นับเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของผู้ประกอบการรายย่อยหรือเอสเอ็มอีที่โดนปัจจัยภายนอกและภายในรุมเร้า ส่งผลให้การทำธุรกิจเต็มไปด้วยอุปสรรค ลำพังแค่ประคับประคองให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ และอยู่รอดก็เป็นเรื่องหนักหนาพอสมควร

ทางธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี และอยากยื่นมือเข้าช่วยเหลือเอสเอ็มอีไทยให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าเศรษฐกิจไทยไม่ดี ค้าขายไม่ได้ ปลุกใจชาวเอสเอ็มอีให้ลุกขึ้นสู้ในแคมเปญใหญ่ ‘SME Fighto’ (เอสเอ็มอี ไฟต์โตะ) ที่มาพร้อมตัวช่วย ‘มณี Free Solution’ ให้ฟรีค่าธรรมเนียมเมื่อทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัล ดอกเบี้ยบัญชีเดินสะพัดสูงสุด 1% และใช้บริการโคเวิร์กกิ้งสเปซ 24 ชั่วโมงที่แรกของ SCB สาขาสยามสแควร์ สำหรับต่อยอดธุรกิจ

นอกจากนี้ยังให้กำลังใจเอสเอ็มอีด้วย แม่มณีรุ่นใหม่ปี 2019 โดยเวอร์ชั่นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากมวยคาดเชือก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้เพื่อเอาชนะทุกอุปสรรค 

เอสเอ็มอีอ่อนแอ แบงก์ก็อ่อนแอ

อภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีถือว่ามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยในหลายมิติ ทั้งการเป็นผู้ผลิตและบริการ การมีบทบาทต่อการจ้างงาน และเป็นจุดเริ่มต้นในการประกอบธุรกิจที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมขนาดใหญ่ โดยวันนี้เอสเอ็มอีไทยที่จดทะเบียนและมีขนาดพอสมควร มีอยู่ 3 ล้านราย ที่เป็นเหมือนข้อต่อสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

“การที่เราต้องทำตอนนี้เพราะเอสเอ็มอีเขาเหนื่อย อยู่ไม่ได้ เนื่องจากปัจจัยรุมเร้าเยอะ ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ การประท้วงที่ฮ่องกง เพราะวันนี้มีเอสเอ็มอีไทยทำธุรกิจกับจีนเยอะมาก อะไรที่เกี่ยวข้องกับจีนหรือฮ่องกงก็จะได้ผลกระทบ ไหนจะค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น กระทบกับการส่งออกแน่นอน บวกกับค่าแรงขั้นต่ำที่ไปไกลกว่า 300 บาท เป็นต้นทุนที่สูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยเงินฝากก็อยู่ในช่วงขาลง หนี้ครัวเรือนเยอะมากขึ้น ทำให้การจับจ่ายใช้สอยลดลง ก็กระทบกันเป็นลูกโซ่”

“ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ถ้าเราไม่ลุกขึ้นมาช่วย ก็ไม่รู้จะไปทำตอนไหน เพราะเวลาคนล้ม เราไม่ช่วย คุณค่าในตัวเราก็จะไม่มี ธนาคารก็ลำบากไปด้วย วันนี้เราเทหมดหน้าตัก ทุ่มสุดตัว ขอให้เราเป็นส่วนหนึ่งของเอสเอ็มอีไทยในการช่วยให้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับอุปสรรค” 

ลดต้นทุน สะดวก เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ

อรรัตน์ ชุติมิต รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Retail and Business Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่าปัญหาและอุปสรรคของเอสเอ็มอีไทยในวันนี้อย่างแรกเป็นเรื่องของค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมทั้งรับเงินและจ่ายเงิน สองคือไม่ได้รับดอกเบี้ย เนื่องจากเป็นช่วงดอกเบี้ยขาลง และสามคือขาดความคล่องตัวในการทำธุรกิจ พร้อมที่ปรึกษาในการต่อยอดธุรกิจ

ทางธนาคารจึงได้นำเสนอ ‘มณี Free Solution’ เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่มียอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาท ให้สามารถลดต้นทุนจากการทำธุรกรรม เติบโตอย่างมั่นคง และสามารถต่อยอดธุรกิจได้ ด้วยการฟรีค่าธรรมเนียมทุกประเภท เมื่อทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัล และมีบัญชีมณีมั่งคั่ง รวมถึงฟรีบริการรับฝากเช็คข้ามเขต สองคืออัปเกรดดอกเบี้ย บัญชีมณีมั่งคั่ง บัญชีเดินสะพัดดอกเบี้ยสูงสุด 1% และใช้ฟรีบริการโคเวิร์กกิ้งสเปซ เพื่อสัมมนาต่อยอดธุรกิจ ซึ่งอยู่ใน Business Center ของสาขาสยามสแควร์ ที่เป็นต้นแบบธนาคาร 24 ชั่วโมงแห่งแรกในประเทศไทย 

“ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจลูกค้า ว่าลักษณะการทำธุรกิจของเขาเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งในเรื่องของการทำบัญชีรายรับรายจ่าย การบริการจัดการบัญชี ไม่ว่าจะรับเงินสดหรือในรูปแบบของเช็ค ส่วนการจ่ายเงินก็มีทั้งให้กับคู่ค้าและพนักงาน การใช้บัญชีกระแสรายวันที่อาจได้ดอกเบี้ยไม่สูงมากนัก จะเห็นว่าโซลูชันของเราจะตอบโจทย์เอสเอ็มอีให้ต่อสู้กับปัจจัยต่างๆ ได้”

จากแม่มณีนางกวักสู่แม่มณีชยา

ย้อนกลับไปช่วงปี 2017 ไทยพาณิชย์เปิดตัวแคมเปญ SCB Easy Pay พร้อมกับคาแรกเตอร์ ‘แม่มณี’ เป็นครั้งแรกเพื่อสร้างการจดจำและเป็นจุดเด่นในการให้ร้านค้าหันมาใช้บริการชำระเงินผ่าน QR Code กับทางธนาคารมากขึ้น 

ไม่ต้องบอกว่าแม่มณีเวอร์ชั่นแรกที่เป็นนางกวักนั้นประสบความสำเร็จแค่ไหน เพราะได้กลายเป็นตัวแทนของนางกวักยุคใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บรรดาร้านค้าต่างๆ ก็ก็มีแม่มณีนางกวักตั้งไว้อยู่หน้าร้านหรือบนโต๊ะ กลายเป็นภาพที่ชินตา ถึงขนาดมีคนตามหาและซื้อขายกันแบบจริงจัง 

ธนา เธียรอัจฉริยะ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานการตลาด ธนาคารไทยพาณิชย์ หนึ่งในผู้ริเริ่มโปรเจกต์แม่มณี วิเคราะห์ถึงสิ่งที่ทำให้แม่มณีประสบความสำเร็จว่า เป็นเพราะคาแรกเตอร์ที่มีความน่าเอ็นดู มีความเป็นไทยและสื่อถึงเรื่องเทคโนโลยี พร้อมกับสะท้อนความเป็นไทยพาณิชย์ได้เป็นอย่างดี 

“มณีเวอร์ชั่นแรกเป็นนางกวักที่กลายเป็นตัวแทนของคนค้าขาย เป็นของมงคล ที่สร้างให้เกิดบทสนทนาระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ มันมีความน่ารักลงตัว ได้ทั้งในเรื่องของอารมณ์และตอบโจทย์การใช้งานด้วย”

และเพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดแคมเปญ ‘SME Fighto’ ที่ต้องการปลุกพลังเอสเอ็มอีให้ต่อสู้เอาชนะอุปสรรคในทุกรูปแบบ จึงได้ออกแบบ แม่มณี รุ่นใหม่ปี 2019 ในชื่อว่า มณีชยา ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘มวยคาดเชือก’ ที่สะท้อนถึงการ ‘สู้ไม่ถอย’ แบบไทยๆ โดยแม่มณีรุ่นใหม่จะสวมชุดตะเบงมาน นุ่งโจงกระเบน มือคาดเชือก สวมมงคล มีท่าทางและหุ่นที่ทะมัดทะแมง มีมัดกล้ามเล็กๆ และผิวสีน้ำผึ้ง 

“เรารีเฟรชแม่มณี เพื่อให้เข้ากับแคมเปญฟรีโซลูชั่น เป็นเรื่องของการมุ่งมั่นและให้กำลังใจรูปแบบของแม่มณี ผมว่าสิ่งนี้ก็จะทำให้เกิดบทสนทนา มีความน่ารัก ทำให้ร้านค้าขายของได้ เป็นกำลังใจ ถ้าเอาไปวางไว้บนโต๊ะก็จะรู้สึกว่าต้องสู้ๆ นะ”

