หากถามว่า ‘บ้าน’ สำหรับคุณคืออะไร

ส่วนใหญ่คำตอบที่ได้คงหนีไม่พ้นเรื่องของสถานที่ บรรยากาศ หรือความรู้สึก

แต่คำว่าบ้านสำหรับ EXO-L มีความหมายเรียบง่าย ซ้ำฟังดูอาจเป็นเรื่องธรรมดา อย่างการได้อยู่ ‘พร้อมหน้าพร้อมตา’ กับ EXO ทั้ง 9 คน หรือสมาชิกคนใดคนหนึ่งก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นที่แห่งหนไหน ทั้งในโลกออนไลน์ แฟนมีตติง และคอนเสิร์ตก็ตาม

เพราะการรอคอยเป็นเรื่องยากเสมอ โดยเฉพาะ ‘คอนเสิร์ตครั้งที่ 6’ (หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า คอนฯ 6) ของ EXO หลังสมาชิกทั้งหมดเปิดเผยว่า ยังไม่มีแผนการจัดคอนเสิร์ตภายในปีนี้ จนกว่า ไค (Kai) และเซฮุน (Sehun) สองน้องเล็กของวง จะออกจากกรมรับใช้ชาติในปี 2025

ทว่าในระหว่างนี้ สมาชิกทั้ง 9 คนไม่ได้จากหายไปไหน และเดินหน้าทำตามความฝันของแต่ละคนผ่านกิจกรรมเดี่ยว ไม่ว่าจะเป็นอัลบั้ม คอนเสิร์ต และแฟนมีตติงที่ปล่อยออกมาทุกสารทิศ จนมีคำกล่าวเชิงหยอกเล่นในหมู่แฟนด้อมว่า ‘ขอคอนฯ 6 แต่กลับได้ 6 คอนฯ’ 

เช่นเดียวกับ ซูโฮ (Suho) หรือคิม จุนมยอน (Kim Jun-myeon) ลีดเดอร์ของ EXO ที่ขอสวมหมวกอีกใบในฐานะ ‘ศิลปินเดี่ยว’ และจัดคอนเสิร์ตของตัวเองครั้งแรกในชีวิตอย่าง 2024 SUHO CONCERT <SU:HOME> โดยมีประเทศไทยเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ จนเกิดเป็นงานในวันที่ 20 กรกฎาคม 2024 ที่พารากอน ฮอลล์

“แม้ว่าจะมี EXO-L เพียง 1 คนที่ถือแท่งไฟ เรียกชื่อของผมหรือ EXO นั่นคือเหตุผลที่ผมจะยังคงร้องเพลงต่อไป” 

ข้างต้นคือคำพูดของชายผู้เป็นดัง ‘ศูนย์รวมจิตใจ’ และ ‘หัวหน้าครอบครัว’ สำหรับสมาชิก EXO อีก 8 คน รวมถึงแฟนด้อมตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา ซึ่งยิ่งตอกย้ำธีมหลักของคอนเสิร์ตครั้งนี้ว่า 

‘บ้านไม่ใช่สถานที่ แต่หมายถึงผู้คน’

ภาพ: SM True

2024 <SU:HOME> in Bangkok: คอนเสิร์ตของซูโฮที่ ‘อบอุ่น’ และ ‘สุขใจ’ เหมือนอยู่ในบ้าน

บ้านของ ‘ซูโฮ’ และ ‘EXO-L’

นี่คือธีมหลักดังกล่าวในคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของลีดเดอร์แห่ง EXO โดยก่อนหน้านี้ ซูโฮให้สัมภาษณ์กับนิตยสารไนลอน (NYLON) ฟิลิปปินส์ว่า นอกจากคำว่า SU:HOME มาจากคำศัพท์ 2 คำ คือ SUHO และ ME (ฉัน) โดยมีนัยสำคัญว่า นี่คือพื้นที่ที่ตนสามารถแสดงความเป็นตัวเองได้มากที่สุด ซึ่งเขาได้มีส่วนร่วมในเบื้องหลังคือ การกำกับและคิดค้นคอนเซปต์สุดสร้างสรรค์บนเวที

ทว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังเป็นมากกว่าการแสดง แต่เปรียบเสมือน ‘สถานที่’ สำหรับซูโฮและ EXO-L ที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เป็นดังบ้านที่ทุกคนได้แบ่งปันประสบการณ์ความรู้สึก และความทรงจำ ดังที่เขาเคยพูดในคอนเสิร์ตที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ว่า “หากคำว่าตลอดไปมีจริง ผมคิดว่า มันเป็นเรื่องของพวกเรา”

นับว่าองค์ประกอบข้างต้นถ่ายทอดออกมาในคอนเสิร์ตครั้งนี้อย่างชัดแจ้ง เริ่มตั้งแต่บรรยากาศที่แตกต่างไม่เหมือนกับการแสดงทั่วไป แต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นหัวใจ สงบ และผ่อนคลาย เหมือนมานั่งบ้านของเพื่อนคนหนึ่งที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

ขณะที่สีสันของฉากที่เปลี่ยนไปตลอดการแสดง ได้แก่ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น สวนดอกไม้ หรือแม้แต่ฉากหลังของกลางคืนในยามที่ฝนพรำ ยังไม่รวมถึง แสง สี เสียง ที่ ‘จัดเต็ม’ และมีลายเซ็น ‘ความเป็นซูโฮ’ อยู่ชัดเจน โดยเฉพาะสุนทรียะ (Aesthetic) เหมือนกับการคุมโทนบนอินสตาแกรมของเขา ทำให้ผู้เขียนในฐานะ EXO-L อ้าปากค้างถึงความคิดสร้างสรรค์ครั้งนี้

ภาพ: SM True

นอกจากนี้ ข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ แม้ผลงานของเมมเบอร์เอ็กโซแต่ละคน จะใส่ความเป็นตัวเองสูงมากอย่างไม่ซ้ำกัน แต่สตอรีไลน์ที่ขาดไม่ได้ คือ ‘พลังวิเศษ’ และเรื่องราว ‘ชายหนุ่มผู้มาจากนอกโลก’ ซึ่งนับเป็นแก่นแท้ความเป็น EXO ตั้งแต่เริ่มแรก 

เรื่องราวข้างต้นเห็นได้จากโปสเตอร์หลักและ VCR ของคอนเสิร์ต ปรากฏรูปดาวเคราะห์ และห้วงอวกาศอันเคว้งคว้าง ทั้งยังมีเรื่องราวในแต่ละเพลงเชื่อมโยงกับอัลบั้มล่าสุดอย่าง 1 To 3 ซึ่งตรงกับที่ ซูโฮ เคยให้สัมภาษณ์กับ Vogue ไว้ว่า อัลบั้มชุดที่ 3 ของเขา คือธีม Me in the Universe และเขาได้รับแรงบันดาลใจจาก The Moon (2023) ภาพยนตร์ของน้องชายสุดที่รักอย่าง โด คยองซู (Do Kyungsoo) หรือ ดีโอ (D.O.) ร่วมแสดง

ปิดท้ายลูกเล่นน่ารักที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะแฟนด้อมไปแล้ว นั่นก็คือ ‘เดรสโค้ด’ โดยลีดเดอร์แห่ง EXO เน้นย้ำกับทุกคนว่า อยากให้ EXO-L แต่งตัวเป็น ‘เจ้าหญิง’ สวมมงกุฎ ถุงมือ และคทา ขณะที่สีประจำคอนเสิร์ตของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ คือ ‘สีม่วง’ ซึ่งก็ได้เห็นว่า แต่ละคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และปฏิบัติตามคำสั่งของ ‘ตำรวจด้อม’ อย่างเคร่งครัด จนเหมือนออกมาจากโรงเรียนเจ้าหญิงบริหารเสน่ห์ (ฮา)

ภาพ: SM True

เปิดฉาก SU:HOME ในประเทศไทย: คอนเสิร์ตที่ครบเครื่องทุกรสชาติ

ซูโฮเปิดปฐมบท SU:HOME ในประเทศไทย ด้วยเพลง Mayday จากอัลบั้ม 1 To 3 พร้อมกับฉากห้องนอนที่รายล้อมด้วยข้าวของเครื่องใช้ และดอกไม้สีม่วง (ที่สวยและใส่ใจในทุกรายละเอียด) ตามมาด้วยเพลง Morning Star ซึ่งเปรียบเสมือนการปลุกให้ตื่นจากห้วงความฝันในเพลงแรก ก่อนที่ฉากจะเปลี่ยนไปเป็นสีเทาในเพลง Grey Suit เหมือนดังชื่อเพลง และปิดท้ายช่วงแรกด้วยเพลง Self-Portrait ในอัลบั้มชุดแรก ที่เต็มไปด้วยห้วงอารมณ์โหยหาอีกฝ่ายในความทรงจำ

ภาพ: SM True

คั่นการแสดงด้วยการพูดคุยระหว่างลีดเดอร์แห่ง EXO กับ EXO-L ซูโฮแนะนำตัวเองในฐานะ ‘พี่จุน’ ก่อนจะโดนโจมตีด้วย ‘เสียงกรี๊ด’ ของเหล่าเอลี่ไทยที่ไม่แพ้ใครในโลก เหมือนดังที่น้องชายตัวแสบร่วมวงอย่าง แบคฮยอน (Baekhyun) ประสบมาด้วยตัวเองแล้วในคอนเสิร์ต Lonsdaleite มาแล้ว จนทำให้ซูโฮถึงกับเปลี่ยนใจ และยกนิ้วให้ไทยเป็นมือวางอันดับหนึ่งเรื่องบรรยากาศและเสียงกรี๊ดอันครึกครื้น

กลับไปสู่การแสดงในช่วงที่ 2 เริ่มด้วยเพลง Zero Gravity ในอัลบั้มชุดล่าสุดที่มีความหมายถึงการกลับมาพบกันอีกครั้งระหว่าง EXO กับ EXO-L ก่อนจะเข้าสู่โหมด ‘พี่จุนขาร็อก’ ลายเซ็นอันเป็นเอกลักษณ์ในโซโล่เดี่ยวของซูโฮ เริ่มจาก Cheese เพลงสุดน่ารักในอัลบั้มล่าสุดที่ได้ เวนดี้ (Wendy) เมนโวคอลมากความสามารถจาก Red Velvet ที่ร่วมสร้างสีสัน ต่อด้วย 1 To 3 เพลงไตเติลแนวบริทิช-ร็อก ที่ถ่ายทอดตัวตนของเขาในวัยสามสิบ และ Hurdle กับ ‘การวิ่ง’ ที่ทุกคนรอคอย จากเวทีหลักไปสู่เวทีรองอย่างไม่มีแรงตก 

ภาพ: SM True

ในระหว่างพักการแสดง ซูโฮพูดคุยกับแฟนๆ โดยกล่าวชื่นชมพลังของทุกคนว่า ‘สุดยอด’ ทว่า EXO-L ชาวไทย ก็สอนคำศัพท์ใหม่ให้กับพี่จุน ด้วยการตะโกนว่า ‘เยี่ยมจริงๆ’ ซึ่งเป็นประโยคที่ EXO-SC คู่หูสุดฮิปของพี่น้องสองศรีจาก EXO อย่าง ชานยอล (Chanyeol) และเซฮุน (Sehun) พูดติดปากในแฟนมีตติงปี 2023 ของประเทศไทยครั้งที่ผ่านมา ก่อนลีดเดอร์คนเก่งจะปิดท้ายการพูดภาษาไทยอย่างน่ารักน่าเอ็นดูว่า ‘ผมรักคุณครับ’

ช่วงที่ 3 ของการแสดงเปิดด้วยเพลง Curtain พร้อมด้วยรายละเอียดอย่าง ‘จอรูปม่านสีขาวดำ’ เหมือนกับชื่อและโทนของเพลง ตามมาด้วยเพลง Starry Night ที่เรียกเสียงฮือฮาด้วยการขึ้นไปใช้ ‘บันได’ บนชั้นที่ 2 ของเวที ก่อนจะถ่ายทอดห้วงอารมณ์สุดลึกซึ้งอย่างต่อเนื่องในเพลง Wishful Thinking และ Moonlight

ในช่วงท้ายของการพูดคุยก่อนจะเริ่มช่วงที่ 4 ของคอนเสิร์ต พี่จุนของทุกคนเดินไปหยิบแก้วและเท ‘น้ำองุ่น’ ซึ่งขอย้ำว่า นี่ไม่ใช่แอลกอฮอล์อย่างที่ใครคิด (เพราะดื่มไม่ได้บนเวที ฮา) หลังจากนั้น จึงเริ่มทำการแสดงโซโล่กีตาร์ในเพลง Decanting ซึ่งเรารู้สึกประทับใจมากกับความสามารถของเขา เพราะในปี 2022 ลีดเดอร์ของ EXO เคยเล่าว่า เขาอยากจะฝึกเล่นกีตาร์ตั้งแต่ก่อนเดบิวต์มาตลอด จนมีโอกาสลงมือทำจริงๆ ในช่วงรับใช้ชาติที่ผ่านมา

การแสดงช่วงที่ 4 ผ่านไปด้วย 2 เพลง คือ Bear Hug และ For You Now จนมาถึงช่วงที่ 5 ที่หลายคนรอคอย คือการหยิบเพลงฮิตของ EXO มาร้องถึง 4 เพลงด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ The First Snow เพลงในอัลบั้มฤดูหนาว Miracles in December จากปี 2013 แต่กลับมาติดชาร์ตอันดับ 1 ในสิ้นปี 2023 ซึ่งตอกย้ำความเป็น ‘ราชาแห่งอัลบั้มฤดูหนาว’ และ ‘คุณภาพระดับแรงก์ S’ ของ EXO ที่ไม่เคยจางหายตามกาลเวลา 

ในระหว่างนั้น ซูโฮร้องไห้ในการแสดง เพราะ EXO-L ชาวไทยส่งเสียงโชว์พลังอย่างแรงกล้า ทำให้เขาหวนระลึกถึงความทรงจำในคอนเสิร์ต EXO PLANET #2 – The EXO’luXion – in BANGKOK ที่ประเทศไทย เมื่อสมาชิกเคยหยอกล้อกันสนุกสนานอย่างไร้ความกังวลบนเวทีร่วมกับแฟนด้อม 

เสียงกระหึ่มก้องของแฟนคลับชาวไทยทวีคูณตามความร้อนแรงของเพลง คือ Growl เพลงชาติของแฟนด้อม ตามด้วย Overdose และ Monster ในฐานะแฟนชานต์ในตำนานที่ฝังลึกใน DNA ของ EXO-L จนทำให้ใครหลายคนโบกสะบัดเอลี่บงอย่างเมามัน นับเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ทุกคนพร้อมแล้วกับคอนเสิร์ตครั้งที่ 6 ของ EXO (แล้ว EXO พร้อมไหม?) ขณะที่เพลงสุดท้ายของช่วงที่ 5 ของการแสดง คือ Alright Alright พี่จุนปรากฏตัวด้วยชุด ‘กระต่าย’ สุดน่ารักที่ใส่เป็นครั้งแรกของทัวร์คอนเสิร์ต พร้อมทั้งวิ่งลงมาทักทายทุกคนทั่วสารทิศ 

ภาพ: SM True

ซูโฮส่งท้ายบทสรุปของ SU:HOME ด้วยเพลง O2, Let’s Love, Moment และ Made in You โดยมีเอลี่ชาวไทยร่วมแสดงพลังเสียงในอังกอร์ Let’s Love ระหว่างนั้น ซึ่งก็ได้รับคำชมจากลีดเดอร์แห่ง EXO แม้จะมีเสียงขำขันจากรอบตัวถึงเสียงเพลงที่ขาดหายไปบางช่วง

ก่อนจากกัน พี่จุนของทุกคนแนะนำทีมงาน, สมาชิก Suho Band และแขกสุดพิเศษอย่าง มิว-ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ ที่เคยร่วมงานกันในเพลง Turn Off The Alarm รวมถึงทิ้งท้ายการบอกลา EXO-L ชาวไทยตามธรรมเนียม ด้วยการตะโกนคำว่า ‘We Are One, EXO 사랑하자’ พร้อมสัญญาว่า เราจะพบกันใหม่อีกครั้งในคอนเสิร์ตครั้งถัดไป

SU:HOME Project in BKK: โปรเจกต์สุดพิเศษจาก ‘EXO-L ชาวไทย’ ถึง ‘ซูโฮ’ 

เหมือนกับทุกการมาเยือนของ EXO ในประเทศไทย ไฮไลต์สำคัญในคอนเสิร์ต SU:HOME ครั้งนี้ คือ โปรเจกต์ตระการตาที่เกิดขึ้นจากพลังของ EXO-L ชาวไทย ซึ่งนำโดยบ้านแฟนเบสของซูโฮ @SuhoGuardianTH 

โปรเจกต์ดังกล่าวมีทั้งหมด 8 จุดตลอดการแสดงครั้งนี้ของซูโฮ แม้อาจจะดูมากมายในสายตาใครหลายคน แต่สำหรับเอลี่ไทยที่ผ่านร้อนผ่านหนาวกับคอนเสิร์ต EXO ถึง 5 ครั้ง (ยังไม่รวมกับคอนเสิร์ตเดี่ยว หรือแฟนมีตติงของสมาชิกคนอื่น) ประกอบกับสายเลือดนักสู้ของทุกคนจากกิจกรรม ‘กีฬาสี’ ในวัยเด็ก อาจบอกได้ว่า การทำโปรเจกต์เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก หากเทียบกับความตั้งใจของทุกคนที่ต้องการให้สมาชิก EXO ได้รับเสียงเชียร์ และกำลังใจล้นหลามจากแฟนชาวไทย

