ปีที่แล้วทั่วโลกแสดงความยินดีเมื่อได้ยินข่าวว่าซาอุดิอาระเบียจะอนุญาตให้ผู้หญิงขับรถได้ กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ 24 มิถุนายนที่จะถึงนี้ แต่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมากลับมีข่าวร้าย เมื่อนักเคลื่อนไหวคนสำคัญอย่างน้อยหกคน ซึ่งสามคนเป็นนักรณรงค์เพื่อสิทธิสตรี ถูกทางการจับกุมตัวไป

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ญาติใกล้ชิดของนักเคลื่อนไหวคนหนึ่งซึ่งถูกควบคุมตัว (ขอปกปิดชื่อเพื่อความปลอดภัย) เปิดเผยว่า มีคนถูกจับไปห้าคนเมื่อวันอังคาร (14 พ.ค.) ส่วนคนที่ 6 ถูกควบคุมตัวเมื่อวันพฤหัสบดี (17 พ.ค.) ตอนนี้มีอีกหลายคนที่กำลังกลัวว่าจะถูกควบคุมตัว และหลายคนถูกรัฐบาลห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ

การปราบปรามนักเคลื่อนไหวครั้งนี้ เกิดขึ้นราวหนึ่งเดือนกว่าก่อนจะถึงวันที่ 24 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่ซาอุดิอาระเบียจะยกเลิกกฎหมายห้ามผู้หญิงขับรถ สำนักข่าวของรัฐบาลซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า ผู้ถูกจับกุมตัวติดต่อกับองค์กรต่างประเทศเพื่อเคลื่อนไหว และบอกว่า ผู้หญิงเหล่านี้ต้องการทำลายความมั่นคงของราชอาณาจักรและทำลายโครงสร้างทางสังคมของชาติ สื่อท้องถิ่นไม่ได้ระบุชื่อของนักเคลื่อนไหวเหล่านี้ แต่ลงพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ว่า ‘ผู้ทรยศ’

ในกลุ่มที่ถูกควบคุมตัวตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พ.ค. คือ ลูเจน อัล ฮัธลูวล์ (Loujain al-Hathloul) เคยถูกจับกุมตัวเมื่อปลายปี 2014 เป็นเวลานานกว่า 70 วัน จากการวิจารณ​์รัฐบาลทางอินเทอร์เน็ตและเรียกร้องสิทธิการขับรถ ตอนนั้นเธอพยายามขับรถข้ามพรมแดนมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

นักสิทธิสตรีที่สำคัญอีกสองคนคือ เอมาน อัล นัฟจัน (Eman al-Nafjan) และอะซิซะห์ อัล ยูเซฟ (Aziza al-Yousef) นักเรียกร้องสิทธิผู้หญิงที่มีชื่อเสียงจากการรณรงค์เรียกร้องให้สิทธิในการขับรถ และทำงานด้านสิทธิมนุษยชนอื่นๆ อีก ทั้งสองคนเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยของรัฐ

ทั้งสามคนนี้ เคยเรียกร้องให้ยุติการเลือกปฏิบัติในสังคมซาอุดิอาระเบีย เช่น กฎหมายคุ้มครองที่ให้ญาติผู้ชายเป็นคนตัดสินใจว่าจะให้ผู้หญิงเดินทางออกนอกประเทศไ้ด้หรือไม่ มีหนังสือเดินทางได้หรือไม่ หรือการแต่งงาน

ซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศเดียวในโลกที่ยังห้ามผู้หญิงขับรถ ตอนที่ซาอุดิอาระเบียประกาศว่าเตรียมจะอนุญาตให้ผู้หญิงขับรถได้ในปี 2018 ทางการติดต่อไปถึงผู้หญิงหลายคน เช่น อัล นัฟจัน และ อัล ยูเซฟ เตือนว่าห้ามให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ หรือแสดงความคิดเห็นทางโซเชียลมีเดีย ผู้หญิงหลายคนต้องออกจากประเทศไปชั่วคราว และบางคนหยุดแสดงความคิดเห็นทางทวิตเตอร์

