เมื่อเอ่ยถึง ‘เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์’ ภาพจำอย่างแรกที่หลายคนนึกถึงหนีไม่พ้นรายการวาไรตี้เกมโชว์คุณภาพเยี่ยมที่อยู่คู่จอโทรทัศน์มานานกว่า 11 ปี  

จนกระทั่งกลางปี 2563 ที่ผ่านมา วงการกีฬาฟุตบอลไทยเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังทรูวิชั่นส์ ผู้ถือครองลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกมานานกว่า 20 ปี ตัดสินใจไม่ต่อสัญญา ทว่าจุดจบดังกล่าวได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นบนหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทยของเซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ ในฐานะผู้ถือครองสิทธิ์หน้าใหม่ ที่มาพร้อมกับสโลแกน ‘Sportainment’

เป็นเวลาครึ่งปีแล้ว หลังจากเปิดตัวเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาฟุตบอลไทย ท่ามกลางความสงสัยจากเหล่าคอบอล ทั้งเรื่องของลิขสิทธิ์ แพลตฟอร์มการถ่ายทอดสดอันหลากหลาย  รวมถึงทิศทางของเซ้นส์ต่อจากนี้ว่ายังจะลุยตลาดเกมโชว์เหมือนเดิมหรือไม่

The Momentum สัมภาษณ์ ‘เอ’ – วราวุธ เจนธนากุล หัวเรือใหญ่ผู้ปลุกปั้นเซ้นส์ กับสารพัดข้อสงสัยในการเข้ามาถือครองลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย แนวคิดการสร้างคอนเทนต์กีฬา ความรักที่มีต่อฟุตบอล จนถึงอนาคตของเซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์

 

ทำไมถึงทุ่มเงินซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลไทย ทั้งที่ธุรกิจวาไรตี้เกมโชว์ก็ไปได้สวยอยู่แล้ว 

ต้องเท้าความก่อนว่าเซ้นส์ทำรายการโทรทัศน์มาเป็นปีที่ 11 แล้ว เรามีความแข็งแรงในเรื่องรายการวาไรตี้และเกมโชว์ เมื่ออยู่ตรงจุดนี้มานานก็เกิดการตั้งคำถามว่า อนาคตผู้ชมอยากดูคอนเทนต์แบบไหน ในยุคที่ทุกธุรกิจแข่งขันกันสูง วงการคอนเทนต์ก็ต้องปรับตัวเช่นกัน พฤติกรรมของคนดูเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สมัยก่อนอยากดูรายการทีวีก็ต้องเฝ้าจอรอดูตามลำดับเวลาของสถานี แต่สมัยนี้ไม่ต้องแล้ว อยากดูอะไรก็เลือกได้ทันที

พอพฤติกรรมคนดูเปลี่ยนไป เราก็จะเห็นว่าหลายๆ คอนเทนต์มีความแข็งแรงลดลง จุดนี้เซ้นส์เล็งเห็นว่าคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับกีฬายังคงแข็งแรงอยู่ เพราะกีฬาเป็นสิ่งที่ผู้ชมยังต้องอาศัยการดูแบบสดๆ เพื่อให้ได้อรรถรส ฉะนั้น เราเลยตัดสินใจเข้ามาลงทุนพัฒนาในส่วนของคอนเทนต์กีฬาให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ก่อนก้าวเข้ามาถือลิขสิทธิ์ คุณเห็นอะไรในวงการฟุตบอลไทย 

สมัยก่อนผมโตมาในยุคที่ฟุตบอลทีมชาติไทยกับทีมสโมสรทหารอากาศเฟื่องฟู มีผู้เล่นชั้นนำมากมาย อย่างศูนย์หน้าก็ต้อง ‘พี่ตุ๊ก’ – ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ปีกซ้าย ชะลอ หงส์ขจร ปีกขวา ประทีป ปานขาว ผู้รักษาประตู ชัยยง ขำเปี่ยม ผมท่องชื่อได้แทบจะทุกคน จนกระทั่งห่างหายกันไปยุคหนึ่ง 

