หลังจากกระแสซีรีส์ Game of Thrones โด่งดังถล่มทลาย ความนิยมท่องเที่ยวตามสถานที่ถ่ายทำก็ติดกระแสตามไปด้วย หนึ่งในนั้นก็คือประเทศไอซ์แลนด์ ดินแดนน้ำแข็ง ฟังดูก็น่าจะหนาวทีเดียว แต่เราจะลองเดินทางไปในฤดูร้อน ลองดูกันว่ามันจะหนาวอยู่ไหมนะ
เราวางแผนทริปไว้เจ็ดวัน ขับรถเที่ยวรอบเกาะด้วยระยะทางกว่า 2,000 กิโลเมตรตามประสา พ่อ แม่ และลูกตัวจิ๋วที่เพิ่งผ่าน 1 ขวบไปหมาดๆ
ทำไมเลือกไปฤดูร้อน
ฤดูร้อนหรือราวเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมเป็นช่วง High season ของที่นี่สามารถเที่ยวได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำเพราะฤดูนี้พระอาทิตย์ตกเกือบเที่ยงคืนอากาศสบายๆประมาณ 10-20 องศามีแดดเยอะสามารถเดินทางไปได้ทุกโซนของประเทศ (แต่บางโซนต้องใช้เฉพาะรถ 4WD) ข้อเสียของหน้าร้อนคือราคาค่าที่พักแพงเป็นพิเศษและมีโอกาสเห็นแสงเหนือน้อยหน่อย
ไปยังไงให้ถึงไอซ์แลนด์
สายการบินหลักๆที่พาเรามาถึงไอซ์แลนด์ได้คือ Icelandair Airline และ Wowair (low-cost) บินได้จากหลายประเทศในยุโรปและจะถูกเป็นพิเศษถ้าขึ้นจาก Brussel, Amsterdam, Copenhagen และ Oslo เครื่องบินไปลงที่ Keflavik Airport เมือง Keflavik
เดินทางรอบเกาะยังไงดี
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะเลือกเช่ารถขับเที่ยวเองรอบเกาะเพราะสะดวกสบายมากกว่า (โดยเฉพาะแม่ลูกอ่อนแบบเรา) อีกทางเลือกคือลองหาซื้อทัวร์ใช้บริการรถโดยสารหรือไม่ก็โบกรถโดยเฉพาะในฤดูร้อนน่าจะหารถได้ไม่ยากเพราะมีรถวิ่งผ่านไปมาเยอะแต่ถ้ามาช่วงฤดูหนาวรถโดยสารและรถให้โบกก็อาจหายากหน่อย
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะใช้เวลา 5-14 วันสำหรับการขับรถเที่ยวรอบเกาะขึ้นอยู่กับเวลาความอึดในการขับรถและงบประมาณเพราะค่ากินอยู่และค่าเช่ารถที่นี่ถือว่าแพงมากทีเดียว
การเช่ารถมีทั้งบริษัทท้องถิ่นและนานาชาติมีให้เลือกตั้งแต่รถรุ่นเล็กสุดยันขับเคลื่อนสี่ล้อคันใหญ่ที่ควรศึกษาคือเรื่องประกันภัยรถยนต์เพราะแต่ละเจ้าจะมีข้อเสนอให้ไม่เหมือนกันรถส่วนใหญ่จะรวมประกันชั้น 3 ไว้แล้วแต่ที่ต้องจ่ายเพิ่มคือประกันชั้น 1 (SCDW) ประกันป้องกันรถจากถนนลูกรัง (Gravel Protection) ประกันป้องกันเถ้าถ่านภูเขาไฟ (Sand and Ash Protection)
เบอร์ 1 เบอร์เดียวเที่ยวรอบเกาะ
ถนนหมายเลข 1 เป็นถนนที่วิ่งรอบเกาะไอซ์แลนด์และเป็นเส้นทางยอดฮิตสำหรับการท่องเที่ยวถนนที่นี่ขับง่ายเส้นทางไม่ซับซ้อนขับตามเส้นทางนี้ไปอย่างเดียวกว่า 2,000 กิโลเมตรก็จะวนได้ครบรอบจะขึ้นเหนือหรือลงใต้ก่อนก็ไม่เกี่ยงอีกทั้งที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ตั้งอยู่ติดริมถนนหรือไม่ก็ขับแวะเข้าไปบ้างตลอดทางไม่ต้องกลัวเหงาเพราะมีเพื่อนร่วมทางอย่างแกะหรือม้าเดินเล่นเป็นเพื่อนอยู่ทั้งสองข้างทาง
เพื่อความไม่ประมาทควรศึกษากฎจราจรไอซ์แลนด์และควรเช็คเส้นทางทุกครั้งก่อนออกเดินทาง (เช็คได้ที่http://www.road.is/about/news/get-the-irca-app)
ความยากของการขับรถที่นี่
