นับตั้งแต่โลกหมุนวนเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ดูเหมือนว่าธุรกิจอุตสาหกรรมเกมทั่วโลกเริ่มจะมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ และสามารถสร้างมูลค่าได้มากมายมหาศาลนับไม่ถ้วน อาจกล่าวได้ว่าส่วนหนึ่งเพราะอุตสาหกรรมดังกล่าวมีการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของมนุษย์ เช่นเดียวกับตอนนี้ที่เกมกำลังจะตบท้าวเข้าสู่ตลาดบล็อกเชนอย่าง ‘NFT’ 

หลายคoอาจจะเคยคุ้นชินกับชื่อของบริษัทผู้พัฒนาเกมชื่อดังอย่าง EA หรือ  Electronic Arts Inc. เจ้าของลิขสิทธิ์เกมชื่อดังมากมายทั้ง Battlefield, Apex Legends, The Sims และโดยเฉพาะกับเกมเรือธงหลักอย่าง EA Sport FIFA ที่คอเกมเมอร์สายฟุตบอลต่างยอมควักเงินในกระเป๋าซื้อมาเล่นแม้จะออกมาหลายภาคก็ตาม ส่วนที่ทำให้แฟรนไชน์เกมดังกล่าวประสบความสำเร็จได้คงหนีไม่พ้นระบบเอ็นจิ้นที่ถูกพัฒนาปรับปรุงตลอด ไม่ว่าจะหน้าตานักเตะ ตราสโมสร เสื้อแข่ง ถูกออกแบบให้มีความเสมือนจริงมากขึ้น รวมถึงโหมดการเล่นสุดเลื่องชื่ออย่าง Ultimate Team ซึ่งผู้เล่นจะต้องอาศัยฝีมือประลองกับคู่แข่งเพื่อไต่ลำดับ โดยต้องเปิดซองการ์ดนักเตะสำหรับใช้จัดทีมสุดแกร่งตามแบบตัวเอง

เมื่อปี 2021 นี้ ตลาด NFT เติบโตรวดเร็วและรุกคืบเข้าสู่อุตสาหกรรมเกมได้เป็นที่เรียบร้อย ทาง EA  มีหรือจะไม่เห็นดีเห็นงามด้วย และคงไม่เสียหายถ้าพวกเขาจะปรับตัวสร้างรายได้เพิ่มทั้งจากฝั่งอุตสาหกรรมกีฬาอีสปอร์ตควบคู่ไปกับตลาด NFT ด้วยวัตถุดิบชั้นดีที่มีอยู่ในมือ ฉะนั้นเกม FIFA โหมด Ultimate Team จึงกำลังจะถูกผลักดันให้เข้าสู่โลก NFT Game เต็มตัวในอนาคต ซึ่ง EA คาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างรายได้มหาศาล เอกลักษณ์เฉพาะอย่างการเปิดการ์ดสุ่มล่าหานักเตะของเกมฟีฟ่า ตามปกติจะเป็นการแลกเปลี่ยนซื้อขายด้วยเงินภายในเกม ทว่าเมื่อ NFT เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องการซื้อ – ขาย การ์ดนักเตะจะต้องเปลี่ยนจากเดิมโดยใช้การเทรดแลกเปลี่ยนด้วยสกุลเงิน คริปโตเคอเรนซี  (Cryptocurrency) แทน ซึ่งนั่นจะทำให้บรรดาการ์ดนักเตะมีมูลค่าในตัวเองมากขึ้น

ถึงกระนั้นปัญหาของการสะสมการ์ดนักเตะ ดูยังคงขัดกับหลักระบบการเล่นของ FIFA โหมด Ultimate Team ที่ทุกคนมีโอกาสสุ่มเปิดซองการ์ดจากการทำภารกิจ หรือการเปิดซองที่ซื้อเองเพื่อเป็นเจ้าของการ์ดนักเตะ ทั้งที่ธรรมชาติของ NFT คือ การสะสมความเป็นซิกเนเจอร์ที่ใช่ว่าใครก็มีได้ อีกทั้ง EA ยังจำเป็นต้องคำนึงถึงบริบทการเปลี่ยนผ่านปฏิทินฤดูกาลการแข่งขันฟุตบอลบนโลกความเป็นจริง ที่พวกเขาปฏิบัติตามมาเสมอ เกม FIFA ภาคเก่าจะถูกลดทอนความนิยมทันทีเมื่อภาคใหม่ออกมา ดังนั้นโจทย์การบ้านสำคัญของทีมพัฒนา ณ เวลานี้ จึงจำเป็นต้องหาความสมดุลให้กับตัวเกม FIFA หากคิดจริงจังที่จะเข้าสู่โลก NFT Game  ตามที่ ‘แอนดรูวว์ วิลสัน’ (Andrew Wilson)ประธานกรรมการบริหารของ EA ได้กล่าวเอาไว้ว่า

“เราเชื่อว่าผู้เล่นต้องการประสบการณ์ความสนุก ที่มากกว่าการแค่บังคับนักเตะ 11 คนลงสู่สนามแข่งขัน เราจำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องของอุตสาหกรรมอีสปอร์ต NFT หรือแม้แต่บริบทของอุตสาหกรรมกีฬาที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราทำงานกันอย่างหนัก เพื่อปรับแต่งสมดุลของเกม FIFA (โหมด Ultimate Team)  สำหรับเพิ่มมูลค่าทั้งต่อตัวเกมและผู้ที่เข้ามาเล่น เรายังบอกไม่ได้แน่ชัดหรอกว่าหน้าต้าจะออกมาเป็นอย่างไร”

อย่างไรก็ตาม บริษัทเกมเจ้าของสถิติรายได้ 5.1 พันล้านเหรียญเมื่อปีที่แล้ว จำเป็นต้องจัดการปัญหาด้านลิขสิทธิ์กับทาง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ FIFA ที่พวกเขาทำสัญญาขอมาใช้เป็นชื่อเกม ตั้งแต่ปี 1993 ที่จะสิ้นสุดสัญญาในเดือนธันวาคมปีหน้า (2022) ไม่เช่นนั้นนี่อาจเป็นการปิดตำนานเกมฟุตบอลชื่อดัง ก่อนเข้าสู่วงการ NFT Game ก็เป็นได้ เพราะมีกระแสว่าพวกเขาจดทะเบียนการค้าเกมใหม่ในชื่อ ‘EA Sport FC’ เพื่อยกเครื่องเกมฟุตบอลใหม่ แฟนเกมเมอร์อย่างเราคงต้องยังจับตาดูต่อไปว่าผลจะเป็นอย่างไรในอนาคต

 

ภาพ: ea.com

ที่มา:

–           https://www.bbc.com/news/technology-59167668

–           https://techilive.in/ea-says-nfts-are-part-of-the-future-of-games-industry/

–           https://news-logics.com/ea-says-nfts-are-part-of-the-future-of-the-gaming-industry/

–           https://www.eurogamer.net/articles/2021-10-11-ea-trademarks-ea-sports-fc-as-it-mulls-ditching-fifa-licence

 

Tags: , , , ,