัย 30 ปี เมื่อตื่นขึ้นและพบว่ากาลเวลาในศตวรรษที่ 16 แปรเปลี่ยนเป็นศตวรรษที่ 18 จากหนุ่มรูปงามกลายเป็นหญิง เขาไม่ได้ประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองเท่าไร และไม่พยายามเปลี่ยนแปลงหรือหาเหตุผลอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขากลายเป็น “เธอ” และดำเนินชีวิตต่อไปในรูปแบบนั้น จิตวิญญาณี่เปี่ยมไปด้วยอิสระนั้นยังคงเดิม เพียงแต่เมื่อกฎเกณฑ์ทางสังคมเปลี่ยนไป ท่าทีและความคิดบางอย่างของออร์แลนโดจึงชวนให้ผู้อ่านตั้งคำถาม และวิพากษ์วิจารณ์ถึงสิ่งละอันพันละน้อยเกี่ยวกับสังคม
สิ่งที่สะท้อนออกมาจากผลงานเรื่องนี้ของเวอร์จิเนีย วูล์ฟ จึงไม่ใช่แค่เรื่องเพศสภาพเท่านั้น เมื่อผู้คนเปลี่ยน ค่านิยมไม่เหมือนเดิม และประเพณีกลายเป็นตัวชี้วัดคุณค่าของผู้คน นี่จึงเป็นผลงานที่เต็มไปด้วยสิทธิและเสรีภาพทางความคิด ความเท่าเทียม อคติ ซ่อนเร้นด้วยนัยยะ แต่ก็เปิดเผยและวิพากษ์สังคมอย่างตรงไปตรงมา ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยความรักต่อบุคคลคนหนึ่ง ความงดงามในรายละเอียดของเรื่องเล่าที่จะนำผู้อ่านไปสู่รักอันบริสุทธิ์และความกล้าหาญของเวอร์จิเนีย วูล์ฟ
ปานหยาดน้ำผึ้ง
ผู้เขียน: Rupi Kaur
ผู้แปล: พลากร เจียมธีระนาถ
สำนักพิมพ์: Her Publishing
หนังสือรวมบทกวีและความเรียงจากนักเขียนหญิง รูปี กอร์ ผู้ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดคนหนึ่ง Milk and honey เป็นผลงานเล่มแรกของเธอ ซึ่งมียอดขายถึง 2.5 ล้านเล่ม โดยหนังสือถูกแบ่งออกเป็น 4 บท ซึ่งประกอบไปด้วย ‘The Hurting’ การบาดเจ็บและความขมขื่น, ‘The Loving’ สำรวจความหลงใหลในความรัก, ‘The Breaking’ ความเจ็บปวดในความเสียใจ และ ‘The Healing’ การเยียวยาบาดแผล
ทั้งหมดร้อยเรียงกันและสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกนึกคิดของตัวผู้เขียนเอง มันทั้งสมดุล รัดกุม ลึกซึ้ง รวมถึงมีความซับซ้อนในความเรียบง่าย ประสบการณ์ทั้งหลายเสริมสร้างให้เธอเป็นเธอ ช่วงชีวิตที่มีทั้งความรักและการสูญเสียขับเน้นให้งานเขียนของเธอมีสุนทรียะและมุมมองที่แตกต่างออกไป มันจึงคมคายและจับใจผู้อ่านได้อย่างง่ายดาย
ในความเจ็บปวดนั้นร้าวรานมากกว่าทางกาย ในความรักนั้นมีทั้งความสุขสมระคนความเศร้า ในความเสียใจนั้นประกอบไปด้วยความไร้เดียงสา และในการเยียวยานั้นจะพาเราก้าวผ่านทุกสิ่งที่ผ่านมา
เด็ดเดี่ยวแม้โดดเดี่ยว
ผู้เขียน: Katja Pantzar
ผู้แปล: กัญญ์ชลา นาวานุเคราะห์
สำนักพิมพ์: openbooks
ค้นหาความกล้าหาญและความสุขที่รายล้อมคุณ ด้วยหนังสือเล่มนี้ที่จะพาผู้อ่านก้าวไปสู่ฟินแลนด์
Katja เป็นนักเขียน บรรณาธิการและผู้สื่อข่าว เธอเกิดที่ฟินแลนด์ เติบโตและได้รับการศึกษาที่แคนาดา แต่ตลอดระยะเวลาในการเติบโต ความว่างเปล่าและการไร้ความสุขก็ได้ค่อยๆ เติบโตตามเธอไปด้วย จนวันหนึ่งเธอก็พบว่าตัวเองตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า
Katja เริ่มรักษาตัวโดยการหาหมอและกินยาตามที่หมอสั่ง แต่นั่นทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไรนัก หลังจากย้ายไปประเทศฟินแลนด์ เธอค้นพบแนวทางคิดที่คนฟินแลนด์เรียกว่า ซิสุ (SISU) หรือ ความเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ มุมานะ Katja ใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานนี้ ซึ่งส่งผลให้เธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทั้งในแง่สุขภาพและความสุขในตัวเธอเอง
Katja ออกกำลังกายง่ายๆ ด้วยการปั่นจักรยานไปทำงาน กินอาหารโฮมเมด ว่ายน้ำในสถานที่ธรรมชาติ เปลือยกายในห้องซาวน่ากับคนแปลกหน้า และเธอยังทำอีกหลายกิจกรรมที่ช่วยให้ความเหนื่อยล้าและความกังวลของเธอค่อยๆ บรรเทาและเบาบางลง จนความเจ็บปวดที่มีจางลงช้าๆ อย่างต่อเนื่อง ช่วงเวลาแห่งความเดียวดายจะเป็นเพียงอดีต ความเหน็บหนาวของชีวิตจะเป็นเพียงสิ่งที่ผ่านมา และมันจะถูกแทนที่ด้วยความพึงพอใจในชีวิต ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