พอวันนี้กลับมาติดตามอีกครั้ง เราเห็นนักฟุตบอลทีมชาติไทยคนหนึ่งเล่นดีมาก อยากเสิร์ชหาทำความรู้จัก แต่กลับหาข้อมูลของเขาได้ยากเหลือเกิน ทั้งที่ยุคนี้ คอนเทนต์ข้อมูลข่าวสารควรจะหาได้ไม่ยาก เลยตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราควรเข้ามาช่วยเหลือตรงส่วนนี้ไหม ให้สมกับที่ฟุตบอลเป็นกีฬาอันดับหนึ่งของคนไทย

คุณมีมุมมองต่อธุรกิจคอนเทนต์กีฬาในเมืองไทยอย่างไร

ผมมองว่าธุรกิจคอนเทนต์กีฬามีความเชื่อมโยงต่อไลฟ์สไตล์คนไทยยุคปัจจุบัน เราเห็นคนไทยหันมาสนใจเรื่องกีฬา เรื่องสุขภาพกันมากขึ้น เมื่อกระแสความนิยมวิ่งไปในทิศทางนี้ เราในฐานะคนทำคอนเทนต์ก็ต้องหันมาให้ความสนใจตรงส่วนนี้มากยิ่งขึ้น

 

ทำไมถึงเลือกฟุตบอล ในเมื่อกีฬาอย่างวอลเลย์บอลหรือมวยก็มีฐานผู้ชมเยอะเช่นกัน

 เหตุผลอย่างแรกคือ หนึ่ง ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆในบ้านเรา และสอง ฟุตบอลเป็นคอนเทนต์ที่มีเวลาการออกอากาศค่อนข้างแน่นอน กีฬาอย่างมวยก็น่าสนใจ แต่คุณเคยเห็นมวยแข่งขันกันแล้วชนะน็อกยกแรกในเวลาไม่ถึง 3 นาทีไหม (หัวเราะ) ลักษณะแบบนี้ในแง่คนทำคอนเทนต์ถือว่าบริหารควบคุมเวลาได้ยาก อย่างวอลเลย์บอลก็เล่นกัน 1-3 ชั่วโมง เราจำเป็นต้องยึดหลักช่วงเวลาที่แน่นอน ฟุตบอลเลยกลายเป็นเป้าหมายแรกของเรา เผอิญว่าลิขสิทธิ์ที่เราประมูลได้คือรูปแบบ Global Broadcasting Right ทำให้สามารถส่งคอนเทนต์ฟุตบอลไทยออกสู่ทั่วโลกได้ ต่างจากตอนที่เป็นทรูวิชั่นส์ ซึ่งก็มีพาร์ตเนอร์ติดต่อเข้ามาขอซื้อลิขสิทธิ์มากมาย โดยเฉพาะกลุ่มอาเซียนด้วยกันเอง

กลัวความเสี่ยงเรื่องกระแสตอบรับบ้างหรือเปล่า เพราะไทยลีกเองก็ยังอยู่ในจุดเพิ่งพัฒนา

ถึงตอนนี้ องค์ประกอบหลายๆ อย่างของฟุตบอลบ้านเราก็ยังไม่สมบูรณ์ไปเสียทั้งหมด แต่ผมมั่นใจว่าการพัฒนาจะช่วยให้เราไปอยู่ในจุดที่ดีที่สุด เพราะแม้แต่ลีกอันดับหนึ่งของโลกอย่างพรีเมียร์ลีกก็ยังต้องพัฒนาอยู่ตลอดเวลา

แล้วเรื่องภาพจำที่ผู้ชมยังคิดว่า หากเป็นเซ้นส์ต้องเป็นรายการทีวีเกมโชว์เท่านั้นล่ะ

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าใครสงสัยว่าเราจะทำได้ไหม แน่นอนว่าทุกคนรู้จักเซ้นส์ในฐานะผู้ผลิตรายการ จากก้าวแรกจนถึงตอนนี้ ผมผลิตรายการไปแล้วกว่า 4,800 ชั่วโมง ทุกคนย่อมต้องมีก้าวแรก ซึ่งเราเอาประสบการณ์การสร้าง พัฒนา และถ่ายทอดคอนเทนต์ มาเตรียมความพร้อมเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปได้ ดังนั้นเราถึงกล้าเข้ามาดูแลลิขสิทธิ์นี้

