“เพื่อภาพยนตร์แล้ว ผมอยากเป็นเหมือนกับที่(วิลเลียม)เชคสเปียร์เป็นเพื่องานละคร (คาร์ล)มาร์กซ์เพื่องานการเมือง และ(ซิกมุนด์)ฟรอยด์เพื่องานด้านจิตวิทยา ใครบางคนที่ไม่ได้เป็นอะไรเหมือนก่อนหน้านั้น”

เป็นคำพูดที่หนักแน่นของไรเนอร์ แวร์เนอร์ ฟาสส์บินเดอร์ (Rainer Werner Fassbinder) ซึ่งหากทุกวันนี้เขายังมีชีวิตอยู่เขาก็จะอายุครบ 75 ปี 

ฟาสส์บินเดอร์ เกิดเมื่อปี 1945 ที่เมืองบาด เวอริสโฮเฟน ในเขตรัฐบาวาเรีย เป็นลูกชายคนเดียวของหมอ-เฮลมุท ฟาสส์บินเดอร์ (Helmuth Fassbinder) และนักแปล-ลิเซล็อตเต เอเดอร์ (Liselotte Eder) หลังจากลูกน้อยลืมตาดูโลกได้ไม่นานครอบครัวของเขาก็ย้ายกลับไปมิวนิก ผู้เป็นพ่อเปิดคลินิกของตนเองที่นั่น ปี 1951 พ่อกับแม่หย่าร้างกัน เขาไปอยู่ในความดูแลของแม่ แต่เพราะแม่ป่วยเรื้อรัง ทำให้เขาต้องตระเวนไปอยู่ตามโรงเรียนประจำหลายแห่ง

เมื่ออายุ 16 ปี ฟาสส์บินเดอร์ลาออกจากโรงเรียนมัธยมฯ ปลาย เดินทางไปอาศัยอยู่กับพ่อที่เมืองโคโลญน์ ช่วงเวลานั้นเขาเริ่มเขียนบทละคร บทกวี เรื่องสั้น และบทหนัง มีโอกาสได้ร่ำเรียนเพิ่มเติมจนค้นพบตัวเองว่าอยากเป็นคนทำหนัง เขาอยากเรียนภาพยนตร์ในมหาวิทยาลัย แต่กลับไม่สมหวัง

หลังจากเรียนการแสดงในสถาบันเอกชนอยู่นานสองปี เขาจึงไปสมัครสอบเป็นนักแสดงในโครงการของรัฐที่มิวนิก แต่ก็สอบไม่ผ่าน ปลายปี 1966 ย่างเข้าปี 1967 ฟาสส์บินเดอร์เริ่มทำหนังสั้นครั้งแรก Der Stadtstreicher ด้วยทุนรอนของตนเองกับเพื่อน จากนั้นเข้าร่วมกลุ่ม Action Theater ในมิวนิก (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น antiteater) 

ไรเนอร์ แวร์เนอร์ ฟาสส์บินเดอร์เป็นหนึ่งในกลุ่มคนทำหนังรุ่นใหม่ยุค 1960s ที่หันหลังให้กับหนังกระแสและหนังตลาด พวกเขามีความคิดว่า หนังเยอรมันควรตอบโจทย์สังคมและศิลปะ คำถามต่างๆ เกี่ยวกับความเป็นไปในสังคม พัฒนาการด้านจิตวิทยา หรือการก้าวผ่านยุคนาซี กลายเป็นประเด็นใหม่สำหรับพวกเขา

หนังยาวเรื่องแรกของฟาสส์บินเดอร์ Liebe ist kälter als der Tod (Love Is Colder Than Death, 1969) และ Katzelmacher จากปีเดียวกัน เกิดขึ้นระหว่างที่เขาอยู่ในกลุ่ม Antiteater ทั้งสองเรื่องนี้เขาผสานการทำละครเข้ากับการทำหนัง จากนั้นฟาสส์บินเดอร์ได้แยกแผนกออกมาทำหนัง ‘ทางเลือก’ ภายใต้ชื่อบริษัท antiteater-X-Film แต่ท้ายที่สุดแล้ว antiteater ประสบภาวะขาดทุน และฟาสส์บินเดอร์รับภาระหนี้สินไว้ทั้งหมดราวสองแสนมาร์ก จากนั้นก็ให้แม่ของเขามารับช่วงกิจการต่อ ส่วนตัวเขาก่อตั้งบริษัทสร้างหนัง Tango-Film ขึ้นใหม่

หนังส่วนใหญ่ที่ฟาสส์บินเดอร์สร้างส่วนใหญ่ผลิตป้อนให้กับสถานีโทรทัศน์ ซึ่งในช่วงหลังสงครามสื่อทีวีมีบทบาทอย่างมากในสังคมชาวเยอรมัน