อย่างแรกคือชื่อเมืองและชื่อสถานที่ท่องเที่ยวในภาษาไอซ์แลนดิกอ่านยากแสนยากเช่น Solheimasandur, Kolugljúfur สุดท้ายก็เลยต้องใช้ท่องจำอย่างเดียวแล้วอ่านเอาคร่าวๆแบบที่เข้าใจเอง
อีกเรื่องคือการขับรถที่นี่มีลิมิตความเร็วอยู่ที่ 90 กม.ต่อชั่วโมงสำหรับนอกเมืองและ 50 กม.ต่อชั่วโมงสำหรับเขตเมืองทำให้ขับกันเมื่อยขาทีเดียวหรือดีไม่ดีก็อาจจะเผลอหลับได้โดยเฉพาะช่วงเย็นๆถ้าโชคดีรถที่จองมี cruise control หรือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติให้ก็จะสบายขึ้นได้บ้าง
นอกจากนี้สภาพอากาศที่นี่แปรปรวนมาก เดี๋ยวแดดออก เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวลมแรง ต้องคอยเช็คอากาศไว้ให้ดี เพราะถ้าฝนตกหนักแล้วต้องขับไปเส้นทางอันตราย เช่นอาจมีหินถล่ม ก็อาจจะเสี่ยงเกินไป โดยเฉพาะเวลาลมแรง ลมที่นี่แรงจนแทบจะเปิดประตูรถไม่ได้เลย หรือถ้าต้องออกจากรถไปช่วงนั้นต้องดูทิศทางลมด้วย ถ้าเผลอไม่ระวัง ลมพัดประตูรถปลิวเอาได้ง่ายๆ เลย
5 ที่เที่ยวประทับใจในไอซ์แลนด์
สถานที่เที่ยวส่วนใหญ่เป็นธรรมชาติที่เกิดจากภูเขาไฟหรือได้รับผลกระทบจากภูเขาไฟทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นหุบเขาที่เกิดจากลาวากัดเซาะผาหินที่โดนลาวากัดกร่อนน้ำพุร้อนความแรงสูงและซากลาวาที่ทับทมมานานฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีน้ำตกขนาดยักษ์ พลังน้ำมหาศาลอีกหลายแห่ง แค่ได้มาดูน้ำตกที่นี่อย่างเดียวก็น่าคุ้มค่าที่ได้มาแล้ว และยิ่งถ้ามีความรู้ด้านธรณีวิทยาหรือเป็นแฟนคลับภูเขาไฟ น่าจะยิ่งมีความสุขและเต็มอิ่มที่ได้มาเยือนที่นี่
เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์มีเยอะมากโดยเฉพาะทางฝั่งใต้ของเกาะมีจุดให้แวะเยอะกว่าเพื่อนแต่เนื่องจากที่พักมีน้อยและแพงมากจึงต้องวางแผนให้ดีโดยเลือกเที่ยวจากจุดสำคัญพยายามเฉลี่ยให้ได้วันละ 3-4 ที่ไม่ให้ตารางแน่นเกินไป (ที่สำคัญต้องพาเด็กไปได้ไม่อันตรายและกลับทันเคอร์ฟิวของเจ้าตัวน้อยก่อนหนึ่งทุ่มเป็นหลัก)
ถ้ามีคนมาถามว่า “ไปเที่ยวไหนดีในไอซ์แลนด์ ?” หรือ “ถ้ามีโอกาสกลับไปอีกจะไปที่ไหนบ้าง?” ลองนั่งคิดดูแล้วได้คำตอบออกมาเป็น 5 สถานที่นี้
1. Brúarfoss
เป็นน้ำตกที่อยู่ลึกลับสักหน่อยแม้แต่ในกูเกิลแมปก็ยังบอกตำแหน่งได้ไม่ชัดเจนต้องลองถามทางดูถึงพอจะรู้คร่าวๆ
ทางเดินเข้าไปน้ำตกสมบุกสมบันเล็กน้อยต้องข้ามรั้วลวดหนามไม่มีป้ายบอกทางใช้ฟังเสียงน้ำตกแล้วเดินเข้าไปเมื่อไปถึงภาพแรกที่เห็นคือน้ำตกสีฟ้าใสกิ๊งเหมือนละลายมาจากธารน้ำแข็งโดยตรงสวยมากลองไปจับน้ำดูก็เย็นนะแต่ไม่เย็นเจี๊ยบลองชิมดูรสชาติก็คล้ายๆน้ำแข็งที่ละลายจากตู้เย็นยังไงยังงั้น
2. Gullfoss
น้ำตกขนาดมหึมารูปทรงคล้ายๆเค้กชิ้นโตสีน้ำดูขุ่นๆหน่อยเหมือนผ่านอะไรมาเยอะแม้ว่าจะเป็นน้ำที่ละลายมาจากธารน้ำแข็งเหมือนกันคนที่นี่ยกย่องให้น้ำตกนี้เป็นไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ลองเข้าไปใกล้จะสัมผัสได้ถึงพลังน้ำมหาศาลเลย
