หลายครั้งที่เราเห็นศิลปินจากวงบอยแบนด์หรือเกิร์ลกรุ๊ปเริ่ม ‘ปล่อยของ’ ออกอัลบั้มเป็นของตัวเอง เพื่อกรุยทางสู่ ‘ความสำเร็จ’ ในเส้นทางศิลปินเดี่ยว หลังจากเฉิดฉายกับเพื่อนร่วมวง เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 7-8 ปี

เช่นเดียวกันกับ คิม โดยอง (Kim Doyoung) นักร้องเสียงหลักและเจ้าของฉายากระต่ายประจำวง NCT ที่ปีที่แล้วออกอัลบั้มเดี่ยวเป็นของตัวเอง กับอัลบั้มเต็มชุดแรกอย่าง Youth (2024) ที่มีแนวเพลงป็อปร็อก (Pop-Rock) เป็นหลัก เรียกกระแสตอบรับจากเหล่าแฟนคลับและแฟนเพลงได้อย่างร้อนแรง ผ่านชาร์ตเพลงและยอดขายอัลบั้มถล่มทลายกว่า 3.4 แสนชุด พร้อมกันนั้นโดยองยังจัดคอนเสิร์ตทัวร์ทั่วเอเชียในครึ่งปีหลังอีกด้วย

เป็นที่รู้กันว่า การออกอัลบั้มเดี่ยวในฐานะศิลปิน ปัจจัยที่สำคัญไม่น้อยคือ ‘แนวเพลง’ ที่ศิลปินเลือกใช้เปิดตัวในฐานะศิลปินเดี่ยว เพื่อบ่งบอกถึงเส้นทางการเป็นนักร้องเดี่ยวในอนาคต

มาวันนี้ ศิลปินหนุ่มคนนี้กลับมาอีกครั้ง กับการปล่อยอัลบั้มชุดที่ 2 อย่าง Soar (2025) ที่พกเอาความหลงใหลใน Pop-Rock มาจัดหนักจัดเต็ม แสดงให้เห็นถึง ‘การเติบโต’ และ ‘ความเชื่อมั่น’ ในแนวดนตรีของตัวเอง เพื่อให้เส้นทาง ‘ศิลปินเดี่ยว’ แข็งแรงขึ้นอีกขั้น จนได้รับการขนานนามทั้งจากสื่อเกาหลีใต้ว่าเป็น ‘Trustworthy Artist’ และ Apple Music แพลตฟอร์มฟังเพลงชื่อดังว่าเป็น ‘K-Pop Powerhouse’

ผมรักวงแบนด์มาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย เส้นทางนี้เป็นตัวของผมมาก ที่ผ่านมาผมได้ติดต่อกับศิลปินที่ผมชื่มชอบ นั่นจึงทำให้ผมมีโอกาสทำอัลบั้มนี้ออกมา มันเหมือนฝันที่เป็นจริงของผมเลยครับ

ในอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ศิลปินหนุ่มคนนี้เล่าว่า อัลบั้มชุดที่ผ่านเขาให้ความสำคัญกับคำว่า ‘Youth’ อย่างมาก ขณะที่อัลบั้มนี้เขาอยากสื่อสารสิ่งที่เหนือไปกว่าคำว่า ‘วัยเยาว์’ ดังนั้นคำที่ผุดขึ้นมาในหัวจึงคำว่า ‘โบยบิน’ หรือ Soar อะไรทำนองนั้น 

อัลบั้มเต็มชุดใหม่นี้ประกอบไปด้วยเพลงทั้งหมด 10 เพลง ไม่เพียงแต่แนวป็อปร็อกเท่านั้นที่ใส่เข้ามา แต่ยังมีเพลงอะคูสติก (Acoustic), บัลลาด (Balld) และแนวอัลเทอเนทีฟ (Altinative) สอดแทรกมาด้วย

Wake From The Dark (깊은 잠)

