หลายคนคงเคยถูกสอนว่า ‘อย่าใส่หน้ากากเข้าหาคนอื่น’ เพราะเป็นการแสดงออกที่ไม่จริงใจ ทั้งที่ในความเป็นจริงเราต่างรู้กันดีว่า การใช้ชีวิตในสังคมจริงมนุษย์ยังคงต้องสวมหน้ากากในแต่ละบริบท เพื่อให้ดูเข้าร่วมและเป็นส่วนหนึ่งกับคนหมู่มาก ทั้งที่เนื้อแท้และตัวตนของเขาอาจไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย

แต่สำหรับวง _less (underscoreLESS) อ่านว่า อันเดอร์สกอร์เลส ศิลปินดูโอ้ที่สวมหน้ากากและทำเพลงสไตล์ป็อป (Pop) เนื้อหาสัจนิยม เรื่องรักตลกร้าย พวกเขากลับมองว่า หน้ากากที่สวมนั้นไม่ต่างอะไรกับเกราะหรือพื้นที่ปลอดภัย จนทำให้เขากล้าที่จะพูดหรือบอกเล่าอะไรบางอย่างได้ตรงไปตรงมา มากกว่าการเปิดหน้าเสียด้วยซ้ำ

_lilb หรือ บิลลี่ (ซ้าย) กับ _mig-j หรือ คิม (ขวา)

เพื่อสำรวจความคิดภายใต้หน้ากากทั้งสอง The Momentum ขอชวนผู้อ่านทำความรู้จักกับ _less ศิลปินจากค่ายโซนี่ มิวสิค เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (Sony Music Entertainment) ที่มาพร้อมคอนเซปต์ Alter Ego หรือการใส่หน้ากากเพื่อแสดงอีกตัวตนหนึ่ง ซึ่งวันนี้ บิลลี่-ณัฐวัชร วุฒิกนกกาญจน์ และคิม-อิทธิพัฒน์ ไตรทิพย์พานิชย์ สมาชิกของวงจะขอใช้ความเป็น _lilb และ _mig-j บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น จนกลายมาเป็นวงดูโอ้ที่น่าจับตาในปัจจุบัน

ใส่หน้ากากคุยกัน 

ในต่างประเทศมีศิลปินหลายคนที่ใช้ Alter Ego หรือตัวตนที่ 2 เมื่อทำการแสดงอยู่บนเวที หรือต้องการทำเพลงที่แตกต่างออกไปจากตัวตนปกติ ดังนั้น _less จึงมีโอกาสซึมซับวิธีการแสดงออกถึงตัวตนที่ 2 บนเวทีมาจากศิลปินหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ตูน (อาทิวราห์ คงมาลัย) วงบอดี้สแลม (Bodyslam) หรือคู่หูศิลปินอิเล็กทรอนิกส์อย่าง Daft Punk ที่ใส่หน้ากากเหมือนกัน กระทั่ง เอก (HEARTROCKER) ที่อยู่ในวงการแคสต์เกมก็มีอิทธิพลกับพวกเขาด้วยเช่นกัน 

“แรงบันดาลใจของเราน่าจะมาจาก Daft Punk” _mig-j กล่าวก่อนที่_lilb จะเล่าต่อว่า

 “แรงบันดาลใจก็มาจากทั้งหมด จากมนุษย์ทุกคนด้วยที่ดำเนินชีวิตอยู่ จริงๆ เราเห็นไอเดียนี้จากพี่ตูน ตอนที่เขาอยู่ข้างล่างเวทีเขาจะเป็นอีกคนหนึ่ง พอขึ้นเวทีก็จะเป็นอีกคนหนึ่ง ทั้งหมดมันก็เป็นตัวตนของเขาที่สร้างขึ้นมา เพื่อที่จะไปทำหน้าที่ต่างๆ แล้วก็มีพี่เอก HEARTROCKER ที่เขาก็มีตัวตนของเขาตอนแคสต์เกมที่แยกออกจากชีวิตส่วนตัว”

เมื่อถามว่า เริ่มตระหนักถึง Alter Ego ตั้งแต่เมื่อไร สำหรับ _mig-j ตอบว่า เมื่อตอนที่เข้าสู่ชีวิตวัยทำงาน ซึ่งจำเป็นต้องวางตัว มีตัวตนที่แตกต่างจากสิ่งที่เคยปฏิบัติมา