ในช่วงประสบความสำเร็จ ฟาสส์บินเดอร์มักใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับกลุ่มคนในวงการที่สนิทชิดเชื้อกันเสมือน ‘วงศ์ตระกูล’ ในจำนวนนั้นมีฮันนา ชีกุลลา (Hanna Schygulla) ที่เป็นเหมือนนักแสดงคู่บุญของเขา รวมถึงนักแสดงหรือทีมงานใกล้ชิด และพฤติกรรมโฮโมเซ็กชวลของเขาก็เป็นที่รับรู้กันในกลุ่ม

ระหว่างปี 1970-1972 ฟาสส์บินเดอร์ใช้ชีวิตคู่อยู่กับอิงกริด คาเวน (Ingrid Caven) นักแสดงและนักร้องสาว ขณะเดียวกันเขาก็มีสัมพันธ์รักกับเอล เฮดิ เบน ซาเล็ม (El Hedi ben Salem) หนุ่มลูกครึ่งตูนิเซีย-โมร็อคกัน ที่เขารู้จักในซาวนาที่กรุงปารีส และต่อมากับอาร์มิน ไมแอร์ (Armin Meier) ซึ่งทั้งสองล้วนถูกชักชวนมาเป็นนักแสดงในหนังของเขาทั้งสิ้น

ฟาสส์บินเดอร์ใช้ชีวิตแบบไม่ประนีประนอม ทั้งแอลกอฮอล์ ยาเสพติด และสัมพันธ์รัก เขาเคยถูกตำรวจจับที่ซาวนาในกรุงปารีส เคยอาละวาดชกต่อยกับทีมงานในกองถ่าย แต่ในเวลาทำงานเขาก็ทุ่มเทกับมันอย่างบ้าคลั่ง บางครั้งเขาทำงานติดต่อกันถึงสามวันโดยไม่ได้นอน อย่างเช่นตอนเขียนบทมินิซีรีส์ความยาว 14 ตอนเรื่อง Berlin Alexanderplatz (1980) จนเป็นที่มาของประโยคอมตะจากปากเขา “ผมจะนอนก็ต่อเมื่อผมตายแล้ว”

วันที่ 10 มิถุนายน 1982 ฟาสส์บินเดอร์ถูกพบเป็นศพนอนอยู่ภายในอพาร์ตเมนต์ของเขาในมิวนิก สาเหตุการตายเนื่องมาจากการเสพโคเคนเกินขนาด สันนิษฐานกันว่ายานอนหลับ และการดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักของเขามีส่วนกระตุ้นให้ชีพจรวาย

ผลงานหนังเรื่องสุดท้ายของผู้กำกับฯ ที่เสียชีวิตในวัย 37 ปีคือ Querelle ซึ่งดัดแปลงจากนวนิยายของฌอง เกอเนต์ (Jean Genet)

แม้ว่าจะมีใจทุ่มเทให้กับการทำหนังมาตั้งแต่เริ่มแรก แต่ฟาสส์บินเดอร์ก็ยังสนใจการทำละครควบคู่ไปด้วย ตลอด 13 ปีของการทำงาน เขามีผลงานหนังมากกว่า 40 เรื่อง และละครอีก 17 เรื่อง ซึ่งคนในวงการเอ่ยถึงว่าเพียงพอสำหรับใครที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้ถึง 150 ปี

“ผมทำหนังมาหลายเรื่อง จนชีวิตตัวเองกลายเป็นหนังเสียเอง” เขาเคยกล่าว

ไรเนอร์ แวร์เนอร์ ฟาสส์บินเดอร์ เป็นผู้กำกับฯ ชาวเยอรมันที่ได้ชื่อว่ามีอิทธิพลต่อคนในวงการภาพยนตร์ระดับนานาชาติรุ่นหลัง ไม่ว่าฟรองซัวส์ โอซง (François Ozon) ผู้กำกับฯ ชาวฝรั่งเศส ที่เริ่มงานหนังเรื่องแรกของตนด้วยบทละคร Tropfen auf heiße Steine ของฟาสส์บินเดอร์จากปี 1966 (ดัดแปลงเป็นบทหนังเรื่อง Gouttes d’eau sur pierres brulantes ในปี 2000) หรือบง จุนโฮ (Bong Joon-ho) ผู้กำกับฯ เกาหลีที่เพิ่งประสบความสำเร็จระดับโลกจากผลงานเรื่อง Parasite   

อ้างอิง:

https://www.welt.de/kultur/kino/article13925402/Rainer-Werner-Fassbinder-auf-Strich-und-Drogen.html

https://www.dw.com/de/buchtipp-rainer-werner-fassbinder/a-15997283

https://www.sonntagsblatt.de/artikel/menschen/vor-75-jahren-wurde-filmemacher-rainer-werner-fassbinder-geboren

https://www.rhein-zeitung.de/deutschland-und-welt/kino-news_artikel,-vor-30-jahren-starb-rainer-werner-fassbinder-_arid,436148.html

https://www.stern.de/kultur/rainer-werner-fassbinder-waere-heute-70–verletzlich-und-raubtierhaft-6190348.html

Jürgen Trimborn, Ein Tag ist ein Jahr ist ein Leben, Porpyläen Berlin (2012)

Tags: