งานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 28 มีนาคมนี้ (ตามเวลาบ้านเรา) มีเรื่องชวนหัวให้พูดถึงอยู่ไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือการที่ออสการ์ประกาศว่าจะตัดการถ่ายทอดสดรางวัลแปดสาขา เพื่อความกระชับและดึงเรตติ้งคนดูให้กลับมาอีกหน
ย้อนกลับไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ออสการ์เผยว่าการถ่ายทอดการประกาศรางวัลซึ่งจัดขึ้นที่โรงละครดอลบี (Dolby Theatre) ฮอลลีวูด และจะถ่ายทอดทางสดช่อง ABC นั้น จะไม่มีการถ่ายทอดสดผู้เข้าชิง 8 สาขา ได้แก่ สารคดีขนาดสั้น, การตัดต่อ, แต่งหน้าและทำผมยอดเยี่ยม, ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม, โปรดักชันดีไซน์, แอนิเมชันขนาดสั้น, ภาพยนตร์สั้น และเสียงยอดเยี่ยม
โดยการประกาศรางวัลเหล่านี้จะยังจัดขึ้นในโรงละครดอลบี ก่อนหน้าการถ่ายทอดสดประมาณหนึ่งชั่วโมง และจะถูกบันทึกไว้เพื่อนำไปตัดต่อร่วมกับการประกาศรางวัลสาขาอื่นๆ ในภายหลัง อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาสื่อมวลชนมักทุ่มความสนใจให้การประกาศรางวัล 6 สาขาหลักของออสการ์ ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมและนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ซึ่งทั้ง 6 สาขามักถูกพูดถึงในสื่อกระแสหลักนานหลายวันทั้งก่อนหน้าและหลังประกาศรางวัล ขณะที่สาขาอื่นๆ นั้นไม่ได้ถูกพูดถึงมากนัก
ทั้งนี้ การตัดการประกาศรางวัลดังกล่าวออกนั้นถูกสื่อมวลชนมองว่าเป็นการดิ้นรนเฮือกใหญ่ของออสการ์ในการจะดึงเรตติ้งกลับมาให้เปรี้ยงเหมือนเคย (ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ช่วงที่เรียกได้ว่า ‘เปรี้ยง’ นั้นก็ตั้งแต่ปี 1970 สมัยที่โทรทัศน์ยังเป็นสิ่งคู่บ้านคู่เรือนของชาวอเมริกัน) นีลเซ็น บริษัทที่ให้บริการข้อมูลและการวัดผล เผยว่าเรตติ้งการประกาศรางวัลออสการ์เมื่อปี 2021 มีคนติดตามดูทางโทรทัศน์เพียง 10.4 ล้านคน นับว่าเป็นยอดที่ต่ำที่สุดในประวัติการณ์ น้อยกว่ายอดผู้ติดตามชมการถ่ายทอดสดในปี 2020 ซึ่งมีคนดูราว 23.6 ล้านคนหรือคิดเป็น 56 เปอร์เซ็นต์ ในจำนวนนี้ ยอดผู้ชมกลุ่มผู้ใหญ่หรือกลุ่มที่มีอายุระหว่าง 18-49 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรหลักสำหรับการฉายโฆษณานั้น ก็ลดลงไปกว่าครึ่งด้วย
ก่อนหน้านี้ ในการประกาศรางวัลครั้งที่ 91 ออสการ์ก็เคยพยายามตัดการถ่ายทอดสดการประกาศรางวัลออกไป 4 รางวัล ได้แก่ กำกับภาพยอดเยี่ยม, การตัดต่อ, แต่งหน้าและทำผมยอดเยี่ยม และภาพยนตร์สั้น โดยทั้งหมดยังจัดขึ้นในงานเช่นเดียวกับสาขาอื่นๆ เพียงแต่ไม่ได้ถูกถ่ายทอดสดเพราะช่วงเวลาดังกล่าวนั้นถูกนำไปไว้สำหรับการฉายโฆษณาแทน (แต่ยังฉายไลฟ์สตรีมทางเว็บไซต์ของออสการ์อยู่นะ!) และจะจัดฉายสปีชบนเวทีของผู้ชนะแต่ละสาขาภายหลัง
ลำพังในปีนั้นก็มีคนในแวดวงอุตสาหกรรมฮอลลีวูดมากมายที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของออสการ์ รวมถึง กีเยร์โม เดล โตโร คนทำหนังชาวเม็กซิกันผู้เคยคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก The Shape of Water (2017) โพสต์ลงทวิตเตอร์ว่า “ถ้าเป็นผม ผมคงไม่อาจหาญกล้าบอกหรอกว่าสาขาไหนของออสการ์ที่ควรถูกตัดไม่ต้องออกอากาศ แต่กระนั้น การกำกับภาพและการตัดต่อคือหัวใจหลักของงานเราเลยล่ะ”
“ทั้งการกำกับภาพยนตร์และการตัดต่อ ไม่ได้มีรากฐานมาจากการแสดงละครเวทีหรืองานวรรณกรรม หากแต่มันเป็นภาพยนตร์โดยตัวมันเองอยู่แล้ว”