“ช่วงที่ทำงาน มันต้องมีการวางตัวอยู่ร่วมกับผู้อื่น เราจะใช้อุปนิสัยเดิม หรือทำนิสัยไม่ดีกับคนอื่นไม่ได้ ต้องมีมารยาทในการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น” _mig-j เล่า

ส่วน _lilb เล่าถึงตอนที่ได้ดูหนังเรื่อง Split (2016) ของผู้กำกับ เอ็ม. ไนต์ ชยามาลาน (M. Night Shyamalan) ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้มีเค้าโครงจากเรื่องจริงของ บิลลี มิลลิแกน (Billy Milligan) อาชญากรชาวอเมริกันที่มี 24 บุคลิก

“เหมือนเราเริ่มเห็นว่า จริงๆ เรามีความแตกต่างในบางอย่างจากคนอื่น เราเชื่อว่า ตัวตนของมนุษย์แต่ละคน เกิดจากหลายปัจจัยหลอมรวมกันจนเกิดตัวตนที่แตกต่าง ทั้งการเสพสื่อหรืออะไรก็ตาม หรือถ้านึกแบบนี้ชัดๆ เลยมันจะมีหนังเรื่องหนึ่ง เรื่อง Split ที่ตัวเอกมีหลายบุคลิก พอคนดูหนังแล้วเริ่มรู้จักอาการหรือพฤติกรรมแบบนี้ คนทั่วไปรู้ว่า คนหลายบุคลิกเป็นอย่างไร ผมก็เลยอยากเอามาเป็นลูกเล่นของวง _less” _lilb กล่าว

สัจนิยมผสมดนตรีป็อป

ในแง่ของเนื้อเพลงของ _less เป็นการบอกเล่าอีกแง่มุมหนึ่ง บางท่อนที่ตรงไปตรงมาจนดูเป็นคำพูดรุนแรงเกินกว่าจะพูดในชีวิตจริง ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เรื่องราวในเพลงเหล่านี้เป็นเรื่องที่ในชีวิตจริงไม่กล้าพูดหรือไม่ จึงเลือกหยิบยกมาใส่ในเพลงแทน แล้วร้องออกมาด้วยอีกตัวตนหนึ่ง และกลับเล่าด้วยทำนองเพลงป็อปที่ฟังง่ายและคุ้นหู ดูขัดแย้งกับเนื้อหาในบางเพลง ซึ่งประเด็นแรก _mig-j ตอบว่า เนื้อหาของเพลงแต่ละเพลงมีทั้งเรื่องที่กล้าพูด และเรื่องที่ไม่กล้าพูด

“เรื่องที่เราไม่กล้าพูดจะเป็นในเรื่องของการทำงาน บางอย่างมันก็พูดไม่ได้ ซึ่ง _lilb เคยอธิบายคอนเซปต์ของเพลงว่า มันคือการกดปุ่มสวิตช์เปลี่ยนตัวเองเป็นอีกคน เพราะหากเรายังเป็นคนเดิม ในสถานการณ์แบบนี้ เราจะไม่สามารถปลดปล่อยความรู้สึกออกมาทั้งหมดได้ เราทำได้แค่พูดแบบอ้อมๆ อย่างสุภาพ”

เพลงที่เกี่ยวกับชีวิตคนทำงานอย่างเพลง notOKkrubbossX มีเนื้อหาของการต้องอดทนอดกลั้นในที่ทำงาน แม้อยากตอบสนองด้วยความโมโหเท่าไรก็ทำไม่ได้ ต้องข่มอารมณ์เอาไว้

“มันคือเรื่องที่ไม่ควรพูดในชีวิตจริง บางเรื่องควรอยู่ในเพลงได้อย่างเดียว” _lilb กล่าว และพูดถึงเพลงที่กล้าพูดในชีวิตจริงคือ เพลงที่เขียนมาจากตัวตนเดิม หรือตัวตนของบิลลี่กับคิม ซึ่งพูดถึงเรื่องในชีวิตประจำวัน คือเพลง Shower Mic! ซึ่งเล่าถึงการร้องเพลงตอนอาบน้ำ ที่ตรงกับจริตของใครหลายคน

“จริงๆ เราว่า พอทำงานศิลปะ หากเราอินหรือเราสนุกกับสิ่งไหน เราก็หยิบสิ่งนั้นมาสร้างงาน” _lilb กล่าว

“แล้วเราก็ทำเพลงป็อป เพราะเราชอบ และที่เราทำแบบนี้ มันได้เป็นสิ่งที่เป็นตัวตนของ _less จริงๆ ด้วย” _mig-j ว่าต่อ

แล้วเพลงไหนของ _less ที่พรีเซนต์ตัวตนของ _mig-j หรือ _lilb ได้ดีที่สุด?