เพลงแรกที่ผู้เขียนขอหยิบยกมานำเสนอ คือ Wake From The Dark เพลงที่เจ้ากระต่ายแห่งวง NCT เลือกนำเสนอไว้เป็น Track ที่ 1 ทำหน้าที่เป็นตัวโหมโรงให้กับอัลบั้ม Soar (2025) โดยเพลงนี้เป็นเพลงสไตล์บัลลาดที่ใช้เสียงของกีตาร์ กลองชุด ผสานเข้ากับเสียงร้องอันหวานละมุนอันของโดยองเข้าไว้ด้วยกัน

ในแง่ของเนื้อหาเพลงนั้นสื่อสารถึง ‘ความกล้า’ ให้ออกจากกรอบและ ‘ทลาย’ ความมืดมิดที่ปิดกั้นตัวเองเอาไว้ ไม่กลัวที่จะทำสิ่งใหม่ๆ ถือเป็นเพลงที่แสดงอัตลักษณ์ความเป็นอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม 

สำหรับผู้เขียนเองนั้น ทันทีที่ฟัง Wake From The Dark เพลงนี้จะให้ความรู้สึกราวกับว่า กำลังแสดงบัลเลต์ (Ballet) บนเวทีใหญ่อย่างใดอย่างนั้น ด้วยโน๊ตของเพลงที่ค่อยๆ ไต่ระดับอย่างพิถีพิถัน ก่อนไปจบที่การร้อง High Note ของโดยอง ช่วยปลดปล่อยอารมณ์และความรู้สึกให้ลอยขึ้นสู่บรรยากาศได้อย่างง่ายดาย

First Step (자전거)

First Step หรือในชื่อภาษาเกาหลีว่า 자전거 ที่แปลว่า ‘จักรยาน’ เป็น Track ที่ 4 ของอัลบั้ม Soar (2025) มาในแนวบอสซาโนว่า (Bossa Nova) ด้วยการถ่ายทอดเสียงของเปียโน บรรเลงไปพร้อมกับเสียงของเบสและเครื่องสาย 

สำหรับ First Step ให้ความรู้สึกสบายๆ ราวกับกำลังปั่นจักรยานรับลมยามเย็นริมแม่น้ำฮัน (Han River) แม้เพลงนี้จะไม่ได้มีการร้อง High Note ระดับไฟลุกโชน แต่นั่นก็ไม่ได้ลดทอนความสนุกของเพลงนี้ลงแต่อย่างใด

โดยความหมายของเพลงนี้ เขาหยิบยกเอาประสบการณ์ขี่จักรยานครั้งแรกมาถ่ายทอด เพราะการปั่นจักรยานครั้งแรกของชีวิตนั้นจะเต็มไปด้วยความเงอะงะ ผสมกับความกล้าและความตื่นเต้น โดยหวังปลอบประโลมผู้ฟังเพลงว่า มันโอเคที่ชีวิตเราจะหลงทางไปบ้าง หรือหากล้มก็แค่ลุก เชื่ออยู่ลึกๆ ว่ายังมีความสนุกจะรออยู่ข้างหน้า

Sonnet (소네트)

อีกหนึ่งเพลงที่ผู้เขียนอยากแนะนำในบทความนี้ คือ Sonnet เป็นเพลงโมเดิร์นร็อก (Modern Rock) ที่อัดแน่นไปด้วยท่วงทำนองของเสียงเครื่องดนตรี ทว่าเนื้อหากลับเต็มไปด้วยความเปราะบางที่โดยองต้องการ ‘ขอบคุณ’ คนที่อยู่เคียงข้างเขามาตลอด แม้ในช่วงเวลาที่เขาคิดว่าเขาได้สูญเสียทุกอย่างไปแล้ว

โดยเพลงนี้ได้ คิม จุนซอ (Kim Joonseo) หนึ่งในสมาชิกวงแบนด์ที่เล่นร่วมกับโดยอง มาเป็นผู้ประพันธ์เนื้อร้องและดนตรีให้ โดยเขาเล่าอีกว่า ทันทีที่ได้ฟังเพลงนี้ ความรู้สึกของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความโหยหา ขณะเดียวกันมีความกล้าและความไม่ย่อท้อผสมลงไปอยู่ในนั้นด้วย

