วันนี้ (24 เมษายน 2566) ปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงของคณะก้าวหน้า อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์กับ The Momentum ว่า ขณะนี้ ชัดเจนว่ากระแสพรรคของก้าวไกลกำลังเพิ่มขึ้น และสูงกว่าพรรคอนาคตใหม่ชัดเจน ไม่ใช่แค่เฉพาะในกรุงเทพฯ แต่ในภาคอีสานก็เป็นประชาชนที่มากันโดยธรรมชาติ และหลังจากจบเวทีทุกครั้ง ก็มีประชาชนขอถ่ายรูปร่วมด้วยอีก 2 ชั่วโมงทุกครั้ง คล้ายกับกระแสเมื่อ 4 ปีก่อน

“ปัญหาของพรรคก้าวไกลก็คือ กระแสเหล่านี้ต้องเป็นคะแนน สิ่งที่พรรคก้าวไกลเผชิญอยู่ก็คือชุดความคิดที่ว่าด้วยแลนด์สไลด์ ชุดความคิดที่ว่าด้วยการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ต้องเลือกตั้งด้วยการเอาประยุทธ์ออกไปให้ได้ และชุดความคิดที่ว่าเลือกตั้งไม่กล้ากาทั้งสองใบเพราะกลัวจะแพ้ แต่เราต้องมองการเมืองแบบความหวัง มองการเมืองด้วยความเปลี่ยนแปลง มองการเมืองแบบอนาคต ผมเชื่อว่าถ้าพี่น้องประชาชนเชื่อมั่น รักพรรคก้าวไกล อยากเห็นอะไรใหม่ๆ ในสังคมไทย อยากเปลี่ยนประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิม ก็กาก้าวไกลทั้งสองใบ”

นอกจากนี้ ปิยบุตรยังกล่าวด้วยว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิด Strategic Vote และเชื่อว่าอย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ไม่มีทางได้เป็นนายกรัฐมนตรี

“โจทย์การเลือกตั้งครั้งนี้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่แค่การเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนคุณประยุทธ์ เพราะอย่างไร คุณประยุทธ์ไม่ได้ไปต่ออยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เสียงของพรรคฝ่ายค้านเดิมเกิน 300 อยู่แล้ว ดังนั้น ไม่ใช่โจทย์เปลี่ยนประยุทธ์ ไม่ใช่โจทย์การเลือกตั้งด้วยความกลัวเพราะกลัวว่าพลเอกประยุทธ์จะกลับมาอีกแล้วครับ แต่โจทย์ครั้งนี้คือการเลือกตั้งด้วยความหวัง เพื่อการเปลี่ยนแปลง สังคม เศรษฐกิจ การเมืองไทย ให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงมากกว่า”

ปิยบุตรยังระบุอีกว่า ‘เข้าใจ’ ข้อจำกัดของพรรคการเมืองแต่ละพรรค และขณะนี้บางพรรคอาจมีข้อจำกัดที่ทำให้ไม่กล้าประกาศจุดยืนต่างๆ แต่สำหรับพรรคก้าวไกล ซึ่งเติบโตต่อเนื่องมาจากพรรคอนาคตใหม่ มีการออกแบบพรรคอีกแบบหนึ่ง ซึ่งทำให้ไม่ต้องเกรงกลัวใครในการประกาศจุดยืน

“เราออกแบบพรรคกันแบบนี้ เพื่อให้รู้ว่าถึงวันหนึ่ง เราจะกล้าหาญและแสดงจุดยืนได้อย่างตรงไปตรงมา เพราะเราไม่มีเงื่อนไข ข้อจำกัดใด ที่เราจะต้องไปชดใช้ หรือทวงบุญคุณอะไรกับใคร บุญคุณที่ต้องชดใช้อย่างเดียวคือบุญคุณของประชาชน”

Tags: