คนที่ได้ชื่อว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องคือบุคคลที่ก่อเหตุฆาตกรรม โดยมีเหยื่อตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป พวกเขาส่วนใหญ่มักปิดบังตัวตนได้ดี รูปลักษณ์ภายนอกไม่ต่างจากคนทั่วไป มิหนำซ้ำบางคนกลับมีเสน่ห์อย่างน่าหลงใหล แล้วเมื่อถึงคราวก่อเหตุ พวกเขาก็มักทำทุกอย่างอย่างมีระเบียบแบบแผน มีความคิดอย่างเป็นระบบ และมีความใจเย็นแม้อยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย มันยากยิ่งนักที่เราจะรู้ได้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ 

นักอาชญาวิทยากล่าวว่าอาจมีฆาตกรต่อเนื่องตลอดมาในประวัติศาสตร์ แต่บางกรณีก็ไม่ได้ถูกบันทึกไว้อย่างเพียงพอ แหล่งข้อมูลบางแห่งบอกว่าบางตำนาน เช่น มนุษย์หมาป่าและแวมไพร์ ก็อาจได้รับแรงบันดาลใจมาจากฆาตกรต่อเนื่องในยุคกลางเช่นกัน

หลายครั้งหลายหนที่พวกเขาสร้างความสะพรึงกลัวในสังคม การลงมือซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้ทุกคนต่างหวาดผวา และบ่อยครั้งเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องก็ถูกนำมาเล่าใหม่ผ่านภาพยนตร์หรือซีรีส์ อย่างเช่นซีรีส์เหล่านี้ที่ทำได้ดีจนคอซีรีส์สืบสวนสอบสวนไม่ควรพลาด

Dexter (2006-2013)

ซีรีส์อาชญากรรมที่ออกอากาศทั้งหมด 8 ซีซั่น โดยซีซั่นแรกนั้นมีเค้าโครงมาจากนวนิยายเรื่อง Darkly Dreaming Dexter ผลงานของเจฟฟ์ ลินด์เซย์ แต่ในซีซั่นต่อมาบทจะพัฒนาโดยเป็นอิสระจากหนังสือ

เด็กซ์เตอร์ในซีรีส์และนวนิยายมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ในซีรีส์ชื่อแรกของเขาคือเจมส์ และเขาเคยทำงานในหน่วยลาดตระเวนพิเศษกับกองทัพบกก่อนที่จะมาเป็นตำรวจไมอามี่ ส่วนในนวนิยายชื่อแรกของเขาคืออัลเบิร์ต และเขาทำงานในหน่วยนาวิกโยธิน ไม่ใช่กองทัพบก 

ในวัยเด็กของเด็กซ์เตอร์ เขาต้องประสบกับโชคร้ายที่เจ็บปวดเกินกว่าจะคาดเดา เมื่ออายุสามขวบแม่ของเขาถูกฆ่าอย่างไร้ความปรานีโดยเจ้าพ่อค้ายาเสพติด เด็กซ์เตอร์จึงกลายมาเป็นลูกบุญธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจแฮร์รี่ มอร์แกน แฮร์รี่สอนทุกอย่างให้กับเด็กซ์เตอร์ ไม่ว่าจะเรื่องในชีวิตหรือเรื่องในหน้าที่การงานของเขา จนเมื่อเด็กซ์เตอร์เติบโต ชายหนุ่มคนนี้ก็เลือกที่จะทำงานใกล้ชิดกับตำรวจ ด้วยอาชีพนักวิเคราะห์คราบเลือด

แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องลึกแล้วเด็กซ์เตอร์ทำอะไรบ้าง ภายใต้หน้ากากของความเป็นสุภาพบุรุษนั้นกลับซุกซ่อนใบหน้าฆาตกรเลือดเย็นไว้ เขาตั้งตนเป็นศาลเตี้ยและพิพากษาคนเลวทั้งหลายด้วยความตาย แต่เหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้นในไมอามี่เป็นฝีมือของเขาจริงหรือเปล่า แล้วถ้าใช่ ทำไมเขาถึงลงมือทำ เขาจะโดนจับได้ไหม จะมีใครระแคะระคายหรือเปล่า จะเป็นไปได้หรือที่ฆาตกรต่อเนื่องจะหลุดรอดเงื้อมมือตำรวจไปได้ เด็กซ์เตอร์จะเป็นผู้สารภาพทุกอย่างแก่คุณเอง

ชื่อของเด็กซ์เตอร์ มอร์แกนและเดบราห์ มอร์แกน (น้องสาวบุญธรรม ประกอบอาชีพตำรวจ) อ้างอิงไปถึงกฎเดอร์มอร์แกน (De Morgan’s laws) ซึ่งเป็นกฎในวิชาตรรกศาสตร์ มันใช้อธิบายความคิดของพวกเขาที่มีต่อกัน นั่นคือ เด็กซ์เตอร์และเดบราห์ไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากอีกฝ่าย โดยตัวละครทั้งสองต่างแสดงออกอยู่ตลอดว่าเป็นเช่นนั้น

Hannibal (2013-2015)

ฮันนิบาล ซีรีส์ที่มีพื้นฐานตัวละครและองค์ประกอบมาจากนวนิยายแนวอาชญากรรมของโทมัส แฮร์ริส นักเขียนผู้สร้างชื่อให้กับฮันนิบาล เล็กเตอร์ โดยเนื้อเรื่องจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างฮันนิบาลกับวิล เกรแฮม เจ้าหน้าที่พิเศษ FBI

เกร็ดเล็กๆ ที่น่าประทับใจของซีรีส์นี้คือ ชื่อตอนในซีรีส์จะมีความเกี่ยวข้องกับศิลปะอาหารของหลากหลายชาติพันธุ์ อาทิ ซีซั่นแรกใช้ชื่อภาษาฝรั่งเศส ตอนที่หนึ่งชื่อ Apéritif ซึ่งเป็นค็อกเทลพิเศษที่ดื่มทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร ตอนที่สี่ชื่อ Oeuf ซึ่งแปลว่าไข่ หรือซีซั่นสอง ตอนที่หนึ่งเริ่มด้วย Kaiseki ชุดอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมที่จะยกมาเสิร์ฟตามลำดับ ส่วนตอนที่ 2-13 จะเป็นชื่อลำดับอาหารของคอร์ส Kaiseki

การตามล่าฆาตกรเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่บ่อยครั้งการทำงานก็ต้องพึ่งพาความสามารถของผู้เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ วิล เกรแฮม เป็นอาจารย์สอนภาคทฤษฎีให้กับเจ้าหน้าที่ เขาจะคิด วิเคราะห์ และแยกแยะคดีต่างๆ จนพาทุกคนไปสู่คำตอบ และนอกเหนือไปจากการสอน วิลได้รับเลือกจากแจ็ค ครอว์ฟอร์ด ให้เข้าไปช่วยสืบบางคดีด้วย โดยเงื่อนไขคือเขาจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของจิตแพทย์ เพื่อไม่ให้การเข้าไปในจินตนาการของฆาตกรย้อนกลับมาทำร้ายเขา

จิตแพทย์ที่ดูแลและทำงานร่วมกับวิล ได้แก่ ดร.ฮันนิบาล เล็กเตอร์ ผู้ที่ฉาบไปด้วยความเงียบขรึม และได้รับการยกย่องจากทุกคน แต่แท้จริงแล้วเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ไล่เชือดมนุษย์แล้วลิ้มรสพวกเขาด้วยการนำมาปรุงอาหาร แล้วเป้าหมายในชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อเจอวิล ซึ่งเจตนาของเขาคืออะไรนั้นเป็นสิ่งที่คุณจะต้องไปหาเอง

The Fall (2013-2016)

ซีรีส์เรื่องนี้นำแสดงโดยกิลเลียน แอนเดอร์สัน ผู้ที่หลายคนจดจำเธอได้จากซีรีส์ระทึกขวัญ The X-Files และเจมี่ ดอร์แนน หนุ่มหล่อที่รับบทคริสเตียน เกรย์ ใน Fifty Shades of Grey โดยเจมี่ได้บอกว่าเขาดู Dexter อยู่นานมากเพื่อเตรียมตัวสำหรับบทบาทนี้

ชื่อตอนทั้งหมดของซีรีส์หยิบมาจากบทกวีมหากาพย์ Paradise lost ของจอห์น มิลตัน ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับตำนานความเชื่อในคริสตศาสนา และตัวละครหลายตัวตั้งชื่อตามกีตาร์หรือสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโลกของกีต้าร์ เช่น สมิธ จาก Paul Reed Smith, เบเนเดตโต จากบริษัทกีต้าร์แจ๊ส, สเตลลา กิบสัน ก็เป็นชื่อกีต้าร์จริงๆ และพอล สเปคเตอร์ ก็ตั้งตามกีต้าร์สองประเภท คือกีต้าร์เบส และกีต้าร์ทรง Les Paul

สเตลลา กิบสัน ผู้กำกับการตำรวจนครบาล เธอได้รับมอบหมายให้มาตรวจสอบการสืบสวนสอบสวนของตำรวจทางตอนเหนือของไอร์แลนด์ เนื่องจากมีเหตุร้ายเกิดขึ้นที่นี่ และคดีก็ยังไม่สามารถปิดได้ นั่นคือการปรากฎตัวของฆาตกรต่อเนื่อง พอล สเปคเตอร์ ผู้ที่กำลังเป็นภัยคุกคามเมืองเบลฟาสต์  เขาสังหารหญิงสาวมาแล้วหลายราย แต่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ศพ ตำรวจก็ยังเข้าไม่ถึงตัวเขาเสียที

พอล สเปคเตอร์ เป็นชายหนุ่มที่เมื่อมองจากภายนอกแล้วช่างฉลาดและใจดี เขามีภรรยาและลูกสาวสองคน แต่ขณะเดียวกันภายในของเขาก็คุกรุ่นไปด้วยความเลือดเย็น เขาซ่อนหลักฐานต่างๆ ไว้อย่างมิดชิดในบ้าน และลงมือก่อเหตุอย่างไม่ลดละ แล้วความพยายามของกิบสันก็ดูจะสำเร็จผลขึ้นมาบ้าง เมื่อการสืบสวนนั้นเข้าใกล้พอลขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเพียงน้อยนิด แต่เธอก็หวังว่าเหยื่อเคราะห์ร้ายจะไม่เพิ่มมากขึ้นหลังจากนี้

Mindhunter (2017 – present)

Mindhunter ดัดแปลงมาจากหนังสือ Mind Hunter: Inside FBI’s Elite Serial Crime Unit ของมาร์ค โอลเชคเกอร์ และ จอห์น อี. ดักลาส หนังสือที่จะพาเราไปเจาะเบื้องหลังของคดีที่น่าสยดสยอง และการศึกษาพฤติกรรมของฆาตกรที่จะส่งผลให้การทำงานสืบสวนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เดวิด ฟินเชอร์ ผู้รับหน้าที่กำกับและควบคุมการผลิตเคยนำซีรีส์นี้ไปเสนอกับ HBO ในปี 2013 เขาจำได้ว่าพวกเขาไม่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับชายสองคนในชุดสูทที่ไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่อง แต่ในปีต่อมา True Detective ซึ่งเป็นซีรีส์แนวดราม่าอาชญากรรมก็ออกฉายทาง HBO

เรื่องราวการทำงานของสองเอฟบีไอ โฮลเดน ฟอร์ด และ บิล เทนช์ พวกเขาทำงานอยู่ในหน่วยพฤติกรรมศาสตร์ ซึ่งมีหน้าที่สัมภาษณ์นักโทษที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ นักโทษพวกนี้ไม่ใช่ใครก็ได้ แต่เป็นฆาตกรโรคจิตและโดยส่วนใหญ่เป็นฆาตกรต่อเนื่อง ทั้งโฮลเดนและบิลพยายามรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อนำสิ่งที่ได้มาต่อยอดและวางรากฐานในการวิเคราะห์แต่ละคดีที่เกิดขึ้น รวมถึงคาดการณ์เป้าหมายต่อไปของฆาตกรได้ โดยมี ดร.คาร์ นักจิตวิทยาคอยให้คำปรึกษา