슬픈 너의 눈을 바라볼 때

건네지 못했던 말이 있어

고마웠어 정말

오래도록

작은 진심만이 전부였던

서투른 날 바라봐 준 네게

고마웠어 정말

말없이 머물던 목소리

[เมื่อฉันมองลงไปในดวงตาที่เศร้าหมองของเธอ
มีบางคำที่ไม่เคยพูดออกไป
ขอบคุณจริงๆ นะ
ขอบคุณตลอดเวลาที่ผ่านมา

ฉันมีแค่ความจริงใจเล็กๆ เท่านั้น
แต่เธอยังกลับมองฉันคนนี้ คนที่ยังไม่เก่งกับความรู้สึกด้วยความเข้าใจ
ขอบคุณจริงๆ
ขอบคุณที่ฟังเสียงของฉัน]

Memory (안녕, 우주)

สำหรับเพลงที่สำคัญที่สุดในอัลบั้มใหม่ชุดนี้ คงต้องบอกว่ามันคือ Memory ไตเติลแทร็กที่โดยองแสดงความหลงใหลกับความเป็นป็อปร็อกได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยโทนของเสียงร้องอันสดใส ผสานกับเสียงของกีตาร์และเปียโนเข้าไว้ด้วยกัน นับว่าเป็นเพลงที่เหมาะกับฤดูร้อนอย่างถึงที่สุด

ความพิเศษของเพลงนี้ โดยองได้ ‘คิม อีนา’ (Kim Eana) นักแต่งเพลงชื่อดังที่เคยร่วมงานกับตัวแม่แห่งวงการ ทั้งแทยอน (TAEYEON) และไอยู (IU) มาเป็นผู้ประพันธ์เนื้อร้องไตเติลแทร็กนี้ด้วย โดยสื่อสารความหมายว่า ต้องการให้ความทรงจำแสนมหัศจรรย์ที่เคยมีร่วมกับ NCTzen (ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) สว่างไสวตลอดไป เพราะเป็นที่รู้กันว่าในปีนี้ โดยองจะต้องวางไมค์จากวงการบันเทิงไปสักระยะหนึ่ง เพื่อเข้าสู่โรงเรียนประจำ (A.K.A. กรมทหาร) แต่เชื่อว่า การบอกลาครั้งนี้จะไม่ใช่การบอกลาครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอน ตราบใดที่ยังมีกันและกันเหมือนตอนนี้

ด้านมิวสิกวิดีโอของเพลงนี้ โดยองเลือกตีความคำว่า ‘Memory’ ที่แตกต่างออกไป โดยเขารับบทเป็น ‘พนักงานส่งความฝัน’ ที่จะคอยเลือกความทรงจำดีๆ และส่งมอบเป็นความฝันให้กับผู้คนที่กำลังหลับใหล

ขณะที่ตัวเขาเอง แม้ว่าจะมีความทรงจำแย่ๆ ผ่านมาอยู่บ้าง เช่น การสูญเสียซามอยด์ตัวโปรด หรือพบนกกระจอกที่หมดลมหายใจไปแล้ว จนทำให้การทำงานเกิดความผิดพลาดไปบ้าง ซึ่งเขาเลือกวิธีการแก้ไขปัญหานั้นด้วยการลบความทรงจำที่ไม่ดีออกไป คัดสรรไว้เหลือเพียงความทรงจำที่ล้ำค่าเท่านั้น

สำหรับ MV ของเพลงนี้ยังมี ‘กิมมิก’ เล็กๆ ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย นั่นคือ ชื่อ Folder จัดเก็บความฝัน โดยเขาเลือกใช้เป็นตัวเลขแทน ‘วันเกิด’ ของสมาชิกในวง NCT แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเมมเบอร์ที่มีกับโดยอง ดังนี้

