หลังจากที่คุณเผชิญเรื่องเครียดจากการทำงานมาทั้งวัน แล้วต้องเดินทางกลับบ้านด้วยรถโดยสารที่เบียดเสียดกับผู้คน คุณอาจรู้สึกหมดกำลังใจและสิ้นหวังในชีวิตบ้าง แต่อะไรบางอย่างก็สามารถเยียวยาเรื่องแย่ๆ ได้บ้าง นั่นคือการกลับบ้านไปเจอ ‘แมว’ คุณเปิดประตูบ้านด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนที่เสียงกระดิ่งจะดังขึ้น เจ้าของเสียงกรุ๊งกริ๊งวิ่งมาหาคุณ คลอเคลียที่ขา ร้องเหมียวๆ
แต่เมื่อคุณอุ้มมันขึ้นมากอด คุณกลับเริ่มได้ยินเสียงแปลกๆ เป็นเสียงบางอย่างที่คล้ายเสียงเครื่องยนต์ดังครืดคราดอยู่ในลำคอของน้องแมว แต่ไม่ต้องตกใจไป เพราะเสียงนี้เป็นเสียงที่แมวปล่อยออกมาตามธรรมชาติ
เสียงครืดคราดที่แมวชอบปล่อยออกมาเรียกว่า ‘เสียงเพอร์’ (Purr) เป็นเสียงพิเศษที่แมวเอาไว้สื่อสารกับแมวตัวอื่นหรือแม้กระทั่งสื่อสารกับตัวเอง โดยแมวจะมีกระดูกส่วนที่เรียกว่า ไฮออยล์ (Hyoid Bone) อยู่ในลำคอ เมื่ออากาศเคลื่อนผ่านกระดูกไฮออยล์ กล่องเสียงและกระบังลมจะเกิดเป็นการสั่นเบาๆ ทำให้เสียงที่ออกมาจากลำคอคล้ายเสียงเครื่องยนต์ ซึ่งแมวแต่ละตัวก็มีการส่งเสียงครืดคราดต่างกันไป แล้วแต่ลักษณะนิสัย พฤติกรรม หรือสิ่งที่แมวต้องการ
หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่าแมวจะส่งเสียงครืดคราดก็ต่อเมื่อพวกมันรู้สึกมีความสุข แต่ในงานวิจัย The felid purr: A healing mechanism ในปี 2001 ระบุว่า แมวจะส่งเสียงครืดคราดด้วยความถี่เสียง 25 ถึง 150 เฮิร์ต ซึ่งเป็นความถี่ในระดับเดียวกับการเยียวยาหรือรักษาความเจ็บป่วยในมนุษย์ ทำให้พออนุมานได้ว่า แมวอาจทำเสียงครืดคราดเพื่อบรรเทาอาการป่วยหรือปลอบประโลมใจตัวเองเมื่อเกิดอาการเครียด
บางครั้งแมวก็ไม่ได้ส่งเสียงครืดคราดเพื่อปลอบใจตัวเองอย่างเดียว พวกมันยังส่งเสียงเพื่อจุดประสงค์อย่างอื่น เช่น ต้องการบอกให้เรารู้ว่ากำลังหิว หรือแสดงออกว่ากำลังรู้สึกพึงพอใจ เพราะถึงแม้แมวจะดูเย่อหยิ่งจองหอง แต่พวกมันเป็นสัตว์ที่ผูกพันกับแม่หรือผู้เลี้ยงดูมาก แมวจึงมักจะมีพฤติกรรมส่งเสียงเรียกทาสหรือผู้เลี้ยงดูอยู่ตลอด เพราะลูกแมวที่เพิ่งเกิดมาจะมองไม่เห็น พวกมันจึงส่งเสียงครืดคราดเพื่อเป็นการสื่อสารกับแม่ เมื่อโตขึ้นแมวก็เลือกที่จะใช้เสียงเพื่อเป็นการสื่อสารกับทาสเหมือนกัน
สิ่งที่น่าสนใจคือ แมวไม่ใช่สัตว์ชนิดเดียวที่สามารถส่งเสียงครืดคราดได้ แต่ญาติห่างๆ ของมันอย่างเสือหรือสิงโตก็สามารถส่งเสียงครืดคราดได้เหมือนกัน โดยนักอนุรักษ์สัตว์ป่าส่วนใหญ่เชื่อว่า การส่งเสียงของเสือ สิงโต เสือดำ และเสือจากัวร์ ไม่ต่างจากการส่งเสียงของแมว พวกมันใช้เสียงเพื่อการสื่อสารระหว่างกัน เนื่องจากเสียงที่พวกมันปล่อยออกมามีความถี่ที่ต่ำเกินกว่าจะถูกส่งออกไปในระยะไกล ทำให้จุดประสงค์ของเสียงครืดคราดแตกต่างจากเสียงคำรามโดยสิ้นเชิง ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าเสือและสิงโตก็ทำเสียงครืดคราดเวลามีความสุขเหมือนกัน
อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่ายินดีหากคุณได้รับการต้อนรับจากแมวด้วยเสียงครืดคราดคล้ายการสตาร์ทเครื่องยนต์ เพราะพวกมันอาจกำลังรู้สึกดีใจและมีความสุขที่คุณได้กลับบ้าน ถึงแม้บางครั้งพวกมันอาจทำไปเพราะแค่หิวข้าวหรือต้องการโดนเกาคาง แต่ถึงอย่างนั้นก็ถือเป็นสัญญาณอันดีว่า พวกมันไม่ได้เย่อหยิ่งหรือไร้หัวใจไปซะทีเดียว เพราะแมวก็รักคุณเหมือนที่คุณรักมัน แค่บางครั้งอาจจะแสดงออกไม่เป็น
Tags: แมว, Wisdom, Cat, Purr, เสียงของแมว, พฤติกรรมแมว