ขณะที่นักเคลื่อนไหวในประเทศถูกกดดันไม่ให้พูด การปฏิรูปเช่นการยกเลิกการห้ามผู้หญิงขับรถถูกทำให้กลายเป็นผลงานของโมฮัมเหม็ด บิล ซัลมาน มกุฏราชกุมารซาอุฯ วัย 32 ปี พระองค์ได้ผ่อนคลายกฎหมายที่เข้มงวดด้วยการอนุญาตให้ผู้หญิงเข้าไปชมกีฬาได้ในสนาม นำเอาการแสดงคอนเสิร์ตและการฉายภาพยนตร์กลับมา

อย่างไรก็ตาม มาตรการต่างๆ เป็นไปเพื่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและปรับปรุงภาพลักษณ์ของประเทศ ไม่ค่อยเกี่ยวกับการเพิ่มเสรีภาพให้กับประชาชน ซาอุดิอาระเบียยังคงปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ซึ่งการชุมนุมมีความผิดทางกฎหมาย กษัตริย์และโอรสเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องสำคัญของประเทศ

นักเคลื่อนไหวบอกว่า ไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุใดทั้งหกคนนี้ ซึ่งมีผู้หญิงสี่คนและผู้ชายสองคนจึงถูกจับ ผู้ชายที่ถูกจับคนหนึ่งเป็นทนายความซึ่งเคยว่าความให้อัล ฮัธลูวล์

มานัล อัล ชารีฟ (Manal al-Sharif) นักรณรงค์สิทธิสตรีคนสำคัญ ผู้เขียนหนังสือ “Daring to Drive” ที่บอกเล่าประสบการณ์ที่ผลักดันให้เธอออกมาเคลื่อนไหว หลังจากถ่ายวิดีโอตัวเองกำลังขับรถและอัปโหลดลงในยูทูบ ซึ่งตอนนี้อาศัยอยู่ในออสเตรเลีย ทวีตว่า นักเคลื่อนไหวสามคนถูกควบคุมตัวจากบ้านด้วยข้อหากบฏ

ปีที่แล้ว เจ้าชายโมฮัมเหม็ดตรวจสอบการจับกุมเจ้าชายและนักธุรกิจระดับสูงโดยอ้างว่าเป็นกวาดล้างการทุจริต และบังคับให้ผู้ถูกจับกุมต้องมอบทรัพย์สินของพวกเขาเพื่อแลกกับอิสรภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังจับกุมนักเขียน ปัญญาชน และผู้นำศาสนาหลายสิบคน จากการวิจารณ์นโยบายต่างประเทศ

องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนต่างประณามการกระทำของทางการซาอุดิอาระเบีย แอมเนสตี อินเตอร์เนชั่นแนล ภูมิภาคตะวันออกกลางออกแถลงการณ์ประณามการควบคุมตัว “มกุฏราชกุมารนำเสนอตัวเองว่าเป็น ‘นักปฏิรูป’ แต่คำสัญญาของเขาดูจะตื้นเขิน เพราะการจับกุมนักสิทธิมนุษยชนยังคงไม่ลดน้อยลง”

ส่วนองค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวว่า จำนวนผู้ถูกควบคุมตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมว่า จากฐานข้อมูล มีประชาชนถูกควบคุมตัว 2,305 คน ในรอบ 6 เดือนโดยไม่ได้ผ่านการพิจารณาคดีในศาล ส่วนอีก 1,875 คนถูกควบคุมตัว “ไว้สอบสวน” มากกว่า 1 ปี อีก 251 คนถูกควบคุมมามากกว่า 3 ปีแล้ว

 

ที่มาภาพ: REUTERS/Faisal Al Nasser

Tags: , ,