1. 02.05 – จีซอง (Jisung)

2. 04.23 – เจโน่ (Jeno)

3. 08.13 – แจมิน (Jaemin)

4. 10.26 – ยูตะ (Yuta)

5. 02.14 – แจฮยอน (Jaehyun)

6. 02.19 – จองอู (Jungwoo)

7. 06.06 – แฮชาน (Haechan) 

8. 07.01 – แทยง (Taeyong)

Memory ได้รับกระแสตอบรับอย่างร้อนแรงในเกาหลีใต้ โดยทำคะแนนบน Digital Chart ของ Circle Chart ได้มากถึง 15,460,198 คะแนน ภายในสัปดาห์แรกของการเปิดตัว ซึ่งถือเป็นการทำลายสถิติเดิมของตัวเขาเองจากเพลง Little Light ไตเติลแทร็กจากอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกที่เคยทำไว้ที่ 15,112,460 คะแนน กลายเป็นศิลปินเดี่ยวจากวง NCT ที่ทำคะแนนสูงสุดในสัปดาห์แรกได้อีกครั้ง

Eternity (미래에서 기다릴게)

เพลงสุดท้ายที่ผู้เขียนอยากนำเสนอ เป็นเพลงที่ผู้เขียนคิดว่า โดยองแสดงศักยภาพออกมาให้เห็นได้อย่างดีเยี่ยม โดย Eternity เป็นเพลงอัลเทอเนทีฟร็อกเต็มเปี่ยมไปด้วยเสียงเครื่องดนตรีที่หนักแน่น และทักษะการร้องอันทรงพลังของศิลปินหนุ่มคนนี้

ในมุมของผู้เขียนคิดว่า Eternity สามารถทำหน้าที่ตัวปิดอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ได้เป็นอย่างดี ด้วยการสื่อสารโดยตรงถึง NCTzen ในเชิงว่า อนาคตไม่มีสิ่งใดที่จะต้องรู้สึกหวาดกลัว โดยองจะยืนรออยู่ในภายภาคหน้า และทั้งเขาและ NCTzen จะต้องกลับมาเจอกันอีกครั้งอย่างแน่นอน 

นับว่าเป็นมาสเตอร์พีซของอัลบั้มนี้เลยก็ว่าได้

อัลบั้ม ‘Soar’ ยังไม่หมดลงเพียงเท่านี้ แต่ยังมีเพลงทั้ง Be My Light, Just Friends, Luminous, Still และ Sand Box ที่รอให้ผู้อ่านเข้าไปเสพและสัมผัสรสชาติแห่งการเติบโตของโดยองอยู่อีกมาก

Soar ถือเป็นอัลบั้มที่สะท้อนเส้นทางการเป็นศิลปินเดี่ยวของโดยองที่แข็งแรงมากขึ้น หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพ การออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกอย่าง Youth (2024) ของโดยองนั้นเปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่หยั่งรากลงไปในดิน ขณะที่ Soar คือช่วงเวลาที่ต้นไม้ต้นเดิมเริ่มมีรากแก้วที่แข็งแรง แตกแขนงรากฝอยออกมา และผลิใบรับแสง พร้อมยืนต้นโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

ทั้งนี้ผู้อ่านสามารถรับฟังอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 Soar ได้แล้วทางทุกแพลตฟอร์มสตรีมมิง ก่อนที่จะมาเจอกับโดยองตัวเป็นๆ ในคอนเสิร์ตครั้งที่ 2 ‘DOORS’ ที่ธันเดอร์โดม (Thunder Dome) เมืองทองธานี ในเดือนกันยายนที่จะใกล้เข้ามาถึงนี้

อ้างอิง

https://m.entertain.naver.com/home/article/109/0005317531

https://circlechart.kr/page_chart/onoff.circle?serviceGbn=ALL

https://kpop.fandom.com/wiki/Soar_(Doyoung) 

https://www.sportalkorea.com/news/articleView.html?idxno=2025052909552371842

Tags: , , , , , , , , , , , ,