สำหรับคำถามนี้ _mig-j บอกว่า เขาตอบเหมือนเดิมทุกครั้ง เพลงที่เป็นตัวตนของเขาคือเพลง don’t u even cry? กับเนื้อเพลงที่ว่า ‘แล้วเธอไม่คิดจะร้องไห้สักหน่อยเหรอ?’ แต่งขึ้นมาจากการที่เขาเสียใจแต่ไม่ได้ร้องไห้ออกมา ทำให้ถูกคนรอบตัวตั้งคำถามกับการแสดงออกถึงความโศกเศร้า อาลัยอาวรณ์

“เพลง don’t u even cry? มันมีความหมายที่สุดแล้ว น่าจะเป็นช่วงที่ตอนนั้นคุณปู่เสีย ถ้าถามว่า ตอนนั้นเราเสียใจไหม เราเสียใจมากเลย แต่ว่าไม่มีน้ำตา แค่รู้สึกว่า มันมีความลึกซึ้ง มีความผูกพันอยู่ในนั้น แต่เราก็อาจจะมีวิธีการปลดปล่อยความรู้สึกของตัวเองออกมาไม่เหมือนคนอื่น แล้วทุกครั้งที่เล่นเพลงนี้ เรารู้สึกว่า เราได้ระบายความรู้สึกเหล่านั้นออกมา รู้สึกว่า มันทำให้เราย้อนไปถึงวันนั้นทุกครั้งที่เล่นจริงๆ นะ” _mig-j เล่า

สำหรับ _lilb ผู้รับหน้าที่เป็นคนเขียนเพลง เขาบอกว่า เพลงที่สะท้อนตัวตนเขาได้ดีที่สุดคือเพลง _RUKRUKLERKLERK อ่านว่า อันเดอร์สกอร์รักรักเลิกเลิก กับเนื้อเพลง ‘ฉันรู้ว่าเราโตในประเทศที่เพลงรักๆ เจ็บๆ ล้นเมือง’

“_lilb จะมีความตลกโปกฮา แต่เพราะใช้ร่างเดียวกับบิลลี่ ก็จะมีประสบการณ์ร่วมกัน ซึ่งเลยช่วงที่จะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว มองโลกในความเป็นจริงมากขึ้น มองจุดความเป็นไปได้ที่จะแย่ที่สุดมากขึ้น เชื่อในความจริงที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งเพลง _RUKRUKLERKLERK มันก็เป็นเพลงรัก บอกคนที่เรารัก แต่จะพยายามกลั่นกรองเอาแต่ประโยคที่เชื่อในเป็นความจริงมาใส่ในเพลงนี้ว่า โลกมันเป็นแบบนี้นะ ความรักก็เป็นอย่างนี้ ประมาณนี้” _lilb เล่า

เมื่อตัวตนแรกเริ่มกับ Alter Ego ต้องใช้ร่างเดียวกัน สิ่งที่หลายคนสงสัยคงเป็นความแตกต่างว่า จุดไหนที่ทำให้แยกทั้ง 2 ตัวตนออกจากกันได้ รวมถึง Alter Ego มีความคิดเห็นหรือมองอีกตัวตนหนึ่งว่า เป็นคนอย่างไร 

“ตอนขึ้นเวทีต่างกันมาก เพราะเราคือ _lilb ใน _less แต่ขณะเดียวกัน เราก็มีร่างบิลลี่ที่ต้องไปเล่นดนตรีกับวงอื่นๆ ด้วย บทบาทหน้าที่แตกต่างกันมาก บิลลี่จะต้องเป็นคนที่โตแล้ว ส่วน _lilb คือสนามเด็กเล่นของบิลลี่ เพราะ _lilb ไม่ต้องมีภาระหน้าที่ในชีวิตจริงที่บิลลี่รับผิดชอบอยู่” _lilb พูดถึงความต่างระหว่าง 2 ตัวตน