ซีซั่นแรกจะเน้นหนักไปที่ทฤษฎีมากกว่าปฏิบัติ ไม่ว่าจะการสัมภาษณ์หรือวิเคราะห์ข้อมูล สิ่งใดที่ฆาตกรคิด สิ่งใดที่ฆาตกรทำ และสิ่งใดที่ทำให้เขาตัดสินใจลงมืออย่างอำมหิต ตัวละครที่โดดเด่นที่สุดในซีซั่นนี้จะเป็นโฮลเดน ผู้ที่ต้องการล้วงลึกเข้าไปในจิตใจของฆาตกร จนตัวเองได้รับผลกระทบบางอย่าง ส่วนซีซั่นสอง เราจะเห็นการทำงานในเชิงปฏิบัติมากขึ้น นัยน์หนึ่งก็เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าสิ่งที่ทำมาตลอดนั้นมีประโยชน์และนำไปสู่การจับคนร้ายได้จริง ที่มากไปกว่านั้นเรายังจะได้เห็นชีวิตส่วนตัวของบิล และ ดร.คาร์ มากกว่าที่ผ่านมาด้วย แต่ถึงอย่างไรการประจันหน้ากับฆาตกรก็ยังเป็นจุดที่ดึงดูดผู้ชมไว้ได้เป็นอย่างดี บทสนทนาที่น่าสนใจนั้นจะตรึงเราไว้ไม่ให้ละสายตาไปได้แม้แต่วินาทีเดียว

Conversations with a Killer: The Ted Bundy Tapes (2019)

สารคดีเรื่องนี้ออกฉายทางเน็ตฟลิกซ์ในวันที่ 24 มกราคมปีที่แล้ว ในวันครบรอบ 30 ปีการประหารชีวิต เท็ด บันดี จากคดีฆาตกรรมหญิงสาวไม่ต่ำกว่า 30 ราย แต่ว่ากันว่าจำนวนเหยื่ออาจสูงถึง 100 ราย หากแต่ไม่มีหลักฐานใดมายืนยัน

เท็ด บันดี เป็นชายหนุ่มเรียนดีมีการศึกษา แต่กลับล้มเหลวในเรื่องความสัมพันธ์ นั่นเองอาจเป็นบ่อกำเนิดของความแค้นและความเกลียดชัง เท็ดเริ่มลงมือก่อเหตุตั้งแต่ปี 1974-1978 เหยื่อทั้งหมดเป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 18-22 ปี ทั้งถูกกระทำชำเรา ทุบตี บีบคอ และความรุนแรงที่มากขึ้นเรื่อยๆ

Conversations with a Killer: The Ted Bundy Tapes เป็นสารคดีที่แบ่งออกเป็น 4 ตอน เปิดเผยเทปบันทึกบทสนทนาและการสัมภาษณ์เท็ด บันดี ในตอนที่ถูกจับกุมแล้ว ร่องรอยชีวิตของเขาตั้งแต่ก่อนการถูกจับกุม การหลบหนี และการพิพากษาชีวิตอย่างละเอียด ไม่มีใครรู้ว่าภายใต้ใบหน้าอันหล่อเหลานี้จะเป็นฆาตกร หลายครั้งที่ถูกจับดำเนินคดี เขาก็ได้ใช้ความสามารถด้านกฎหมายที่เรียนมาว่าความให้กับตัวเอง และรอดพ้นจากความผิดทุกครั้ง แต่ท้ายที่สุดเมื่อจำนนต่อหลักฐาน เขาก็ไม่สามารถดิ้นหลุดข้อหาไปได้อีกต่อไป เท็ดให้การสารภาพว่าลงมือฆ่าเหยื่อไปทั้งหมด 30 ราย พร้อมกับเล่ารายละเอียดในการลงมืออย่างไม่สะทกสะท้าน เขาถูกตัดสินประหารชีวิต และถูกประหารชีวิตด้วยเก้าอี้ไฟฟ้าในวันที่ 24 มกราคม 1989 ฝันร้ายของหญิงสาวปิดฉากลง แต่นั่นก็เป็นเพียงหนึ่งในฝันร้ายของหลายๆ ฝันเท่านั้น…

Tags: , ,