เมา: ประวัติศาสตร์แห่งการร่ำสุรา
ผู้เขียน: Mark Forsyth
ผู้แปล: ลลิตา ผลผลา
สำนักพิมพ์: Bookscape
ความเมามายคงเป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตที่ทุกคนพบเจอ และหากถามว่าประสบการณ์ในการดื่มของคุณเริ่มต้นขึ้นตอนอายุเท่าไร หลายคนคงตอบได้อย่างชัดเจน
แต่ความสนุกของหนังสือเล่มนี้ไม่ได้อยู่ที่จุดนั้นหรือจุดไหนๆ ในชีวิตคุณ หากแต่อยู่ในประวัติศาสตร์ของความเมามาย มนุษย์เริ่มร่ำสุรากันตั้งแต่ตอนไหน ทำไมความเมาถึงกลายเป็นเรื่องสากล แล้วความเมาแตกหน่อออกกอไปให้เราเห็นอะไรได้บ้าง? อย่างตำนาน ความเชื่อ ศาสนา การเมือง วัฒนธรรม และวิวัฒนาการของเครื่องดื่ม ตลอดจนผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการดื่มชนิดนี้
มนุษย์ดื่มเพื่อเฉลิมฉลอง ดื่มเพื่อละลายความเศร้า ดื่มเพื่อบรรเทาความคิดถึง ดื่มเพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้า และอีกหลายเหตุผลที่จะหยิบยกมา มาร์ก ฟอร์ไซธ์ เปรียบเสมือนบาร์เทนเดอร์ที่จะพาคุณท่องไปกับความเมามาย ความหวานหอมและขมเฝื่อนนี้ไม่ได้อยู่ที่ปลายลิ้น แต่อยู่ในเรื่องเล่าเลิศรสที่พร้อมให้คุณพลิกอ่าน เชิญสำรวจความเมามายในหลากหลายวัฒนธรรมทั่วโลก ทั้งสุเมเรียน อียิปต์โบราณ จีน รัสเซีย และอเมริกา
เก็บกระเป๋าไปดาวอังคาร: สารพัดเรื่องราวเฮฮาและโหยไห้ในประวัติศาสตร์การสำรวจอวกาศของมนุษย์
ผู้เขียน: Mary Roach
ผู้แปล: สฤณี อาชวานันทกุล
สำนักพิมพ์: Salt Publishing
คุณคิดว่าจักรวาลที่เวิ้งว้างนั้นฟังดูโรแมนติกไหม? ในที่ที่ไกลแสนไกลและไม่มีใครอยู่บนนั้น ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตและทำได้เพียงคิดถึงใครบางคน อวกาศฟังดูเป็นสถานที่ไกลเกินเอื้อมถึง และบางคนอาจมีภาพจำเป็นแอนิเมชัน เสียงเพรียกจากดวงดาว ของผู้กำกับมาโคโตะ ชินไค (ผู้กำกับอนิเมชั่น 5 Centimeters Per Second และ Your Name) ที่แสนจะโรแมนติกขึ้นไปอีก
แต่กับหนังสือเล่มนี้ของแมรี โรช นั้น จะลบล้างทุกความหวานชื่นนั้นออกไป แทนที่ด้วยความรู้และความสนุกขบขัน คำถามหลายคำถามนั้นน่าสนใจและเชื่อว่าอาจเคยเกิดขึ้นกับตัวเราบางคน อวกาศอันว่างเปล่านั้นทำไมจึงเป็นที่สนใจของมนุษย์นักหนา แมรีจะพาเราไปสำรวจทุกซอกทุกมุมของชีวิตซึ่งต้องเก็บกระเป๋าออกห่างจากดาวโลก
การสำรวจอวกาศเป็นอีกวิธีการในการสำรวจความหมายของการเป็นมนุษย์ ทุกอย่างจะเริ่มต้นใหม่จากศูนย์สำหรับการดำเนินชีวิตและความอยู่รอด จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณไม่สามารถเดินได้หนึ่งปี? มนุษย์อวกาศกินอาหารอย่างไร? มีเซ็กซ์หรือไม่? การขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายเป็นไปด้วยความลำบากแค่ไหน? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอาเจียนในหมวกของชุดอวกาศระหว่างเดินทาง? เป็นไปได้ไหมที่ร่างกายมนุษย์จะอยู่รอดได้หากสละยานอวกาศในอัตราเร็ว 17,000 ไมล์ต่อชั่วโมง? และพวกเขามีวิธีการรับมือกับความเครียดในภาวะไร้น้ำหนักอย่างไร? คำถามเหล่านี้จะได้รับคำตอบ ปริศนามากมายที่ไม่ได้รับการบอกเล่าจากนาซาจะอยู่ที่ปลายปากกาของเธอ ทั้งหมดอาจฟังดูเป็นเรื่องตลก แต่สำหรับหนึ่งชีวิตที่ต้องท่องไปสู่ความความว่างเปล่าและดำมืดนั้น แท้จริงแล้วพวกเขารู้สึกอย่างไรกัน?
Fact Box
มหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 23 และเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชนครั้งที่ 12 จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 - 28 ต.ค. 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์