ขณะที่อีกหนึ่งคนทำหนังจากเม็กซิโก อัลฟอนโซ กัวรอน ผู้เคยคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมและตัดต่อยอดเยี่ยมจาก Gravity (2013) และกำกับยอดเยี่ยมรวมถึงกำกับภาพยอดเยี่ยมใน Roma (2018) ก็เคยระบุไว้ว่า “การตัดสินใจว่าจะถ่ายทอดหรือไม่ถ่ายทอดสดอะไรนั้นไม่ได้เป็นการตัดสินใจเพื่อตัวภาพยนตร์ หากแต่เป็นไปเพื่อโชว์ เพื่อความบันเทิง มันจึงไม่ควรเป็นหนึ่งในการอภิปรายเกี่ยวกับตัวรางวัลออสการ์แต่อย่างใด” และ “ตัวออสการ์นั้นควรแสดงความยินดีให้แก่เหล่าศิลปินในทุกสาขาครับ”
อีกทั้งในปีนั้น Vice (2018) หนังของ อดัม แม็กคีย์ ที่จับ คริสเตียน เบล มาแปลงโฉมเป็น ดิค เชนีย์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ยังออกปากว่า “ทีมงานเราทุ่มเทกันหนักมากนะ”
อย่างไรก็ตาม กลับมายังการประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 นี้ แม้ยังไม่มีรายงานความเห็นจากคนในอุตสาหกรรมแน่ชัด แต่เว็บไซต์ variety ก็เผยแพร่บทความไม่ระบุตัวตนของคนในอุตสาหกรรมกับความเห็นที่พวกเขามีต่อการตัดสินใจตัดการประกาศรางวัลทั้งแปดสาขาออกว่า “มันเหมือนส่งสารให้คนได้รู้กลายๆ ว่าสาขาอะไรสำคัญกว่าสาขาอะไร รวมทั้งเหล่าคนทำหนังในออสการ์เอง” โปรดิวเซอร์ไม่ระบุชื่อคนหนึ่งบอก “อันที่จริงก็หวังว่าออสการ์จะมีทางออกอื่นที่ยังสามารถถ่ายทอดสดการประกาศรางวัลสาขาเหล่านี้ได้ โดยยังอยู่ในเวลาที่กำหนดของการออกอากาศ เพราะว่าการที่ออสการ์ตัดสินใจแบบนี้มันชวนให้รู้สึกว่าพวกเขากำลังเมินความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ อยู่น่ะ”
สตีฟ เออร์บัน รองประธานการตัดต่อเสียงในภาพยนตร์ (Motion Picture Sound Editors: MPSE) กล่าวอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า “การจะหาบทสรุปให้เรื่องนี้มันคงไม่ง่ายสำหรับทางออสกร์เหมือนกัน อย่างไรก็ดี เสียงคือสิ่งสำคัญและเกี่ยวข้องกับทุกองค์ประกอบ องค์กรการตัดต่อเสียงในภาพยนตร์ขอแสดงความชื่นชมแก่ผู้เข้าชิงออสการ์ทุกคน เราตระหนักดีว่าเสียงนั้นทรงพลังอย่างไรบ้าง” ตรงกันข้ามกับองค์กรคนตัดต่อในภาพยนตร์อเมริกัน (American Cinema Editors: ACE) ที่ออกแถลงการณ์อย่างดุเดือดว่า “เราผิดหวังกับการตัดสินใจตัดการประกาศรางวัลบางสาขาออกจากการถ่ายทอดสดของออสการ์อย่างยิ่ง เมื่อสาขาที่ถูกตัดออกไปนั้นรวมถึงสาขาการตัดต่อภาพยนตร์ซึ่งจะถูกถ่ายทอดผ่านสตรีมของออสการ์อย่างเดียว เพราะนี่คือการส่งสารว่ามีงานสร้างสรรค์บางสาขาที่สำคัญกว่าบางสาขา”
“ในฐานะศิลปินที่อุทิศตนอย่างเต็มที่เพื่อสร้างสรรค์งานศิลป์และรักษาเกียรติของการตัดต่อ เราเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่างานตัดต่อ รวมทั้งงานสร้างสรรค์สาขาอื่นๆ ซึ่งเป็นองค์ประกอบของภาพยนตร์นั้น สมควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน”
ออสการ์ไม่ได้เป็นงานประกาศเดียวที่ต้องเผชิญภาวะเรตติ้งถดถอย เพราะงานประกาศรางวัลเอ็มมี่ เวทีที่มอบให้แก่งานงานที่ออกฉายทางโทรทัศน์ เมื่อปี 2021 ก็มียอดคนดูต่ำเป็นประวัติการณ์ โดยมียอดผู้ชมเพียง 5.1 ล้านคน ลดลงจากปีก่อนหน้า 14 เปอร์เซ็นต์ หรือทางฝั่งงานดนตรีอย่างการประกาศรางวัลแกรมมี่เองก็เช่นกัน เมื่อในปี 2021 มียอดคนดูเพียง 9.23 ล้านคน ต่ำกว่าปีก่อนหน้าซึ่งมียอดคนดู 18.69 ล้านคนหรือคิดเป็น 51 เปอร์เซ็นต์
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจนกว่าจะถึงการประกาศรางวัล ออสการ์จะเปลี่ยนใจให้มีการถ่ายทอดสดการประกาศรางวัลให้ครบทุกสาขาหรือไม่ ขณะที่ก็ต้องพยายามหาทางออกเรื่องเรตติ้งและยอดโฆษณาที่ถอยลดลงไปทุกที
Tags: ออสการ์, Screen and Sound, Oscars 2022