ในช่วงศตวรรษที่ 19 มีนักลงทุนหลายคนคิดจะมาสร้างโรงไฟฟ้าที่นี่กันแต่ไม่สำเร็จ เป็นเพราะการคัดค้านของลูกสาวเจ้าของน้ำตกแห่งนี้ (ฟังดูยิ่งใหญ่ แต่จริงๆ เป็นชาวบ้านตัวเล็กๆ ที่ทำมาหากินแถบนี้) สุดท้ายเรื่องราวจบลงที่ยกน้ำตกให้เป็นของรัฐแทน และลูกสาวได้รับการยกย่องเป็นฮีโร่รักษาน้ำตกไว้ได้
3. Jökulsárlón
ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ลึกที่สุดในประเทศนี้เกิดจากธารน้ำแข็งที่ละลายลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติกแต่เนื่องจากละลายเยอะหน่อยจึงสะสมจนกลายเป็นทะเลสาบ
บรรยากาศที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ขั้วโลกเหนือแต่มองไปอีกฝั่งกลับเห็นเป็นเนินทรายสูงไม่มีต้นไม้และแดดร้อนเปรี้ยงถ้าให้ดีแนะนำว่าควรมาที่นี่ช่วงเย็นๆที่แดดไม่แรงมากที่นี่ถือเป็นที่เที่ยวที่ประทับใจที่สุดในไอซ์แลนด์เพราะบรรยากาศเหลือเชื่อในแบบที่รูปถ่ายไม่สามารถเล่าความรู้สึกออกมาได้
4. Dyrhólaey
หน้าผารูปโค้งที่เกิดจากแรงระเบิดของภูเขาไฟที่นี่สามารถมองเห็นธรรมชาติได้หลากหลายเลยมองไปข้างหน้าจะเห็นมหาสมุทรแอตแลนติคอันกว้างใหญ่ไพศาลมองลงไปด้านล่างจะเห็น Reynisfjara Beach หาดทรายดำอันแสนโด่งดังของที่นี่ซึ่งเกิดจากหินลาวาที่โดนกัดกร่อนสะสมรวมตัวกันที่หาดแห่งนี้จนเป็นหาดสีดำสนิทถ้ามองเข้ามายังหน้าผาจะเห็นนกพัฟฟิน – อีกหนึ่งไอคอนน่ารักของประเทศไอซ์แลนด์บินกันว่อนไปมาเนื่องจากเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของมัน
ถ้าอยากมาดูแหล่งนกพัฟฟิน นกจะมาโชว์ตัวให้ดูแค่ช่วงฤดูร้อนเดือน มิย.-สค.เท่านั้นนะ
5. Grabrok Crater
ปากปล่องภูเขาไฟเตี้ยขนาดกะทัดรัดมีทางเดินขึ้นไปชมอย่างดีแต่ถ้าช่วงลมแรงอาจจะต้องระวังโดนลมพัดหล่นลงเขาได้
อาหารการกินที่ไอซ์แลนด์
อาหารขึ้นชื่อที่นี่คงไม่พ้นเนื้อปลาและเนื้อแกะนุ่มๆที่ถูกเลี้ยงให้เดินเล่นกันอย่างอิสระนอกจากนี้ยังมีเนื้อม้าและเนื้อปลาวาฬด้วย
ราคาอาหารเรียกว่าแพงถึงแพงมากทีเดียวเนื่องจากฤดูหาอาหารที่มีอย่างจำกัดแต่ถ้าใครไม่สันทัดก็ยังมีร้านอาหารไทยบ้างตามเมืองใหญ่ๆราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับอาหารท้องถิ่น
หรือถ้าใครงบน้อยแนะนำให้ฝากท้องไว้กับตามปั๊มน้ำมัน N1 ที่สำคัญในปั๊มมีไอติม soft cream อร่อยมาก!
พาลูกไปเที่ยวไอซ์แลนด์ลำบากไหม ?
สถานที่เที่ยวส่วนใหญ่เดินทางไม่ยากมีเส้นทางอำนวยความสะดวกอย่างดีเหลือแต่ความฟิตของพ่อแม่ที่จะพาลูกขึ้นไปเท่านั้นแนะนำให้ใช้เป้สะพายลูกตลอดการเดินทางจะสะดวกที่สุดส่วนเรื่องอาหารการกินของเด็กจะมีขายเป็นอาหารขวดอยู่ตามปั๊มน้ำมันหรือซูเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่
Tips:ที่จอดพักรถมีเยอะบางที่มีเก้าอี้บางที่มีห้องน้ำบางที่มีประวัติให้อ่านหรือบางที่ก็แค่ให้จอดเฉยๆ
- น้ำประปาที่นี่ป็นน้ำแร่ธรรมชาติ 100% แม้แต่เด็กทารกยังกินได้และน้ำอุ่นในห้องน้ำก็เป็นน้ำแร่ด้วยเช่นกัน
- ห้องน้ำไม่ได้มีทุกแห่งแต่ที่แน่ๆมีในทุกปั๊มแต่ปั๊มมีเฉพาะใกล้เมืองใหญ่ๆ