วันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2567) สำนักงานอัยการสูงสุดแถลงความคืบหน้าคดี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยระบุรายละเอียดว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2558 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยคณะทำงานพนักงานสอบสวนเห็นควรสั่งฟ้อง

สำหรับกรณีดังกล่าว อัยการสูงสุดแจ้งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการออกหมายจับและมีคำขอต่อศาลอาญาและออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ทักษิณเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย และถูกควบคุมเพื่อรับโทษในคดีอาญาอื่น พนักงานสอบสวนนำหมายจับไปแจ้งอายัดผู้ต้องหาไว้กับกรมราชทัณฑ์เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ในวันที่ 17 มกราคม 2567 กุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวนและคณะ เข้าแจ้งข้อกล่าวหาและข้อเท็จจริงทางคดีกับทักษิณแล้ว ปรากฏว่าทักษิณให้การปฏิเสธ พร้อมกับยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ซึ่งอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวนส่งบันทึกคำให้การชั้นสอบสวน และหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหาให้กับพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบดำเนินคดีประกอบสำนวนเพื่อส่งให้กับอัยการสูงสุดพิจารณา และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคดีกิจการอัยการสูงสุด ตรวจพิจารณาและทำความเห็นเบื้องต้นเสนออัยการสูงสุด เพื่อพิจารณามีความเห็นและคำสั่งทางคดีต่อไป

ก่อนหน้านี้ วิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปปท.) เปิดหนังสือของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) และหนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ลงวันที่ 19 มกราคม 2567 แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินคดีอาญา มาตรา 112 กับทักษิณและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 โดยระบุว่าจะมีหนังสือแจ้งการอายัดตัวตามหมายจับสำหรับคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว ทักษิณให้สัมภาษณ์กับเดอะโชซอนมีเดีย (The ChosunMedia) ของเกาหลีใต้และมีการถอดความออกมาดังนี้

“คือประเทศไทย ตราบใดที่เขาปล่อยให้ทำงาน ก็ยังมีอำนาจ แต่ถ้าไม่ปล่อยให้ทำงานก็ไม่มีอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองคมนตรีทั้งหลาย ก็เที่ยวนี้ก็ทหารก็จะฟังองคมนตรี เพราะตอนที่เขาไม่ต้องการให้เราอยู่ เขาก็ให้สุเทพออกมา และให้ทหารเข้ามาช่วย และก็มีพวกบางคนจากในวังมาช่วย ซึ่งก็เป็น Palace Circle เป็น Circle เลย ทำให้เราไม่มีอำนาจอะไร ผมก็เลยคุยกับนายกฯ ปูว่า เหตุการณ์เหมือนที่พี่โดนมา

“ทหารเขาอาจจะชื่นชอบประชาธิปไตยแบบพม่า ที่พม่าเลิกแล้ว แต่เขาชอบอย่างนั้นไง เราไม่รู้”

นอกจากนี้ทักษิณยังให้สัมภาษณ์ถึงยิ่งลักษณ์ว่า

“ผมก็ยังตำหนิเขาไป เขาก็ยังอายุน้อย เขาคงโกรธที่ปฏิวัติแบบนี้ เขาก็คงโกรธว่าประเทศไทยมาดีๆ แล้ว แต่เขาคงโกรธนะ เราเป็นครอบครัวสาธารณะ จะพูดอะไรต้องระมัดระวัง”

บทสนทนาเบื้องต้น เป็นส่วนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ของทักษิณ ต่อสื่อเกาหลีใต้ เมื่อปี 2558 โดยเนื้อหาบทสัมภาษณ์ดังกล่าวอ้างอิงมาจากผู้จัดการออนไลน์และ Khaosod English

ซึ่ง Khaosod English เขียนหมายเหตุก่อนอ่านไว้ว่า บทความฉบับนี้ได้รับการแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกลับกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของประเทศไทย ซึ่งห้ามการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ (NOTE TO READERS: This article has been edited to comply with Thailand’s lese majeste law, which bans criticizing the monarchy.)

สำหรับคดีดังกล่าวที่ อสส.สั่งฟ้องเป็นการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรในปี 2558 ที่ พลเอก อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก ในเวลานั้น ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งให้เจ้าหน้าที่กรมพระธรรมนูญแจ้งความเอาผิดทักษิณ

ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ที่จะถึงนี้ จะครบกำหนดเข้าพักโทษกรณีพิเศษ 180 วัน และในช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวกล่าวว่า ทักษิณจะออกเรือนจำวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 มาคอยจับตาดูกันว่า ณ วันนั้น จะมีการอายัดตัวในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือไม่?

Tags: ,