Whether the sky is dawning or dusking
we’re gonna transcend them all
things change, and we can do nothing about it
just letting go, feeling lighter, and becoming filled.
เชื่อว่าหลายคนไม่น้อยรู้จัก ฟูจิอิ คาเสะ (Fujii Kaze) จากเพลง Michi Teyu Ku (Overflowing) บทเพลงที่โด่งดังไปทุกแพลตฟอร์มในโซเชียลมีเดีย และกลายเป็นโชว์ที่ใครหลายคนเฝ้ารอในคอนเสิร์ต Best of Fujii Kaze 2020-2024 ASIA TOUR in Bangkok ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว เพลงดังกล่าวได้เปลี่ยนบรรยากาศฮอลล์สีดำให้กลายเป็นทะเลดวงดาวส่องประกายระยิบระยับ ขณะที่คาเสะบรรเลงถ่ายทอดบทเพลงนี้ได้อย่างหมดจดและงดงาม
We’re both letting go, feeling lighter, and becoming filled.
เราเป็นหนึ่งในนั้นที่รู้จักเขาจากบทเพลงที่เป็นดัง ‘สัจธรรม’ ของความรัก ที่คำว่า Overflowing นั่นอาจหมายถึง การปล่อยวาง ที่คาเสะมองว่า ความรักอยู่ภายในใจเราทุกคน เมื่อรักมากความรักจะล้นเอ่อออกมา แต่หากเมื่อไรที่เรารู้จักปล่อยวางจากการยึดติด เมื่อนั้นใจของเราจะเบาขึ้น และหัวใจจะกลับมาเติมเต็มอีกครั้ง
*ในบทความนี้ผู้เขียนจะใช้เนื้อเพลงที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อง่ายต่อการเข้าใจความหมาย
ผู้ชายที่สร้างโลกให้มีความสุขด้วยบทเพลง: ฟูจิอิ คาเสะ ในมุมของ คาเสะทาเรียน
ศิลปินที่น่าจับตามองแห่งยุคสมัย
ผู้บุกเบิก Generation ใหม่ของวงการดนตรีญี่ปุ่น
นักร้องผู้สร้างแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเจป็อป (J-pop) ต่อจากศิลปินในตำนานอย่าง อุทาดะ ฮิคารุ (Utada Hikaru)
ไม่ว่าชื่อของคาเสะ นักร้องหนุ่มวัย 27 ปีจากแดนอาทิตย์อุทัย ที่กำลังถูกจับตามองในฐานะ ‘คลื่นลูกใหม่’ แห่งวงการเพลงญี่ปุ่น จะถูกมองผ่านห้วงความทรงจำของผู้คนแบบใด แต่สำหรับ คาเสะทาเรียน (Kazetarian) กลุ่มแฟนด้อมที่เป็นดัง ‘ลมใต้ปีก’ ของคาเสะ เขาคือผู้ชายคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย สร้างความสุขผ่านบทเพลง และเยียวยาโลกทั้งใบด้วยเสียงดนตรี
เกิดและเติบโตด้วยดนตรีตั้งแต่จำความได้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงดนตรีที่บรรเลงทั้งวันในมิดชุม (Mitchum) คาเฟ่ในชานเมืองซาโตโช (Satocho) จังหวัดโอโกะยามา (Okayama) บ้านเกิดเมืองนอนของเขา หรือการหัดเล่นเปียโนไฟฟ้าใต้บันไดบ้านตั้งแต่อายุ 3 ขวบ จนถึงการคัฟเวอร์เพลงลงบน YouTube จนโด่งดังภายใต้การสนับสนุนของครอบครัว
ทั้งหมดนี้ล้วนบ่มเพาะความเป็นศิลปินในตัวคาเสะ สู่ใบเบิกทางถนนแห่งดวงดาว หลัง โทโมโนริ กาวาซุ (Tomonori Kawazu) หรือซุสซึซัง (Zuzzu-san) ผู้จัดการส่วนตัวคนสำคัญของคาเสะ เกิดต้องตาต้องใจในความสามารถอันล้นเหลือ และพยายามชักชวนเขาให้เข้าสู่วงการเพลง จนหนุ่มน้อยจากซาโตโชต้องยอมยกธงขาวต่อความสู้ยิบตาของซุสซึซังในท้ายที่สุด
