‘Kingdom: Ashin of the North’ เมื่อคนตายฟื้นคืนชีพ ด้วยแรงแค้นจากชนชั้นชายขอบ

หลังจากภาพยนตร์ซีรีส์ Kingdom ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด ซีซัน 2 จบลงท่ามกลางปริศนามากมายที่ยังไม่ถูกเปิดเผย ตั้งแต่จุดกำเนิดของบรรดาผีดิบหิวกระหายเลือด ใครคือตัวการริเริ่มใช้สมุนไพรคืนชีพ และหญิงสาวปริศนาผู้ออกมาตอนท้ายเรื่องกับท่าทีสุดอันตรายที่ดูเหมือนว่าจะรู้วิธีควบคุมผีดิบเหล่านั้น และยังเป็นผู้กุมกุญแจไขความลับสำคัญที่ทำให้บัลลังก์แห่งอาณาจักรโชซอนต้องคละคลุ้งไปด้วยเลือด ทั้งหมดนี้จะได้รับการเฉลยผ่านภาพยนตร์ภาคแยกของซีรีส์เรื่อง Kingdom: Ashin of the North หรือในชื่อภาษาไทย ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด: อาชินแห่งเผ่าเหนือ ก่อนปูทางไปสู่ Kingdom ซีซัน 3 ในอนาคต

*ต่อจากนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์

ย้อนกลับไปยังปี ค.ศ. 1592-1598 ช่วงที่อาณาจักรโชซอนกำลังทำสงครามกับญี่ปุ่นทางตอนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี ตามที่รู้จักกันในชื่อจารึกประวัติศาสตร์เหตุการณ์ ‘สงครามอิมจิน’ โดยระหว่างที่สองขั้วมหาอำนาจแห่งทวีปเอเชียกำลังเข้าห้ำหั่นกัน ทางชายแดนตอนเหนือชนเผ่าเร่ร่อน ‘หนี่ว์เจิน-พาจอวี’ นำโดยหัวหน้าเผ่า ‘ไอดากัน’ (คู คโยฮวาน) ก็พร้อมที่จะตลบหลังเข้าตีโชซอนยามอ่อนแอได้ทุกเมื่อ หากพวกเขาสามารถรวบรวมกองกำลังได้ราว 2 หมื่นนาย

“สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าพวกปีศาจก็คือพวกทหาร”

ประโยคข้างต้นเป็นหนึ่งในบทสนทนาระหว่าง ‘ทาฮับ’ (คิม-รอยฮา) ผู้นำเผ่าหนี่ว์เจินกลุ่มน้อยแห่งหมู่บ้านซองจอยาอิน และ ‘อาชิน’ ตัวละครเอกของเรื่องในวัยเด็ก (คิมชีอา) โดยชนเผ่าหนี่ว์เจินของทาฮับเป็นเพียงชนกลุ่มชายขอบที่อพยพมาตั้งรกรากอาศัยแถวลุ่มแม่น้ำพาจอ ท่ามกลางการเฝ้าจับตามองของ ‘มินชีรก’ (พัคบยองอึน) แม่ทัพแห่งโชซอน 

แล้วอะไรทำให้เกิดบทสนทนาอันน่าฉงนของพ่อลูกคู่นี้ได้ เรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากตอนที่อาชินต้องการตามหาสมุนไพรปริศนาในหุบเขาพเยซากุน ที่ลือกันว่าสามารถปลุกชีพคนตายได้ หวังนำมารักษาอาการป่วยหนักของแม่ แต่จนแล้วจนรอดก็ถูกปฎิเสธจากผู้เป็นพ่ออยู่เสมอด้วยเหตุผลว่า ทหารโชซอนเป็นเจ้าของดินแดนแห่งนั้น การจะย่างกรายเข้าไปในเขตหวงห้ามมานานนับร้อยปีอย่างพเยซากุนถือเป็นความผิดใหญ่หลวง และอาจต้องแลกด้วยชีวิต

ทาฮับ ผู้นำหมู่บ้านซองจอยาอิน แสดงโดย คิม-รอยฮา

อาชินวัยเด็ก แสดงโดย คิมชีอา

ทว่าฝ่ายที่บุกเข้าไปในหุบเขาพเยซากุนกลับไม่ใช่อาชิน แต่เป็นกองกำลังทหารจำนวนหนึ่งของเผ่าหนี่ว์เจิน-พาจอวี ที่พยายามเข้ามาเก็บสมุนไพร ก่อนถูกสังหารโดย ‘โจบอมอิล’ (จองซุกวอน) ลูกชายของขุนนางตระกูลแฮวอนโจ ตระกูลสำคัญที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์นองเลือดในบัลลังก์อาณาจักรโชซอนทั้ง 2 ภาค การสังหารคนของเผ่าหนี่ว์เจิน-พาจอวีครั้งนี้ ไม่ต่างจากการชักศึกเข้าบ้านอย่างเป็นทางการ ทางเดียวที่จะทำให้เรื่องราวสงบลงได้ คือต้องแต่งเรื่องว่าทหารเหล่านั้นตายเพราะถูกสัตว์ป่าสังหาร 

เมื่อเหตุการณ์บานปลาย มินชีรกจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากทาฮับ ให้แฝงตัวเข้าไปยังค่ายหทารหนี่ว์เจิน-พาจอวี และกระจายข่าวการ ‘ตายลวง’ ออกไป โดยอ้างเหตุผลว่าอาณาจักรโชซอนมีบุญคุณต่อชาวบ้านในหมู่บ้านซองจอยาอิน ทั้งให้ถิ่นที่อยู่อาศัย ให้มีตัวตนบนอาณาจักรโชซอน และหากช่วยเหลือสำเร็จ หมู่บ้านซองจอยาอินจะได้รับดินแดนเป็นของตัวเองจริงๆ เสียที