เริ่มจากโปรเจกต์ที่ 1 คือ ‘ปลอกแท่งไฟ’ รูปกระต่ายสุดสร้างสรรค์ อันเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของซูโฮ โดยทุกคนต้องชูด้านนี้ไปตลอดทั้งคอนเสิร์ต ขณะที่โปรเจกต์ที่ 2 คือการหันปลอกแท่งไฟด้านหลังที่เป็นรูปดวงดาวสีเหลืองในเพลง Moonlight 

ตามมาด้วยโปรเจกต์ที่ 3 คือ ‘แท่งไฟเรืองแสง’ หลากสี ที่ใช้ในช่วงเพลง Cheese, 1 to 3 และ Hurdle ยิ่งทำให้คลื่นทะเลสีคอสมิกลาเต้ (Comic Latte) จากเอลี่บงดูสวยงามยิ่งขึ้น เมื่อสลับกับสีแท่งไฟหลากหลาย ทั้งเหลือง น้ำเงิน เขียว และแดง 

เท่านั้นไม่พอ เพราะโปรเจกต์ที่ 4 และ 5 เอลี่ชาวไทยยังมีโอกาสร้องเพลง For You Now คู่กับซูโฮ และ Let’s Love ในช่วงอังกอร์ ซึ่งก็ได้รับคำชมจากลีดเดอร์ของ EXO และผ่านไปด้วยดี ขณะเดียวกัน โปรเจกต์ที่ 6 และ 7 คือ การชูแบนเนอร์สีชมพูที่เขียนว่า 사랑하자 영원하자 Let’s Love (มารักกันเถอะ ตลอดไป) และแบนเนอร์สีฟ้าด้วยข้อความ 12 년 동안 그라고 엎으로도 태국 엑소엘들이 결에 영원히 있을께 (ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา และอนาคตต่อจากนี้ EXO-L ชาวไทยจะอยู่ข้างซูโฮตลอดไป)

ภาพ: SM True

และโปรเจกต์ที่ขาดไม่ได้ คือ การแปรอักษรด้วยกล่องไฟในภาษาเกาหลี ที่สามารถแปลในภาษาไทยว่า ‘ประเทศไทยรักพี่จุน’ จากโซน L1-L4 เหมือนครั้งที่ผ่านมา ซึ่งก็สร้างความประทับใจให้กับซูโฮมาก จนถึงขั้น ‘ถ่ายรูป’ เก็บไว้เหมือนกับหนุ่ม EXO-SC ทั้งยังกล่าวชื่นชมไม่หยุด และโพสต์ภาพดังกล่าวลงในไอจีสตอรี ทำให้ EXO-L ชาวไทยถึงกลับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จนในชาวโซเชียลฯ บางส่วนประกาศว่า แอ๋วไทยชนะแล้ว

ภาพ: SM True

นอกจากนี้ บ้านแฟนเบส Suho Guardian Thailand ยังมีการส่งของขวัญและอาหารซัพพอร์ตอย่างจัดเต็ม เช่น ช่อดอกไม้สีฟ้า-ขาวที่มีรูปกระต่ายประดับ จดหมาย ไดอารี เสื้อผ้า นวมต่อยมวย สมกับความปรารถนาของแฟนด้อมที่ต้องการมอบสิ่งดีๆ ให้กับสมาชิก EXO เรื่อยมา (ดูเพิ่มเติมได้ทาง https://x.com/SuhoGuardianTH/status/1815643013932351837)

แม้จะมีข้อบกพร่องอยู่ไม่น้อยในคอนเสิร์ต เช่นการแปลจากล่ามที่ขาดหายไปบางช่วง ทว่าปฏิเสธไม่ได้ว่า SU:HOME ยังเป็นคอนเสิร์ตที่สมบูรณ์แบบ และเผยให้เห็นด้านใหม่ของซูโฮในฐานะศิลปินเดี่ยว ผู้มีศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์แถวหน้าของอุตสาหกรรมบันเทิง K-Pop 

ขณะที่เวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที ยังเปรียบเสมือนการเติมพลังใจให้ชีวิตสำหรับ EXO-L เพื่อรอคอยการกลับมาของ EXO วงที่เหมือนกับ ‘บ้าน’ อันแสนอบอุ่นและคุ้นเคย โดยมีผู้ชายที่ชื่อว่า ซูโฮ เป็นดัง ‘หัวหน้าครอบครัว’ และ ‘เสาหลัก’ ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา 

อ้างอิง

https://x.com/cottoncloud0522/status/1786115543453311474

https://nylonmanila.com/exo-suho-right-at-home-interview/

https://x.com/SuhoGuardianTH/status/1815643013932351837

Tags: , , , , , , , , , , , ,