‘เวอร์จิเนีย จุฟเฟร’ สาวผู้ให้การว่า เป็นเหยื่อของเอปสตีน-เจ้าชายแอนดรูว์ ปลิดชีวิตตัวเองแล้วในวัย 41 ปี

**บทความนี้พูดถึงการฆ่าตัวตายและการค้าประเวณี**

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เวอร์จิเนีย จุฟเฟร (Virginia Giuffre) หญิงสาวผู้เคยออกมาเล่าประสบการณ์ถูกค้าประเวณีโดย เจฟฟรีย์ เอปสตีน (Jeffrey Epstein) และถูกล่วงละเมิดทางเพศโดย เจ้าชายแอนดรูว์ (Prince Andrew) แห่งราชวงศ์อังกฤษ ได้เสียชีวิตแล้วในวัย 41 ปี

ครอบครัวผู้เสียชีวิตแจ้งว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่จากการขุดคุ้ยของสาธารณชน พบโพสต์ของจุฟเฟรที่กล่าวว่า “ฉันไม่มีความคิดอยากฆ่าตัวตายสักนิด” และ “มีคนเลวอยากปิดปากฉัน” นอกจากนั้นจุฟเฟรยังเพิ่งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปเมื่อปลายเดือนมีนาคม ทำให้เกิดข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับสาเหตุการตายที่แท้จริงของเธอ

ผู้อ่านบางคนอาจพอรู้เรื่อง ‘คดีเอปสตีน’ มาบ้าง บางคนอาจแค่เคยได้ยินผ่านๆ หรือบางคนอาจไม่รู้เลย ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คอลัมน์ Gender สัปดาห์นี้ The Momentum ขออาสาพาทบทวนคดีฉาวระดับโลกอีกครั้ง และรำลึกถึงความกล้าหาญของจุฟเฟร เหยื่อผู้ยืนหยัดพูดปกป้องตัวเองมาโดยตลอด ตราบจนวันที่ไม่มีโอกาสพูดอีกต่อไป

คดีเอปสตีนคือคดีอะไร

เจฟฟรีย์ เอปสตีน เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันที่คลุกคลีกับสังคมอีลีต เขามีเพื่อนผู้ทรงอิทธิพลมากมาย เช่น โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump), บิล คลินตัน (Bill Clinton) และเจ้าชายแอนดรูว์ที่กล่าวถึงไปข้างต้น

“ผมรู้จักกับเจฟฟ์ (เอปสตีน) มา 15 ปี เขาเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยม” ทรัมป์กล่าวถึงเอปสตีนในปี 2002 “เวลาอยู่กับเขาแล้วสนุกมาก เขาชอบผู้หญิงสวยๆ เหมือนผม แถมหลายคนก็เป็นผู้หญิงอายุน้อย”

เอปสตีนและทรัมป์ในปี 1997 (ที่มา: Davidoff Studios)

ในปี 2005 เด็กสาวอายุ 14 ปีเข้าแจ้งความเป็นครั้งแรกว่า ถูกเอปสตีนล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนจะมีเด็กสาวคนอื่นๆ แจ้งความตามมา จนกระทั่งเอปสตีนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ในปี 2008 เขาสารภาพผิด 2 ข้อหาคือ ซื้อบริการทางเพศและซื้อบริการทางเพศจากผู้เยาว์ โดยได้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 18 เดือน

ที่น่าสนใจคือ ระหว่างติดคุก 18 เดือนนี้ อเล็กซานเดอร์ อคอสตา (Alexander Acosta) อัยการในฟลอริดา ช่วยต่อรองดีลลับให้กับเอปสตีน ทำให้สุดท้ายติดคุกเพียง 13 เดือนเท่านั้น ทั้งยังเป็น 13 เดือนที่สามารถออกไปทำงานตอนกลางวัน แล้วค่อยกลับมานอนคุกตอนกลางคืนได้ด้วย ต่อมาในปี 2016 อคอสตากลายเป็นรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานให้กับรัฐบาลทรัมป์

ปี 2018 สำนักข่าว Miami Herald เริ่มขุดคุ้ยคดีเอปสตีน เนื่องจากระแคะระคายหลายอย่าง และในที่สุดเดือนกรกฎาคม 2019 เอปสตีนก็ถูกจับอีกครั้งข้อหาค้าประเวณี โดยมีรายงานว่า เขาทำหน้าที่เป็นพ่อเล้า ล่อลวงเด็กสาวอายุน้อยมาประเคนให้กับอีลีตจำนวนมากทั้งในแวดวงธุรกิจ บันเทิง การเมือง ฯลฯ ซึ่งเด็กสาวหลายคนไม่ได้ยินยอม