เพราะการลงแรงทั้งกายใจจนได้ผลงานที่มีคุณภาพ และสิ่งเหล่านี้ย่อมไม่เคยทรยศใคร ความนิยมของคาเสะพุ่งถึงขีดสุดในปี 2022 จากเพลง Shinunoga E-Wa ที่ครองใจคนทั้งโลก ด้วยการเป็นไวรัลบนโลก TikTok อีกทั้งยังเป็นเพลงญี่ปุ่นที่มีการสตรีมบน Spotify มากที่สุดในโลกถึง 500 ล้านครั้ง ขณะที่ศักยภาพของเขายังได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์และแฟนเพลงในเชิงบวก
ทั้งความสามารถทางด้านดนตรีอันหลากหลาย การผสมผสานกลิ่นอายความเป็นตะวันตกเข้ากับตะวันออกอย่างลงตัวในบทเพลง รวมถึงการเป็นศิลปินที่สรรค์สร้างผลงานราวกับบทกวีที่คอยย้ำเตือนเรื่องราวในชีวิต จน ‘ตก’ ให้คนทั่วไปค้นพบพรสวรรค์และพรแสวงในผลงาน จนกลายเป็นแฟนคลับตัวยงติดตามผลงานของเขาจนถึงทุกวันนี้
แม้กราฟชีวิตคาเสะจะพุ่งสูง จนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์แถวหน้าของเจป็อป แต่ชีวิตส่วนตัวของเขายังคงเรียบง่ายและไม่ถือตัวเสมอมา เขาเปิดเผยว่า ตนเองเป็นมังสวิรัติ อีกทั้งยังขับเคลื่อนสังคมในประเด็นสิ่งแวดล้อมผ่านบทเพลงและคอนเสิร์ต โดยครั้งหนึ่ง ในคอนเสิร์ต Fujii Kaze LOVE ALL SERVE ALL STADIUM LIVE 2022 คาเสะเคยสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการสูญเสียอาหาร (Food Loss) ผ่านการสร้าง Food Loss Museum ด้วยการนำผักที่มีรูปลักษณ์ไม่สวยงาม หรือ ‘ไม่ได้มาตรฐาน’ ในโลกของการตลาด มาจำหน่ายและกระตุ้นให้ทุกคนบริโภคผักมากขึ้น
“ไทยคือประเทศที่แสนพิเศษ พวกเขาเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมจัดคอนเสิร์ตเอเชียทัวร์”
จากคำพูดของคาเสะในปี 2023 ถึงเบื้องหลังคอนเสิร์ต Fujii Kaze and the piano Asia Tour in Bangkok วันนี้ ชายผู้เป็นปรากฏการณ์แห่งวงการเพลงญี่ปุ่น กลับสู่อ้อมอกของคาเสะทาเรียนชาวไทย พร้อมกับคอนเสิร์ต ‘ที่สุดแห่งที่สุด’ อย่าง Best of Fujii Kaze 2020-2024 ASIA TOUR in Bangkok โดยตอกย้ำความนิยมด้วยการเป็นศิลปินเดี่ยวญี่ปุ่นคนแรก ที่สามารถจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตในอิมแพ็ค อารีนา (Impact Arena) หมดทั้ง 2 รอบ ภายในระยะ 1 วันได้สำเร็จ
Best of Fujii Kaze 2020-2024 ASIA TOUR in Bangkok: ที่สุดของคอนเสิร์ตแห่งปี ด้วยพลังของแฟนด้อม ผู้จัด และคาเสะ
‘ที่สุดของที่สุด’
คือคอนเซปต์อันเรียบง่าย (แต่ไม่ง่าย) ของ Best of Fujii Kaze 2020-2024 ASIA TOUR หนึ่งในคอนเสิร์ตแห่งปี 2024 โดยมีจุดเริ่มต้นจากการที่คาเสะทิ้งเซอร์ไพรส์ ด้วยการปล่อยเซ็ตลิสต์ 10 เพลงฮิตตลอดกาล ได้แก่ Matsuri, Workin’ Hard, Nan-Nan, Kirari, Hana, Garden, Damn, Shinunoga E-Wa, Tabiji และ Michi Teyu Ku (Overflowing) ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2024 ก่อนจะประกาศทัวร์อย่างเต็มรูปแบบ ทันทีที่คอนเสิร์ตครั้งสำคัญอย่าง Fujii Kaze Stadium Live “Feelin’ Good” ณ นิสสันสเตเดียม (Nissan Stadium) ในปลายเดือนสิงหาคมจบลง
