โดยปกติแล้วคนเราจะเริ่มผมร่วงหรือบางขึ้นตอนอายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป เกิดจากการที่วงจรการเติบโตของเส้นผมสั้นลง ทำให้เส้นผมที่งอกขึ้นใหม่มีขนาดที่เล็กลง ยาวช้า และหลุดร่วงง่าย แต่หากผมร่วงผมบางศีรษะล้านก่อนวัย อาจเป็นเพราะปัจจัยด้านกรรมพันธุ์ ฮอร์โมน หรือความเครียด
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าปัจจุบันคนส่วนใหญ่เริ่มเผชิญปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมตั้งแต่อายุยังน้อย ส่งผลให้เซรัมปลูกผม แชมพูปลูกผม หรือแม้กระทั่งยาปลูกผม ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าการมีผมที่ดกสลวยสวยเงางามย่อมส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ดูดี ทว่าล่าสุดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม ออกมาเตือนถึงผลข้างเคียงของยารักษาผมร่วงว่า อาจเชื่อมโยงกับการเกิดโรคซึมเศร้าหรือภาวะวิตกกังวล
นายแพทย์เมเอียร์ เบรซิส (Prof. Meir Brezis) ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมและโรคไตจาก Hebrew University of Jerusalem ประเทศอิสราเอล เผยแพร่บทวิเคราะห์จากการทบทวนงานวิจัยจำนวน 8 ชิ้น ที่ตีพิมพ์ระหว่างปี 2017-2023 แสดงให้เห็นว่า สารฟีนาสเตอไรด์ (Finasteride) สารประกอบสำคัญในตัวยารักษาอาการผมร่วง ส่งผลกระทบต่อระบบประสาทและสารเคมีในสมอง ทำให้มีแนวโน้มเกิดอาการทางระบบประสาทและจิตเวชอย่างรุนแรง รวมถึงภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล และความคิดฆ่าตัวตาย แม้มีการหยุดใช้ยาไปแล้วก็ตาม
แล้วสารฟีนาสเตอไรด์ในยารักษาผมร่วงเชื่อมโยงกับอาการซึมเศร้าได้อย่างไร
ฟีนาสเตอไรด์เป็นสารที่พบได้ในตัวยาสำหรับรักษาอาการผมร่วง-ผมบางจากกรรมพันธุ์ และยารักษาอาการต่อมลูกหมากโตในเพศชาย โดยกลไกการทำงานของมันจะเข้าไปยับยั้งเอนไซม์ที่มีชื่อว่า 5-alpha Reductase ที่เป็นตัวหลักในการทำให้ฮอร์โมนเพศชายกลายเป็น Dihydrotestosterone (DHT) หรือฮอร์โมนเพศชายที่ใช้ในการพัฒนาลักษณะตามร่างกาย เช่น เส้นผม หนวด เสียง และมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งฮอร์โมน DHT มีส่วนสำคัญมากในการทำให้วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมสั้นลง ดังนั้นเมื่อสารฟีนาสเตอร์ไรด์เข้าไปยับยั้ง 5-alpha Reductase ก็จะทำให้ฮอร์โมน DHT มีประสิทธิภาพในการทำงานต่ำลง ส่งผลให้ฮอร์โมนตัวนี้ไม่เข้าไปทำลายวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผม
ทีนี้กลับมาที่เรื่องผลข้างเคียง ประเด็นคือเอนไซม์ 5-alpha Reductase ที่สารฟีนาสเตอไรด์เข้าไปยับยั้งการทำงาน มันไม่ได้มีอยู่แค่บริเวณหนังศีรษะ แต่ยังพบในสมองด้วย เนื่องจาก 5-alpha Reductase มีส่วนสำคัญในการสร้าง Allopregnanolone หรือสารสื่อประสาทที่ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความตื่นตัว และลดความวิตกกังวล ซึ่งสามารถพบได้ในยาคลายกังวลบางชนิด เมื่อเอนไซม์ 5-alpha Reductase ถูกยับยั้งจึงมีความเป็นไปได้มากที่ Allopregnanolone จะถูกหยุดพัฒนาไปด้วย ส่งผลให้มีแนวโน้มเผชิญกับภาวะเครียดและวิตกกังวลมากขึ้น
เบรซิสกล่าวว่า แม้มีหลักฐานทั้งจากงานวิจัยและสถิติเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างสารฟีนาสเตอไรด์ ในยารักษาอาการผมร่วงและอาการซึมเศร้า ทว่าองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (US Food and Drug Administration: USFDA) เพิกเฉยต่อเรื่องนี้ ถึงแม้ USFDA จะยอมรับว่า ภาวะซึมเศร้าเป็นผลข้างเคียงของการใช้สารฟีนาสเตอไรด์ ในปี 2011 ไปแล้วก็ตาม และในปัจจุบันตัวยาดังกล่าวยังคงถูกจ่ายให้กับคนที่มารักษาอาการผมร่วงโดยทั่วไป และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ปัจจุบันในประเทศไทยใช้สารฟีนาสเตอไรด์ในการรักษาภาวะผมบางจากพันธุกรรมและฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เช่นเดียวกันกับที่ได้รับการรับรองจาก USFDA โดยผลข้างเคียงที่ระบุหลักๆ ยังคงเป็นเรื่องสมรรถภาพหรือความต้องการทางเพศลดลงเท่านั้น จึงเป็นที่น่าติดตามต่อไปว่า ในอนาคตจะมีการตรวจสอบตัวยานี้อย่างละเอียดอีกหรือไม่
ที่มา:
– https://www.sciencedaily.com/releases/2025/10/251013040343.htm
– https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/41004169/
– https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/33814544/
– https://absolutehairclinic.com/finasteride-for-hair-loss/
Tags: depression, Knowledge, Wisdom, anxiety, Excitement, Finasteride, Hair Loss