เรื่องอื้อฉาวของโฟล์คสวาเกนเริ่มต้นเมื่อกันยายน 2015 เมื่อนักวิจัยในสหรัฐอเมริกาค้นพบว่ารถยนต์ดีเซลของโฟล์คสวาเกนระหว่างปี 2007-2015 ติดตั้งซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายที่ทำให้ผลการทดสอบแสดงค่าปล่อยมลพิษต่ำกว่าความเป็นจริง

โฟล์คสวาเกนถูกสั่งให้จ่ายค่าปรับ 1 พันล้านยูโร เมื่อวันพุธที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตามคำสั่งของอัยการของเมืองบราวน์ชไวค์ (Braunschweig) ใกล้กับสำนักงานใหญ่ที่วูฟเบิร์ก (Wolfsburg) จากการที่บริษัทปล่อยให้รถยนต์ 10.7 ล้านคันแล่นอยู่บนท้องถนนด้วยซอฟต์แวร์ควบคุมมลพิษที่เชื่อถือไม่ได้ ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และทั่วโลก

ค่าปรับนี้ส่วนหนึ่งคำนวณจากเงินที่บริษัทสามารถประหยัดได้จากการโกงในครั้งนี้ โฟล์คสวาเกนกล่าวว่า “ยอมรับความรับผิดชอบนี้” และจะจ่ายค่าปรับโดยไม่คัดค้านใดๆ โดยมองในแง่ดีว่าการจ่ายค่าปรับเป็นการกระทำที่ถูกต้อง จากการกระทำที่ผิดพลาด และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีกในอนาคต

“เราพยายามจัดการกับอดีตของเราอย่างหนัก ขั้นตอนต่อไปสำคัญต่อการพื้นฟูความเชื่อมั่นต่อบริษัทและอุตสาหกรรมรถยนต์ทีละน้อย” เฮอร์เบิร์ต ไดซซ์ (Herbert Diess) ซีอีโอของบริษัทกล่าวในแถลงการณ์

หลังการถูกเปิดโปงเมื่อปี 2015 บริษัทเรียกคืนรถทันที ชื่อเสียงของบริษัทเสียหายและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทหลายคนต้องลาออก

เหตุที่เกิดขึ้นทำให้เห็นว่ามีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ที่ใช้ซอฟต์แวร์คล้ายกันในการทดสอบเครื่องยนต์ดีเซลของตนเอง เพื่อให้ผ่านมาตรฐานการปล่อยไนโตรเจนออกไซด์ของสหรัฐอเมริกา

โฟล์คสวาเกนต้องเผชิญกับการสอบสวนหรือจ่ายค่าปรับใน 19 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา อินเดีย บราซิล จีน และออสเตรเลีย

เมื่อเดือนมกราคม 2017 สหรัฐอเมริกาก็สั่งให้บริษัทต้องจ่ายค่าปรับ 4.3 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการติดตั้งซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายในเครื่องยนต์ดีเซลเพื่อโกงการทดสอบ นอกจากนี้ยังมีการลงโทษจำคุกพนักงานบริษัทที่เกี่ยวข้องอีกหลายคน และเมื่อเดือนสิงหาคม 2017 ศาลแขวงอเมริกันสั่งจำคุกอดีตวิศวกรของโฟล์คสวาเกน 3 ปี และปรับเงิน 6.65 ล้านบาท จากการที่เขาช่วยพัฒนาอุปกรณ์ที่ทำให้รถยนต์ของโฟล์คสวาเกนแสดงค่าปล่อยมลพิษที่ต่ำกว่าความเป็นจริง

ต่อจากนี้ อัยการเยอรมันจะสืบสวนผู้เกี่ยวข้องซึ่งเป็นทั้งพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานของบริษัทอีกประมาณ 70 คน ซึ่งรวมถึงคณะกรรมการบริษัทและอดีตผู้บริหารระดับสูง นอกจากนี้อัยการเมืองมิวนิคยังจะขยายการตรวจสอบการโกงนี้ไปยังรถยี่ห้อออดิ ซึ่งเป็นรถหรูของบริษัทด้วย รวมทั้งข้อกล่าวหาเรื่องการโฆษณาเกินจริง

 

ที่มารูป: REUTERS/Matthias Rietschel

ที่มา:

Tags: , , ,