แน่นอนว่า ประเทศไทยที่ได้รับเสียงการันตีจากคาเสะถึงพลังและแรงสนับสนุน เป็นหนึ่งในหมุดหมายของทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้ นอกเหนือจากสิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ โดยมี อาวาลอน ไลฟ์ (Avalon Live) มาเป็นผู้จัดคอนเสิร์ต ทำให้ผู้ชมใจฟูตั้งแต่ตอนกดบัตรจนถึงวันงานจริง
สำหรับประเทศไทย คอนเสิร์ตคราวนี้มีความพิเศษ โดยเริ่มตั้งแต่ผังคอนเสิร์ตที่มีลูกเล่นคล้ายคลึงกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแบ่งเป็นโซน ‘ผลไม้’ อิงจากการเป็นมังสวิรัติของคาเสะ ได้แก่ โซนแตงโม (บัตร 5,300 บาท), โซนมังคุด (บัตร 4,700 บาท), โซนกล้วย (บัตร 4,300 บาท), โซนมะพร้าว (บัตร 3,700 บาท) โซนลำไย (บัตร 2,700 บาท) และโซนพิเศษที่จำกัดทิวทัศน์ในการชม (บัตร 2,900 บาท) ขณะที่ยังมีแคมเปญส่งเสริมการช่วยเหลือสังคม ด้วยการบริจาครายได้จากการขายบัตรในโซนพิเศษให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม รวมถึงสภากาชาดไทย และมูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก
เมื่อถึงวันจัดคอนเสิร์ต บรรยากาศในงานทั้ง 2 วันเป็นไปอย่างราบรื่น แม้อากาศจะร้อนอบอ้าว และมีผู้คนเนืองแน่นบริเวณหน้าอิมแพ็ค อารีนาเป็นบางช่วงเวลา โดยมีการจัดโซนชัดเจน พร้อมกับเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอดทั้งงาน รวมถึงผู้เขียนยังสังเกตเห็นพ่องานอย่าง ‘พี่วัฒน์’ หรือ กิตติวัฒน์ มโนสุทธิ ผู้บริหารแห่งอาวาลอน ไลฟ์ เดินตรวจสอบความเรียบร้อยในโซนจำหน่ายสินค้าออฟฟิเชียลเป็นระยะ
What are you looking at, I saw you in my dream
Got killed by kindness, in the shade of his tree
บรรยากาศในอิมแพ็ค อารีนาเต็มไปด้วยมนต์ขลังบางอย่าง เมื่อ YASASHISA คือเพลงแรกที่คาเสะใช้เล่นเพื่อเปิดคอนเสิร์ต นับว่าช่างเป็นโชคดีนัก เพราะแม้ว่า Michi Teyu Ku (Overflowing) จะเป็นเพลงที่ทำให้ผู้เขียนรู้จักศิลปินผู้น่าจับตาในยุคสมัย แต่ YASASHISA กลับเป็นบทเพลงโปรดแซงหน้า Overflowing ไปเสียอย่างนั้น จึงรู้สึกดีใจมากที่คาเสะเลือกเล่นเพลงนี้เป็นเพลงแรก
หากเปรียบเทียบ Best of Fujii Kaze 2020-2024 ASIA TOUR in Bangkok เป็นหนังหนึ่งเรื่อง คงเต็มไปด้วย 3 รสชาติที่ไม่ซ้ำกันคือ สนุก สดใส และร้อนแรง ขณะที่หากมาดูเซ็ตลิสต์ในคอนเสิร์ตจะเห็นว่า ในช่วงต้นบทเพลงจะเจือปนไปด้วยความเศร้า มีความหนักหน่วงของชีวิต และความยุ่งยากของความรัก อย่างเพลง YASASHISA และ Nan-Nan
Go through the darkness
Conquer the mountains
Start the day with love
End the day with love
ผ่านความมืดมิด
พิชิตเทือกเขา
เริ่มต้นด้วยความรัก
จบด้วยความรัก
