เนื่องในวันนี้ (8 มีนาคม 2566) เป็น ‘วันสตรีสากล’ 2 พรรคการเมืองใหญ่ อย่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ซึ่งชูแนวคิดว่าด้วยการต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีและความเท่าเทียมทางเพศ ได้ออกมาแถลงนโยบายของพรรค โดยบรรดาผู้มีสิทธิออกเสียงต่างก็คาดหวังให้คนที่ตัวเองเลือกเข้าไปทำงานในสภาฯ สามารถผลักดันให้สิทธิและข้อเรียกร้องดังกล่าวเป็นจริง
พรรคก้าวไกล
พรรคก้าวไกลและศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) จัดกิจกรรม ‘กาก้าวไกล เพศไหนก็คนเท่ากัน’ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องเพศและความเท่าเทียมทางเพศเนื่องในวันสตรีสากล พร้อมเปิดตัวนโยบายเพื่อสนับสนุนความเสมอภาคทางเพศ
เริ่มด้วย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวแถลงนโยบายเพื่อสนับสนุนสิทธิสตรี ดังต่อไปนี้
นโยบายที่ 1: ผ้าอนามัยไม่เก็บ VAT แจกฟรีในโรงเรียน
นำร่องแจกผ้าอนามัยฟรีในสถานศึกษาและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ยกเลิกการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในสินค้าหมวดหมู่ผ้าอนามัย และของใช้สิ้นเปลืองสำหรับวัยเจริญพันธุ์ เพื่อต่อสู้กับ ‘ความจนประจำเดือน’ (Period Poverty) โดยเฉพาะผู้มีประจำเดือนในวัย 10-25 ปี
นโยบายที่ 2: สมรสเท่าเทียม คู่รักทุกเพศแต่งงานกันได้
แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ว่าด้วยครอบครัว โดยเปลี่ยนคำในตัวบทกฎหมาย จากคำนามระบุเพศ เช่น เพศชาย เพศหญิง สามี ภรรยา เป็นคำนามไม่ระบุเพศ อาทิ บุคคล ผู้สมรส เพื่อให้คนทุกเพศ สามารถหมั้นและสมรสกันได้ และมีสิทธิในฐานะคู่หมั้นหรือคู่สมรสอย่างเสมอภาคทุกประการ
นโยบายที่ 3: การยุติการตั้งครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ รับยาฟรี ทุกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
คุ้มครองสิทธิการยุติการตั้งครรภ์ สำหรับบุคคลที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ สามารถรับยาเพื่อยุติการตั้งครรภ์ได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่งทั่วประเทศ และมีการให้คำปรึกษาหลังการยุติการตั้งครรภ์ฟรี เพื่อตรวจสอบและฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้หญิงที่เข้ารับการยุติการตั้งครรภ์
นโยบายที่ 4: สิทธิลาคลอด 180 วัน โดยพ่อและแม่สามารถแบ่งวันหยุดกันได้
ขยายสิทธิลาคลอดจากปัจจุบัน (98 วัน) เพิ่มเป็น 180 วัน ซึ่งสอดคล้องกับหลักสากลขององค์การอนามัยโลกและกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ที่กำหนดให้บุตรควรได้รับนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด โดยพ่อแม่สามารถแบ่งวันลาได้ตามความสะดวกหรือใช้ร่วมกัน เช่น แม่ลา 5 เดือน พ่อใช้อีก 1 เดือน เพื่อช่วยแบ่งเบาการทำหน้าที่และร่วมกันดูแลลูกในช่วง 1 เดือนแรก
นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลยังมีนโยบายอื่นๆ เกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศ อาทิ การปฏิรูปการสอนเพศศึกษา ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ การเพิ่มจำนวนตำรวจหญิงทุกสถานี การปรับปรุงกฎหมายต่อต้านความรุนแรงทางเพศ การรับรองทุกเพศสภาพและการใช้คำนำหน้าตามสมัครใจ จัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กใกล้บ้าน ห้องปั๊มนมในที่ทำงาน และตรวจมะเร็งฟรี ไม่ต้องรอหมอสั่งในแพ็กเกจตรวจสุขภาพประจำปีฟรี