อย่างไรก็ตามในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ระหว่างที่ถูกคุมขังและรอการพิจารณาคดีขั้นถัดไปอยู่ เอปสตีนกลับฆ่าตัวตายอย่างกะทันหันในคุก จึงต้องยกเลิกการพิจารณาคดีไปอย่างไม่มีทางเลือก ทั้งที่อะไรๆ ยังคาราคาซัง

ล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 รายงานจากอัยการร่วมกับ FBI เผยว่า เอปสตีนมีเหยื่อเป็นเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมากกว่า 250 คน

จุฟเฟรเกี่ยวข้องกับคดีนี้อย่างไร

ในปี 2000 จุฟเฟร วัย 17 ปี ทำงานเป็นพนักงานห้องล็อกเกอร์อยู่ที่รีสอร์ตมาร์อาลาโก (Mar-a-Lago Resort) ในฟลอริดา ซึ่งเป็นรีสอร์ตของทรัมป์ จุฟเฟรพบกับไฮโซชาวอังกฤษ กิสเลน แมกซ์เวลล์ (Ghislaine Maxwell) ที่นั่น และถูกทาบทามให้ไป ‘ทำงานนวด’

หารู้ไม่ว่า แมกซ์เวลล์เป็นแฟนสาวและผู้สมรู้ร่วมคิดการค้าประเวณีของเอปสตีน

จากคำให้การของจุฟเฟร เอปสตีนพาเธอไปหาลูกค้าระดับสูงมากมายในช่วงปี 2000-2002 และถูกพวกเขาเหล่านั้นล่วงละเมิดทางเพศ ประกอบไปด้วยเจ้าชายแอนดรูว์, บิล ริชาร์ดสัน (Bill Richardson) อดีตผู้ว่าการรัฐนิวเม็กซิโก และมาร์วิน มินสกี (Marvin Minsky) หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ผู้บุกเบิกด้าน AI ฯลฯ

ปัจจุบันทั้งริชาร์ดสันและมินสกีเสียชีวิตไปแล้ว

ในปี 2009 หลังจากมีการสืบสวนเอปสตีนครั้งแรก จุฟเฟรเป็นหนึ่งในบรรดาเด็กสาวที่ยื่นฟ้องเขาด้วย แต่สุดท้ายเธอก็ยอมถอนฟ้อง แล้วรับเงินไกล่เกลี่ยจำนวน 5 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ

ในปี 2021 เมื่อเรื่องของเอปสตีนถูกขุดขึ้นใหม่ จุฟเฟรจึงตั้งใจจะลองสู้อีกสักตั้ง เธอฟ้องเจ้าชายแอนดรูว์ข้อหาบังคับให้เธอมีเซ็กซ์ 3 ครั้งในลอนดอน นิวยอร์ก และเกาะส่วนตัวของเอปสตีน

“ฉันจะให้เจ้าชายแอนดรูว์มารับผิดชอบต่อสิ่งที่เขาทำกับฉัน ถึงมีอิทธิพลและรวยก็ต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง” จุฟเฟรกล่าว “ฉันหวังว่าเหยื่อคนอื่นๆ จะได้เห็นว่า เราไม่จำเป็นต้องอยู่แบบเงียบๆ และหวาดกลัว เราสามารถทวงคืนชีวิตของเราได้ โดยการพูดมันออกมาและเรียกร้องความยุติธรรม”

ทางด้านเจ้าชายแอนดรูว์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมกับยืนกรานว่า “ผมจำไม่ได้เลยสักนิดว่าเคยเจอผู้หญิงคนนี้”

ทั้งนี้ทั้งนั้นมีรูปถ่ายเป็นหลักฐานว่า เจ้าชายเคยเจอจุฟเฟรจริงและเคยโอบเอวเธอ นอกจากนั้นเขายังรู้จักกับเอปสตีนมานาน แม้กระทั่งในปี 2010 หลังจากเอปสตีนติดคุกไปรอบหนึ่งแล้ว เขาก็ยังไปพักที่บ้านของเอปสตีน