เห็นความแตกต่างอะไรระหว่างการทำคอนเทนต์วาไรตี้เกมโชว์กับคอนเทนต์กีฬา

แต่ละศาสตร์มีความแตกต่างกัน อย่างการถ่ายทอดสดฟุตบอลก็มีศาสตร์ในตัวมันเอง แต่ทั้งสองอย่างมีความเกี่ยวข้องกันคือ การทำคอนเทนต์ให้น่าสนใจ แน่นอนว่ายิ่งคุณทำคอนเทนต์ให้น่าสนใจ ผู้ชมก็ยิ่งอยากกลับมาดูคุณในวันหน้า

 

ในวันที่ผู้ชมมีสื่อทางเลือกมากมาย เซ้นส์ต้องปรับตัวอย่างไร

ทุกวันนี้พฤติกรรมคนดูเปลี่ยนไปตลอดเวลา ชอบง่าย เบื่อง่าย อะไรที่ทำไปแล้วได้ผลตอบรับดีก็ต้องพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ถ้าผลตอบรับไม่ดีก็ต้องปรับปรุงกันไป ผมมองว่ามันคือศิลปะในการทำคอนเทนต์ เราเองเป็นคนเส้นลึก ขำยาก เวลาไปเรียนรู้ หรือเลือกซื้อลิขสิทธิ์รายการจากต่างประเทศก็ต้องคำนึงด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า ถ้าตัวเราเองสนใจ หัวเราะไปกับมันได้ คนดูอีก 70-80 เปอร์เซ็นต์ ก็มีแนวโน้มที่น่าจะสนใจเหมือนกัน แล้วค่อยมาวางแผนกับทีมโปรดิวเซอร์อีกทีถึงความเป็นไปได้ที่จะทำรายการแบบนี้บ้าง

แล้วคอนเซ็ปต์ Sportainment คืออะไร

เราดูฟุตบอลต่างประเทศ เราเห็นนักฟุตบอลต่างประเทศไม่ต่างจากเซเลบริตี แล้วทำไมเราไม่สร้างมูลค่านักฟุตบอลไทยให้เป็นแบบนั้นบ้างล่ะ ทั้งที่นักฟุตบอลไทยเองก็มีคนที่หน้าตาที่ดี มีความสามารถ เช่น พาเขามาออกรายการให้เป็นที่รู้จัก สโมสร กลุ่มแฟนบอลเองก็เช่นกัน หรือแม้แต่การสร้างคอนเทนต์สารคดีกีฬาแบบต่างประเทศ ทำไมเราถึงไม่ทำ

เราไม่ได้เข้ามาถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดอย่างเดียว แต่เราเข้ามาสร้างคอนเทนต์ด้วย หากเราดึงดูดผู้ชมทั้ง 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มที่สนใจอยู่แล้วให้สนใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม 2. กลุ่มที่พยายามดูแล้วแต่ไม่เข้าใจ และ 3. กลุ่มที่ไม่เคยสนใจ ถ้าสามารสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์คนทั้ง 3 กลุ่มได้ ตามหลักการย่อมประสบความสำเร็จ ทั้งหมดนี้คือโจทย์ที่เราใช้เป็นกลยุทธ์สร้าง Sportainment

หลังถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกมาเกือบหนึ่งฤดูกาล เสียงตอบรับไปในทิศทางไหน 

ในแง่ของเรตติ้งถือว่าได้ผลตอบรับที่ดีทั้งบ้านเราและต่างประเทศ ส่วนหนึ่งมาจากผู้ชมเองก็โหยหาการดูกีฬา เพราะช่วงที่โควิด-19 ระบาดทำให้การแข่งขันกีฬาน้อยลง เราเองก็พยายามปรับตัว ทำงานหนักขึ้นเพื่อหารายได้มาสนับสนุนฟุตบอลไทยให้แข็งแรง