ธนายังบอกว่าอีกว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้และปีหน้าก็ยังไม่น่าจะดีขึ้น แต่สิ่งที่เราทำคือการสร้างเอ็นเกจเมนต์ ให้ลูกค้ามีความสัมพันธ์กับเรา เพื่อขยายฐานลูกค้าเอสเอ็มอีในอนาคตอีกด้วย

“เราบุกเอสเอ็มอี ไม่ใช่ในแง่ของสินเชื่อ แต่ทำให้เขารักเรา เหมือนคนจีบกันใหม่ๆ เพราะถ้ายังไม่เคยใช้เราเลย อยุ่ดีๆ เราชวนเขามา ก็ต้องหาอะไรไปชวน ผมว่ามุกนี้มีประโยชน์ ฟรีค่าธรรมเนียม ก็หวังว่าจะได้ลูกค้ามาจำนวนหนึ่ง ซึ่งหลังจากนั้นอยู่ที่เราว่าจะดูแลเขาได้ดีแค่ไหน”

ธนายังทิ้งท้ายว่าการได้สร้างคาแรกเตอร์แม่มณี ทำให้เรียนรู้ว่าการเอาคนที่ไม่เคยอยู่ในแวดวงธนาคารมาก่อน แล้วมาทำงานกับคนธนาคาร มันดีมาก เปรียบเทียบเหมือนหนังมาร์เวลที่สมัยก่อนสู้ค่ายดีซีไม่ได้ แต่พอเอาผู้กำกับที่ไม่เคยกำกับหนังซูเปอร์ฮีโร่มากำกับ ทำให้กลายเป็นหนังอีกแบบหนึ่ง และประสบความสำเร็จ 

“ผมว่าเราคล้ายมาร์เวล คือเอาความเป็นซูเปอร์ฮีโร่เดิมผสมกับความไม่รู้ อย่างผมมีประสบการณ์ด้านอื่นมา ผสมกับรากฐานเดิมของธนาคาร” เรียกว่าได้มุมมองใหม่ มีทั้งความเป็นสถาบันการเงินและไม่ใช่สถาบันการเงิน

โคเวิร์กกิ้งสเปซเชิงทดลอง

อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ การทดลองต้นแบบธนาคาร 24 ชั่วโมงที่สาขาสยามสแควร์ และปรับเปลี่ยนพื้นที่ส่วนหนึ่งของ Business Center ให้เป็นโคเวิร์กกิ้งสเปซที่ได้พาร์ทเนอร์อย่าง Class café มาให้บริการกาแฟ ไปรษณีย์ไทยดูแลและให้คำปรึกษาในแง่ของโลจิสติกส์ wongnai และ GET ในเรื่องของธุรกิจร้านอาหารและเดลิเวอรี 

โดยจะเปิดให้บริการฟรีสำหรับเอสเอ็มอีที่เป็นลูกค้าของไทยพาณิชย์ในการจัดสัมมนา หรือพบปะคู่ค้า และขอคำปรึกษาทางธุรกิจได้แบบครบวงจรในที่เดียว ขณะที่ไทยพาณิชย์เองก็มองว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ลูกค้าอยู่กับธนาคารมากขึ้น และยังต่อยอดไปถึงลูกค้าของลูกค้าอีกด้วย

“ถ้าเราเป็นคนค้าขาย ถ้าจะเข้ามาสถานที่หนึ่ง ต้องมีตัวดึงดูดและเข้ามาทำอะไร พื้นฐานเลยต้องมีร้านกาแฟ แล้วให้เขาเข้ามานั่งทำงานได้จริงๆ มีบริการจากพาร์ทเนอร์เราในเรื่องของโลจิสติกส์ ร้านอาหาร เข้ามาที่เดียวจบ” อภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ไทยพาณิชย์ กล่าว

“คำว่าธนาคารในวันนี้ได้เปลี่ยนไป แน่นอนลูกค้าต้องการบริการทางการเงิน แต่ไม่จำเป็นต้องไปธนาคาร คำถามคือบริการทางการเงินเรามีอยู่แล้ว สาขาเราก็มีอยู่มาก เป็นต้นทุนที่เรารู้อยู่แล้ว อย่างเช่นที่สาขาสยามสแควร์ เราเสียค่าเช่าอยู่แล้ว มีพื้นที่อยู่ ไหนๆ ก็ลองเอามาทำเป็นโคเวิร์กกิ้งสเปซที่เอาบริการทางการเงินมาเป็นส่วนหนึ่ง คือคิดมุมกลับ ไม่ต้องมาธนาคาร แต่มาใช้บริการทางการเงินแบบวันสต็อปเซอร์วิส”

Tags: , , , ,