ต่อมา พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า เมื่อพูดถึงการผลักดันความเท่าเทียมทางเพศ พรรคการเมืองส่วนใหญ่มักหยิบยกจำนวนผู้สมัครและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหญิงที่ทำงานในสภาฯ ว่ามีจำนวนเท่าไร ซึ่งในการเลือกตั้งปี 2562 แสดงให้เห็นว่าสภาผู้แทนราษฎรของประเทศไทย มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหญิงเพียง 14% เมื่อเทียบกับสัดส่วนของโลกเฉลี่ยที่ 24% ซึ่งถือว่าน้อยกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้พรรคก้าวไกลมีว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหญิง เพิ่มขึ้นเป็น 18% ถึงแม้จะยังวางตัวผู้สมัครได้ไม่ครบจำนวน 400 เขตก็ตาม
พรรคเพื่อไทย
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้ร่วมแถลงนโยบายเพื่อผู้หญิง เนื่องในวันสตรีสากล ภายใต้ธีม ‘นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ’ (DigitALL: Innovation and technology for gender equality) ที่เชื่อว่าหัวใจของการสร้างความเท่าเทียมทางเพศ คือการทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสต่างๆ ผ่านตัวช่วยสำคัญอย่างเทคโนโลยี พร้อมเปิดตัว 2 นโยบาย เพื่อส่งเสริมสิทธิสตรี
สำหรับ 2 นโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย ได้แก่
นโยบายที่ 1: ยกระดับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีด้วยเทคโนโลยี
ให้ผู้หญิงทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและการพัฒนาทักษะ โดยมีกรอบความรับผิดชอบ 3 ด้าน ได้แก่ การสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน การพัฒนาทักษะอาชีพ และการดูแลปกป้องสิทธิสตรี ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ และผู้สูงอายุ เพื่อดูแลประชากรหญิงครอบคลุมทุกมิติ
ทั้งนี้จะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาศักยภาพกองทุนเพื่อเสริมพลังให้กับผู้หญิง ทำให้ผู้ประกอบการหญิงเข้าถึงแหล่งทุนได้มากขึ้น โดยในปัจจุบันข้อมูลธนาคารโลกระบุว่า ในประเทศกำลังพัฒนา ผู้ประกอบการหญิงมีจำนวนเพียง 30% เข้าถึงเงินทุนสนับสนุนจากสถาบันการเมือง ส่วนอีก 70% ยังเข้าไม่ถึง กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจะช่วยในจุดนี้ได้
นโยบายที่ 2: ฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกฟรีสำหรับผู้หญิงทุกคน
เนื่องจากสาเหตุการเสียชีวิตของหญิงไทยเกิดจากมะเร็งปากมดลูกเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เห็นถึงความสำคัญของสุขภาวะในเพศหญิงและมีแนวทางลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปากกามดลูก ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกัน HPV ให้กับผู้หญิงทุกคนที่ยังไม่ติดเชื้อ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
แพทองธารยังกล่าวเสริมว่า ทุกวันนี้ความเท่าเทียมทางเพศของผู้ชายและผู้หญิงในประเทศไทยมีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งผู้บริหารระดับสูง ผู้ประกอบการธุรกิจ หรือแม้กระทั่งนักการเมืองผู้หญิง ก็มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในการเลือกตั้งที่กำลังมาถึงนี้ พรรคเพื่อไทยส่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหญิง เป็นสัดส่วน 20% ของผู้สมัคร ส.ส. ทั้งหมด ซึ่งมากกว่าการเลือกตั้งในปี 2562
“เราทำให้เพศไม่ใช่อุปสรรคในการดำเนินชีวิต เรายืนหยัดที่จะทำให้ทุกคน สามารถสานฝัน ทำในสิ่งที่ทุกคนต้องการ ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศอะไร ทุกคนสามารถเป็นทุกสิ่งที่เราต้องการได้” แพรทองธารกล่าวถึงหลักความเสมอภาคทางเพศ (Gender Equity) ที่พรรคเพื่อไทยยึดมั่น และเชื่อว่าทุกคนสามารถเป็นในสิ่งที่ตัวเองอยากที่จะเป็นได้
Tags: Feature, เพื่อไทย, วันสตรีสากล, ก้าวไกล