ผมโตมากับคำว่า ‘อยากเห็นฟุตบอลไทยไปบอลโลก’ ตั้งแต่ 7 ขวบ จนอายุ 45 ป่านนี้ก็ยังไม่เคยเห็นฟุตบอลชายชุดใหญ่ได้ไปฟุตบอลโลกสักที จุดนี้ทำให้ผมสังเกตถึงความเป็นจริงอย่างหนึ่งว่า ชาติที่ได้ไปฟุตบอลโลก ลีกในประเทศเขานั้นล้วนได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ผมเลยตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราจะทำอะไรให้ทีมชาติไทยได้ไปฟุตบอลโลกได้บ้าง ง่ายๆ เราลองช่วยกันดูฟุตบอลไทยอาทิตย์ละแมตช์ไหม ยิ่งคุณดู สปอนเซอร์ยิ่งอยากมาสนับสนุน พอมีสปอนเซอร์ เงินที่จะเข้าไปสนับสนุนสโมสร ทีมชาติ รวมถึงนักฟุตบอล ก็จะเป็นรากฐานให้ฟุตบอลไทยมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น หากโมเดลนี้สำเร็จเชื่อว่าประโยค ‘บอลไทยไปบอลโลก’ ที่เราฟังกันมานานก็มีโอกาสเป็นจริง

เหตุใดฟุตบอลไทยลีกฤดูกาล 2020/2021 ถึงไม่เลือกถ่ายทอดสดเองทั้งหมด

ต้องบอกว่าลิขสิทธิ์ปี 2020/2021 ยังไม่ใช่ของเซ้นส์แบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ จริงๆ แล้ว ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดต้องเริ่มปีหน้า แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าทรูวิชั่นส์ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับสมาคมฟุตบอลไทยจากปัญหาโควิด-19 พอตารางแข่งถูกเลื่อนออกไป ทำให้ช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง ฟุตบอลไทยลีกไม่มีช่องทางออกอากาศ ทางสมาคมฯ เลยมาปรึกษากับทางเซ้นส์ว่าจะช่วยอย่างไรได้บ้าง เราเลยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ลงมือประสานงานติดต่อหาฟรีทีวีช่องต่างๆ มาช่วยถ่ายทอดช่วยโปรโมต ซึ่งจุดนี้หลายคนยังเข้าใจผิดกันอยู่

 

นั่นหมายความว่าฤดูกาลหน้าเซ้นส์เตรียมช่องทางใหม่เอาไว้แล้วสำหรับไทยลีก

เรามีพาร์ตเนอร์รายใหม่อย่างเทนเซ็นต์ (Tencent) ที่ช่วยเข้ามาสร้างเว็บไซต์ และแพลตฟอร์มแอพพลิเคชันที่มีชื่อว่า เชียร์ไทย เพื่อสร้างคอมมูนิตี้คนรักกีฬา คุณไม่ได้เข้ามาดูถ่ายทอดสดฟุตบอลเพียงอย่างเดียว คุณเข้ามาจะเจอเพื่อนคอบอลแบบเดียวกัน ค้นหาข้อมูล สถิติ บทวิเคราะห์ ให้สามารถดูฟุตบอลสนุกมากยิ่งขึ้น รวมถึงซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขันในสนามหรือซื้อของที่ระลึกกับสโมสรนั้นๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องเปิดหลายๆ เว็บ ในแอพฯ เชียร์ไทยมีให้ครบหมด

ด้วยความที่เรามีลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลไทยทุกระดับ ครบทั้ง 360 แมตช์ การถ่ายทอดที่นิ่งจำเป็นต้องมีระบบเครือข่ายที่มั่นคง ซึ่งเทนเซ็นต์ตอบโจทย์กลยุทธ์เราตรงจุดนี้ได้ อีกทั้งเทนเซ็นต์มีประสบการณ์ความเข้าใจวัฒนธรรมการใช้แอพพลิเคชันของคนเอเชีย ส่วนอีเลฟเว่นสปอร์ต (ELEVEN SPORTS) อีกหนึ่งพันธมิตรของเราก็ยังคงดูในส่วนของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดออกนอกประเทศ

ถามว่าในอนาคตคนดูต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรับชมหรือเปล่า ตรงนี้เรามองไว้หลายโมเดลในการหารายได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอยากดูยูทูบคุณภาพดีแบบไม่ติดโฆษณา คุณก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม การพัฒนาทุกอย่างจำเป็นต้องเพิ่มเม็ดเงิน บางส่วนก็อาจจะแบ่งไปลงฟรีทีวีเพื่อสร้างความสมดุลบ้าง แต่สิ่งสำคัญที่เราอยากเห็นคือ การร่วมมือร่วมใจเพื่อให้ฟุตบอลไทยประสบความสำเร็จ 

สิ่งที่ผมกำลังจะทำคือสิ่งใหม่ ซึ่งสิ่งใหม่นี้เป็นความพยายามตั้งใจจริงกับการสร้างศูนย์กลางคนรักฟุตบอลไทย เข้ามาช่วยกันดู ช่วยกันสนับสนุน จนถึงวันที่ฟุตบอลไทยพัฒนาไปสู่ฟุตบอลโลก ผมเองอยากเห็นความฝันนี้เกิดขึ้นจริงในยุคของผมมากกว่าผลกำไรที่จะเกิดขึ้น

อยากบอกอะไรกับคนที่มองว่าเราเป็นเพียงคนทำเกมโชว์ที่เข้ามาลงทุนกับกีฬาฟุตบอล

ผมเองเป็นคนรักฟุตบอล เล่นฟุตบอล เคยเป็นนักฟุตบอลตอนเด็ก แม้ภาพลักษณ์ของผมจะดูเป็นพิธีกรเกมโชว์ คนทั่วไปอาจจะไม่ได้รู้จักในแง่ของคนรักกีฬา แต่บอกได้เลยว่าเรื่องของกีฬาผมก็รู้ลึกซึ้งไม่น้อยกว่าใคร มีแพสชัน มีโมเมนต์ของการลุ้นเชียร์ทีมรัก

 

มีทีมฟุตบอลในดวงใจไหม

ผมเป็นแฟนลิเวอร์พูลช่วงยุค เอียน รัช  ไม่ว่ามันจะดีจะร้ายยังไงก็เชียร์ ตอนเด็กๆ จำได้ว่า ถึงลิเวอร์พูลจะตาม 0-3 แต่หากยังไม่หมด 90 นาที ผมก็ยังเห็นนักเตะทุกคนวิ่งเพื่อจะเอาคืนสักประตู ไม่มีใครหยุดยืนเฉยๆ ผมรักแพสชันแบบนี้ เหมือนเขารู้ว่าเรากำลังให้กำลังใจอยู่ นี่แหละที่เป็นคติคำว่า ‘You Will Never Walk Alone’ ของลิเวอร์พูล

สมัยเด็กๆ ผมตั้งหน้าตั้งตารอดูไฮไลต์ตอนดึกหลังเที่ยงคืนจากช่อง 7 ยุคที่คุณอา ย.โย่ง (เอกชัย นพจินดา, ผู้บรรยายกีฬาชื่อดังผู้ล่วงลับ) เป็นคนบรรยาย ส่วนฟุตบอลไทยก็ต้องทีมชาติแน่นอน 

หากเปรียบเซ้นส์เป็นทีมฟุตบอลทีมหนึ่ง จะเป็นทีมอะไร

ผมคงอยากให้เป็นแบบที่ลิเวอร์พูลเป็น ไม่เคยยอมแพ้ สู้จนถึงวินาทีสุดท้าย ทำให้เต็มที่ ชนะไปด้วยกัน แพ้ก็แพ้ด้วยกัน ทำให้ดีที่สุด

คุณมองเซ้นส์ในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้าอย่างไร

เราตั้งเป้าเป็นผู้นำในแง่ของ Global Content Provider และ Content Broadcaster นี่คือสิ่งที่เราตั้งเป้าเอาไว้ในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งเรากำลังลงมือทำอยู่ในตอนนี้

Tags: , , , , , , , ,