ทุกอย่างฟังดูราบรื่น แต่สำหรับเกมการเมืองแล้ว ย่อมมีฝ่ายที่ต้องสูญเสีย สุดท้ายทาฮับและหมู่บ้านซองจอยาอินก็กลายเป็นแพะรับบาป เมื่อแม่ทัพมินชีรกตัดสินใจหักหลังด้วยการเอ่ยคำลวงว่า ฝ่ายที่สังหารคนของหนี่ว์เจิน-พาจอวี คือคนของทาฮับ ทำให้หมู่บ้านซองจอยาอินถูกทำลายพินาศ ชาวบ้านถูกฆ่าล้างครัวจนหมดสิ้น เหลือเพียงอาชินที่รอดตาย เพราะออกไปเก็บสมุนไพรคืนชีพ ในแง่ของมินชีรก นี่คือการรักษาชาติให้คงอยู่ ทว่าสำหรับอาชินแล้ว เธอกลับต้องเป็นบุคคลผู้สูญสิ้นทุกอย่างในชีวิต

ไอดากัน หัวหน้าชนเผ่าเร่ร่อนหนี่ว์เจิน-พาจอวี แสดงโดย คู คโยฮวาน

แม่ทัพแห่งโชซอน มินชีรก แสดงโดย พัคบยองอึน

เมื่อผู้ถูกกดขี่ลุกขึ้นทวงคืนความยุติธรรม

เรื่องราวดำเนินมาจนถึงอาชินในวัยรู้ความ (ชอนจีฮยอน) เธอตั้งหน้าตั้งตารอคอยแก้แค้นให้ครอบครัว ท่ามกลางชีวิตที่ต้องพลิกผันมาอยู่ในค่ายทหารโชซอน ถูกกดขี่ทั้งแรงงานและความเป็นมนุษย์ จนสุดท้ายเธอล่วงรู้ว่าโชซอนใส่ความ และใช้ครอบครัวของเธอเป็นเครื่องมือแลกกับความปลอดภัยต่ออาณาจักร 

หลังความจริงถูกเปิดเผย อาชินไม่ต่างจากระเบิดเวลาในค่ายทหารโชซอน เธอลอบสังหารทหารนายหนึ่งที่พยายามจะเข้ามาย่ำยี แล้วใช้สมุนไพรคืนชีพกับเขา จนเกิดเป็นผีดิบตัวแรก ก่อนเริ่มไล่ฆ่าทหารคนอื่นๆ ที่เหลือ แล้วใช้สมุนไพรปลุกชีพเป็นผีดิบ จนกลายเป็นโรคระบาด สุดท้ายค่ายโซซอนทางตอนเหนือต้องพินาศย่อยยับ 

เมื่อผู้มีอำนาจไร้ซึ่งยุติธรรมและความเป็นมนุษย์ สิ่งที่อาชินจะตอบแทนให้กับโชซอนได้ต่อจากนี้คือความตาย หาใช่การจงรักภักดีแบบพ่อของเธอ อาชินใช้สมุนไพรคืนชีพทำลายอาณาจักรอันยิ่งใหญ่นี้จากภายใน โดยใช้ความโลภของมนุษย์ผู้มีอำนาจเป็นเครื่องมือให้แผนการสำเร็จ ซึ่งนี่จะเป็นการเชื่อมโยงเข้าสู่ Kingdom ซีซันแรก รวมถึงเป็นการโปรยภูมิหลังของอาชิน ก่อนจะกลายเป็นตัวละครหลักของ Kingdom ซีซัน 3 ต่อไปในอนาคต

อาชิน แสดงโดย ชอนจีฮยอน

สำหรับแฟรนไชส์ภาพยนตร์ซีรีส์ Kingdom การเล่นกับอำนาจของผู้ถูกกดขี่และเกมการเมืองยังคงถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน สะท้อนถึงสัจธรรมบนโลกมนุษย์ที่ว่า ‘ปลาใหญ่กินปลาเล็ก’ ที่ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย คนชายขอบหรือประชาชนตาดำๆ ก็มักถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองอยู่เสมอ อาชินจึงเปรียบเสมือนคนธรรมดาที่ลุกขึ้นมาทวงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้กับตัวเอง การมีอยู่ของตัวละครนี้จึงไม่ใช่แค่การไล่เฉดสีจากดีไปชั่ว แต่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงสามัญชนคนหนึ่งที่ถูกอำนาจรัฐกดขี่จนจิตใจแหลกสลาย ว่าเมื่อถึงคราวจนตรอก ความเกลียดชังสามารถแปรเปลี่ยนเป็นความแค้นได้อย่างง่ายดาย

ใครที่คาดหวังว่า Kingdom: Ashin of the North จะเป็นหนังแนวร้องแรกแหกกระเชอ วิ่งหนีฝูงผีดิบ คุณอาจต้องผิดหวัง แต่สิ่งที่จะได้กลับมาคือ การเข้าใจถึงเบื้องหลัง ที่มาที่ไป จุดกำเนิดของเรื่องราวและตัวละครต่างๆ ของซีรีส์ชุดนี้ได้อย่างแจ่มชัด หากพินิจพิจารณาดีๆ แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ช่างเข้ากับสถานการณ์บ้านเราเหลือเกิน