ธรรมนัสรับทราบปัญหา ‘แบดมินตัน’ ระบุ ‘หมักหมมมานาน’ หลัง หมิว พรปวีณ์ ถอนตัวซีเกมส์

วันนี้ (28 ตุลาคม 2568) ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนภายหลัง หมิว-พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ นักแบดมินตันหญิงของไทย มือที่ 6 ของโลก ประกาศ ‘ไม่เข้าร่วม’ การแข่งขันซีเกมส์ (SEA Games) ประจำปี 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ได้ดีเพียงพอ

ก้องศักดกล่าวว่า ได้ทราบรายงานในเรื่องนี้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เพื่อร่วมกันหาทางออกให้เร็วที่สุด

ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทยยังกล่าวต่อไปว่า เป้าหมายระยะสั้นคือการทำให้พรปวีณ์เปลี่ยนใจกลับมาเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ ขณะที่เป้าหมายระยะกลางคือ แก้ไขปัญหาระบบการจัดการและการสื่อสารของสมาคมกับนักกีฬา ส่วนเป้าหมายระยะยาวคือ การวางระบบการบริหารงานของสมาคมกีฬาใหม่ทั้งหมด

กกท.ต้องการเห็นนักกีฬาคนสำคัญอย่างพรปวีณ์ กลับมาช่วยทีมในซีเกมส์ครั้งนี้ เพราะถือเป็นหนึ่งในกำลังหลักของแบดมินตันไทย เราไม่อยากเสียบุคลากรที่มีคุณค่าเช่นนี้ และอยากเห็นน้องได้ลงแข่งขันเพื่อเป็นเกียรติแก่ตนเองและประเทศชาติ” ก้องศักดระบุ

ขณะที่ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาในวงการกีฬาของแต่ละสมาคมหมักหมมมาเป็นเวลานาน ในฐานะนายกฯ สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยเองก็เห็นโครงสร้างปัญหา โดยกำกับว่าต้องสะสางและดำเนินการแก้ไขเมื่อมีโอกาสทำหน้าที่ดูแลกีฬา

ทั้งนี้ร้อยเอกธรรมนัสระบุว่า ในวันนี้จะมีการแต่งตั้ง นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนวงการกีฬาให้เป็นรูปธรรม

ส่วนประเด็นการหักเบี้ยเลี้ยงสวัสดิการ รองนายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นเรื่องของขวัญกำลังใจ ซึ่งทีมงานของตนและนาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ รวมถึง หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ ‘เสธ.หิ’ จะเข้ามาช่วยดูแล

สำหรับจุดเริ่มต้นของปมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อพรปวีณ์ยื่นจดหมายเพื่อถอนตัวจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ประจำปี 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดนระบุเหตุผลว่า ไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดีพอจากสมาคมฯ ซึ่งนักกีฬาต้องแก้ไขปัญหาเองในหลายกรณี

นอกจากนั้นนักกีฬายังไม่ได้รับการดูแลจากสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ อย่างเต็มที่จนคิดว่า ‘ไม่สามารถร่วมงาน’ กับฝ่ายบริหารของสมาคมฯ ได้

ทั้งนี้พรปวีณ์เปิดใจว่า เหตุผลการยื่นจดหมายครั้งนี้เพื่อต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะเชื่อมั่นว่าในอนาคตนักกีฬาแบดมินตันชาวไทยจะไม่สามารถพัฒนาความสามารถได้อย่างเต็มที่

ส่วนประเด็นการโดนตัดเบี้ยเลี้ยงเก็บตัวจาก 6 หมื่นบาท เหลือ 2 หมื่นบาท นักแบดมินตันมือ 6 ของโลกยอมรับว่า ‘ไม่ได้ติดใจ’ เนื่องจากไม่ได้ทดสอบร่างกายครบตามที่การกีฬาแห่งประเทศไทยกำหนด ซึ่งตนพร้อมคืนเงินทั้งหมด