
Photo: Azad Lashkari, Reuters/profile
กองกำลังอิรักปฏิบัติการยิงปืนใหญ่และใช้รถถังบุกเข้าไปในเมืองโมซุล เมืองทางตอนเหนือของประเทศอิรักที่กลุ่มไอเอสสามารถยึดครองไว้ได้ตั้งแต่ปี 2014
โดยการปฏิบัติการครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่ายทั้งจากกองกำลังอิรัก กองกำลังเคิร์ดที่สหรัฐฯ ยื่นมือเข้ามาให้การปรึกษาทางทหาร รวมถึงการช่วยเหลือจากกลุ่มพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ ในการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอส
คาดการณ์กันว่ากลุ่มไอเอสมีกองกำลังประมาณ 4,000-8,000 คนอยู่ในพื้นที่
นักวิเคราะห์ประเมินว่าการบุกเข้าเมืองโมซุลในระยะ 10 ไมล์แรกจะสามารถทำได้โดยง่าย ขณะที่ลำดับต่อไปที่เป็นฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอสนั้นอาจจะปฏิบัติการยึดคืนได้ยากกว่า ซึ่งอาจกินเวลาเป็นเดือน
การยึดเมืองโมซุลคืนสะท้อนอะไร?
สำนักข่าวต่างประเทศเชื่อว่า การยึดเมืองโมซุลคืนสะท้อนถึงความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญของกลุ่มไอเอสในอิรัก
เพราะเมืองโมซุลเป็นเมืองที่หัวหน้ากลุ่มไอเอสอย่าง อาบู บักร์ อัล-แบกฮ์ดาดี ประกาศสถาปนาอาณาจักร ‘เคาะลีฟะฮ์’ และเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยทรัพยากรน้ำมัน
ปฏิบัติการโจมตีนี้เริ่มต้นขึ้นหลังจากนายกไฮเดอร์ อัล-อาบาดีประกาศผ่านโทรทัศน์ว่า การปฏิบัติการอย่างกล้าหาญครั้งนี้จะเป็นการปลดปล่อยชาวอิรักจากกลุ่มไอเอส
ซึ่งจะทำให้ทุกคนสามารถกลับมาอยู่ร่วมกันได้อีกครั้ง และเมืองโมซุลจะถูกกลับมาฟื้นฟู
ขณะที่นักวิเคราะห์บอกกับสำนักข่าวบีบีซีว่า เกรงว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะพัฒนากลายเป็นความขัดแย้งระหว่างนิกาย
ด้านองค์การสหประชาชาติออกมาแสดงความเป็นห่วงต่อเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นที่มีประชาชนกว่า 1.5 ล้านคนอาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นอาจทำให้คนจำนวนมากกว่าแสนคนต้องอพยพออกมาจากเมืองอีก
การปฏิบัติการยึดเมืองโมซุลครั้งนี้จึงเป็นการชี้ชะตากลุ่มไอเอสในอิรักที่ห้ามกะพริบตา!

Photo: Azad Lashkari, Reuters/profile

Photo: Azad Lashkari, Reuters/profile