“สำหรับ _mig-j มีความกล้ากว่าคิมมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรี หรือทำอะไรก็ตาม พอเป็น mig-j แล้วจะกล้าคิด กล้าทำอะไรมากขึ้น ตัวตนของคิมเป็นคนไม่ค่อยกล้าแสดงออก คิดถึงแต่อดีต ยึดติด และเป็นคนที่ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่ได้คิดถึงเรื่องอนาคตตัวเองมากมาย”

_mig-j เน้นย้ำว่า ตัวตนนี้ทำให้คิมได้ปลดปล่อย แสดงออกในสิ่งที่อยากให้คนอื่นได้เห็น เช่นเดียวกับ _lilb ที่บอกว่า ชอบนิสัยบนเวทีทั้งหมดใน Alter Ego ของตนเอง ทั้งการร้องเพลง การนำคน หรือการพยายามตั้งใจทำอะไรบางอย่างให้เกิดขึ้นบนเวที กระทั่งแผนงานของ _less

“สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับ _mig-j อีกเรื่องคือความพยายาม เพราะ _mig-j ไม่ใช่คนที่เรียนจบด้านดนตรีมาโดยตรง แต่พยายามและตั้งใจทำทุกอย่างให้มันดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพาร์ตของการร้องเพลง เล่นกีตาร์ หรือ Performance จุดนี้เราชอบมากเลย” _mig-j กล่าว

วงที่อยากให้คนยกโขยงกันมาสวมหน้ากากเต้นรำ

เมื่อเริ่มต้น _less จะมีสมาชิก 2 คนที่สวมใส่หน้ากาก แต่ในวันนี้ได้เกิดการรวมกลุ่มของเพื่อนๆ ขึ้นเพื่อมาร่วมสนุกในโชว์แต่ละครั้ง โดยการสวมหน้ากากร้องเพลงเต้นรำด้วยกัน จนดูเหมือนว่า _less ไม่ใช่เพียงแค่ _lilb กับ _mig-j แต่คือกลุ่มคนเป็นหมู่คณะ ไม่ต่างกับเหล่ากลุ่มเพื่อนตัวละครในการ์ตูนแม้แต่น้อย

“ตอนนี้เราอยากให้ _less เป็นอะไรก็ได้ ที่คนเชื่อว่า เราจะสามารถสร้างอีกหนึ่งตัวตนขึ้นมา เพื่อให้พื้นที่นั้นเกิดมวลอะไรบางอย่าง จะพยายามไม่ให้รู้สึกว่า _less เป็น _lilb หรือ _mig-j เราอาจจะอยู่ข้างหลัง หรือเป็นแค่ส่วนหนึ่งของมวลนั้น” _lilb กล่าว

_less ทิ้งท้ายว่า อยากให้แฟนเพลงมาร่วมใส่หน้ากาก เต้น และร้องเพลงด้วยกันเหมือนเป็นวัฒนธรรมหนึ่ง อยากให้สนุกสนานไปด้วยกันได้ทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ตาม

Fact Box

  • บิลลี่-ณัฐวัชร วุฒิกนกกาญจน์ และคิม-อิทธิพัฒน์ ไตรทิพย์พานิชย์ เป็นเพื่อนเล่นดนตรีด้วยกันมาตั้งแต่ตอนเรียนมัธยม และกลับมาเล่นดนตรีด้วยกันอีกครั้งในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 ทั้งคู่ฟอร์มวง _less ขึ้นมาโดยใช้คอนเซปต์ Alter Ego ตั้งแต่ตอนนั้น เหมือนการสร้างคาแรกเตอร์ในเกมหรือสร้างไอดีเกม
  • ชื่อ _lilb ของบิลลี่ มาจาก billy เขียนกลับหลัง แล้วใส่เครื่องหมายอันเดอร์สกอร์ และสำหรับชื่อ _mig-j มาจากชื่อคิมภาษาอังกฤษ คือ kim เขียนกลับหลังเช่นกัน แต่เปลี่ยน k เป็น g ส่วนตัว j มาจากกีตาร์ที่ชอบอย่าง Fender Jaguar
  • ในปี 2566 _less ได้เข้าร่วมค่ายโซนี่ มิวสิค เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จากการชักชวนของ ปิ้ว-กษิเดช ฤทธิ์งาม หรือ ปิ้ว วง TELEx TELEXs ที่ส่งข้อความให้ _less ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก
Tags: , , , , ,