แต่ทันทีเมื่อช่วงที่ 2 เริ่มต้นด้วยเพลง Feelin’ Go(o)d บรรยากาศในคอนเสิร์ตเต็มไปด้วยความสดใสและเอเนอจีที่ล้นเปี่ยม อย่างที่เนื้อเพลงกล่าวว่า Go through the darkness, Conquer the mountains, Start the day with love. คล้ายกับว่าบทเพลงนี้เป็นสัญญะของการเปลี่ยนผ่านของคาเสะและเพลงที่จัดแสดงในวันนี้ ขณะที่คาเสะเองก็พยายามส่งพลังบวกให้กับทุกคนด้วยคำชื่นชม และขอให้ทุกคนคิดดี ทำดี พูดในสิ่งที่ดี
หากสังเกต VCR ที่เปิดระหว่างการแสดงจะเห็นว่า เซ็ตเพลงช่วงหลังปรากฏภาพคาเสะเช็ดลิปสติกที่เลอะใบหน้า ผู้เขียนตีความเองว่า นี่คือสัญญะของการมองโลกใหม่ของเขาที่ความรักไม่ต้องหาที่ไหนไกล แต่เรามีความรักอยู่ในตัวเราและรอบตัวเรา อย่างที่เขาพูดบทเวทีขณะที่ยกมือขึ้นมาจับหัวใจและกล่าวว่า
“Feel it, Feel it”
หลังจากบทเพลงแห่งความสุข Feelin’ Go(o)d ก็มีเพลงน่ารักให้ความรู้สึกสดใสคล้ายดอกไม้กำลังเบ่งบาน อย่างเพลง Hana หรือดอกไม้ พร้อมด้วยคำพูดทิ้งท้ายจากศิลปินหนุ่มให้ ทุกคนมีความกล้าที่จะ ‘น่ารัก’ ก่อนจะปิดท้ายการแสดงในช่วงที่ 2 ด้วยเพลง Garden
เข้าสู่การแสดงในช่วงที่ 3 ด้วยเบรกแดนซ์ ที่ตอกย้ำความเป็นอัจฉริยะทางด้านดนตรี เมื่อคาเสะโชว์เป่าแซกโซโฟนในชุดสูทและหมวกสีดำ เป็นสัญญาณบ่งบอกการเข้าสู่เพลง Workin’ Hard ที่มีลูกเล่นน่ารักเรียกเสียงกรี๊ดจากคาเสะทาเรียนไทยอย่าง VCR ‘พ่อบ้านหนุ่ม’ จากชาโตโซ
ไต่ระดับความสนุกกันอย่างต่อเนื่องในเพลง Mo-Eh-Yo, Kirari, Damn, Tabijji ที่เคล้าคลอเสียงร้องเพลงและเสียงปรบมือของคาเสะทาเรียนตลอดการแสดง นับเป็นช่วงเวลาแห่งความประทับใจ อีกทั้งบางส่วนยังลุกขึ้นเต้น (ตั้งแต่เริ่มคอนเสิร์ต) พร้อมกับพูดคุยหัวเราะไปกับคนข้างๆ แม้จะเป็นภาพที่ไม่คุ้นชินนักสำหรับคอนเสิร์ตในประเทศไทย แต่นี่คือสิ่งที่ตอกย้ำทักษะการเอนเตอร์เทนของคาเสะ ทำให้ทั้งฮอลล์เต็มไปด้วยพลังงานบวกจากการแสดง สมคำร่ำลือว่า ‘เกิดมาเพื่อเป็นสร้างความสุข’
ในช่วงท้ายของคอนเสิร์ต ความร้อนแรงแปรเปลี่ยนสู่บรรยากาศสงบ ทันทีเพลง Michi Teyu Ku บรรเลงขึ้นมา พร้อมกับ ‘ทะเลดาว’ โปรเจกต์จากคาเสะทาเรียนไทย ที่ยิ่งขับกล่อมให้ออกจากโลกของคอนเสิร์ตยากเสียกว่าเดิม แต่แล้วเพลง Shinunoga E-Wa คือเสียงนาฬิกาที่ปลุกผู้เขียนตื่นจากภวังค์ ทั้งเป็นสัญญาณว่า ช่วงเวลาแห่งความสุขกำลังจะจบลงในอีกไม่ช้า ผสมผสานกับความรู้สึกตื่นตาตื่นใจที่ได้ดูการแสดงสุดไวรัลในโลกโซเชียลฯ ได้ด้วยตาตนเอง
แต่ ‘สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร’ คาเสะยังทิ้งทีเด็ดปิดท้ายในคอนเสิร์ตด้วยการผสมผสานเทศกาลของประเทศไทย คือ ‘ลอยกระทง’ เข้ากับ Matsuri บทเพลงที่มีเนื้อหาสารภาพรักในช่วงเทศกาลอย่างลงตัว นับเป็นการแสดง Masterpiece ชิ้นโบแดงจากศิลปินหนุ่มญี่ปุ่น ที่ตอกย้ำความเป็น ‘ที่สุดแห่งที่สุด’ ขณะที่ทุกคนในฮอลล์ลุกขึ้นมา ‘รำ’ อย่างสนุกสนานราวกับอยู่ในเทศกาล
‘คาเสะ! คาเสะ! คาเสะ!’