ในปี 2022 เจ้าชายตัดสินใจจ่ายเงินไกล่เกลี่ยให้กับจุฟเฟรเพื่อจบคดีนอกศาล

เจ้าชายแอนดรูว์โอบเอวจุฟเฟรในปี 2001 โดยมีแมกซ์เวลล์ยืนอยู่ด้านหลัง (ที่มา: Florida Southern District Court)

เจ้าชายแอนดรูว์และเอปสตีนในปี 2010 (ที่มา: Jae Donnelly)

อุบัติเหตุและการเสียชีวิตของจุฟเฟร

วันที่ 30 มีนาคม 2025 จุฟเฟรโพสต์ภาพตัวเองนอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาล มีรอยฟกช้ำและแผลมากมายบนหน้า โดยเธอเขียนแคปชันเล่าว่า ระหว่างที่เธอขับรถอยู่มีรถบัสโรงเรียนพุ่งมาด้วยความเร็ว 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังมีอาการไตวายและ ‘พวกเขา’ ให้เธอมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 4 วัน

ภาพที่จุฟเฟรโพสต์เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2025 (ที่มา: @virginiarobertsrising11)

โพสต์ดังกล่าวสร้างความสับสนให้กับชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ถึงแม้รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียที่จุฟเฟรอาศัยอยู่จะเพิ่งมีอุบัติเหตุรถบัสจริงๆ แต่ตำรวจกล่าวว่า เป็นการชนกัน ‘เล็กน้อย’ ไม่มีผู้บาดเจ็บหนัก นอกจากนั้นแหล่งข่าวจากโรงพยาบาลก็แจ้งกับ CNN ว่า อาการของจุฟเฟรไม่ได้ร้ายแรงถึงชีวิต

ดังนั้นคำถามแรกคือ หากอุบัติเหตุทางจราจรไม่หนักหนาอะไร แล้วรอยช้ำบนหน้าเธอมาจากไหน

คำถามที่ 2 ‘พวกเขา’ ในโพสต์ของเธอคือใคร หากหมายถึงหมอ ก็ไม่น่าจะมีหมอที่ไหนบอกคนไข้ห้วนๆ ว่า เหลือเวลามีชีวิตเพียง 4 วัน

น่าเศร้าที่จุฟเฟรไม่มีโอกาสมาตอบคำถามทั้งหลาย หรืออธิบายอะไรเพิ่มเติมอีก เพราะเธอเสียชีวิตไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ทางครอบครัวรายงานว่า จุฟเฟรฆ่าตัวตายในฟาร์มของตัวเองที่เวสเทิร์นออสเตรเลีย อย่างไรก็ตามช่วงปลายปี 2019 จุฟเฟรเคยโพสต์ข้อความดังนี้

“ฉันจะขอพูดให้รู้โดยทั่วกันเลยนะว่า ฉันไม่มีความคิดอยากฆ่าตัวตายสักนิด ฉันบอกนักจิตวิทยาและหมอของฉันแล้วด้วย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับฉัน ช่วยเห็นแก่ครอบครัวฉัน อย่าปล่อยมันผ่านไปและช่วยปกป้องพวกเขาที มีคนเลวจำนวนมากเกินไปที่อยากปิดปากฉัน”

เป็นเหตุให้หลายคนกังขา คิดว่าต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่าการฆ่าตัวตายปกติ บ้างก็ไปไกลถึงขั้นตั้งทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ นานา

โพสต์ของจุฟเฟรในปี 2019 (ที่มา: @VRSVirgnia)

แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคุณจะมองการตายของจุฟเฟรอย่างไร ที่แน่ๆ คือเธอเป็นกำลังสำคัญในการเปิดโปงขบวนการค้าประเวณีสุดฉาว และความกล้าหาญของเธอสร้างแรงบันดาลใจให้กับเหยื่ออีกมากมาย

“เวอร์จิเนีย (จุฟเฟร) เป็นนักรบผู้แข็งแกร่งที่ต่อสู้กับการล่วงละเมิดทางเพศและการค้าประเวณี เธอเป็นแสงที่ช่วยอุ้มชูผู้รอดชีวิต (จากการล่วงละเมิดทางเพศ) อีกหลายคน” ครอบครัวของจุฟเฟรกล่าว “แม้จะเจออุปสรรคในชีวิตมากแค่ไหน เธอก็ส่องสว่างเหลือเกิน”