ทันทีที่การแสดงจบลง ผู้คนในฮอลล์พร้อมใจกันตะโกนชื่อของศิลปินหนุ่มราวกับเป็นการบอกลา และขอบคุณที่สร้างความสุขให้กับผู้คนด้วยบทเพลงและการแสดงที่ดีเยี่ยมตลอดทั้ง 2 วันไปพร้อมกัน ก่อนที่คาเสะจะตอบรับทุกคน ด้วยการปรบมือและโค้งแสดงความเคารพรอบทิศให้กับผู้ชม
ความน่าประทับใจยังไม่สิ้นสุด เมื่ออาวาลอนไลฟ์อนุญาตให้ทุกคนมีโอกาส ‘ส่ง’ คาเสะกลับบ้านที่หน้าอิมแพ็ค อารีนา ทำเอาหลายคนถึงกับแซวด้วยความชื่นชมว่า นี่คือ ‘Send-Off’ (แบบฟรี) ที่แท้จริง
Feelin’ Go(o)d
นอกจากคอนเสิร์ตที่ทำให้ทุกคนอิ่มเอมใจไปกับความสุขแล้ว ไฮไลต์ที่บริเวณหน้าอิมแพ็ค อารีนา ก็ยังทำเอาคาเสะทาเรียนถึงกับเอ่ยปากว่า ‘เล่นใหญ่’ และ ‘ทำเกินไปมาก’ คือ โซนแบ็กดรอปถ่ายรูป 2 แห่ง โดยโซนแรกชื่อว่า ‘สวนของคาเสะ’ มีพื้นหลังเป็นท้องฟ้าสีขาว ตกแต่งด้วยดอกไม้หลากชนิด และต้นไม้ของจริงที่สามารถกลับนำไปปลูกหรือใช้สอยต่อได้ ขณะที่โซนสุดท้ายคือ จอ LED ที่มีมิวสิกวิดีโอ Michi Teyu Ku (Overflowing) พร้อมด้วยโต๊ะทำงาน เครื่องพิมพ์ดีดสีเขียวขนาดเล็ก และกองหนังสือหลากสี
เสริมทัพความยิ่งใหญ่ด้วยโปรเจกต์ป้ายต้อนรับ ‘Welcome Fuji Kaze to Thailand’ จากคาเสะทาเรียนไทย นำโดยบ้าน @Kazetariandiary ที่ร่วมเนรมิตแฟนอาร์ตการ์ตูนสุดน่ารักทั่วทั้งอิมแพคเมืองทองธานีถึง 7 แห่ง โดยอาศัยพลังของนักวาดถึง 80 คน พร้อมด้วยโฟโต้บูธ ‘มารุต เขยไทย’ ให้ถ่ายรูปเป็นของที่ระลึกระหว่างรอคอนเสิร์ตเริ่ม
ทิ้งท้ายด้วยเซอร์ไพรส์ในคอนเสิร์ต คือ โปรเจกต์ ‘ทะเลดาว’ โดยมีการแจกสติกเกอร์ขนาดเล็กสีน้ำเงินและสีส้ม ติดแฟลชหลังโทรศัพท์มือถือ เพื่อเปิดระหว่างการแสดงเพลง Michi Teyu Ku (Overflowing) ซึ่งทั้งหมดนี้นับว่าประสบความสำเร็จและบรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างสมบูรณ์ หลังคาเสะมีโอกาสเดินเยี่ยมชมความสามารถของแฟนคลับชาวไทย รวมถึงเอ่ยปากชื่นชมทะเลดาวสีน้ำเงินและสีส้มในทั้ง 2 วัน
เรียกได้ว่าคอนเสิร์ตทั้งสองวันของศิลปินที่ชื่อว่า ‘ฟูจิอิ คาสะ’ เริ่มต้นด้วยความรัก และจบด้วยความรัก ดั่งบทเพลง Feelin’ Go(o)d ของเขาจริงๆ
Start the day with love
End the day with love.
อ้างอิง
https://www.nippon.com/en/japan-topics/g00982/
https://gettoknowkaze.net/chronological-timeline1/
https://plus.inquirer.net/lifestyle/how-fujii-kaze-snuck-into-my-playlist/
https://gettoknowkaze.net/panasta/
Tags: Avalon, อาวาลอน, J-Pop, อาวาลอนไลฟ์, ญี่ปุ่น, ฟูจิอิ คาเสะ, เพลง, Fujii Kaze, ดนตรี, คาเสะ, คอนเสิร์ต, คอนเสิร์ตญี่ปุ่น, Screen and Sound, Kazetarian, Best of Fujii Kaze, Avalon Live, คาเสะทาเรียน