กลายเป็นที่ฮือฮาในโลกฟุตบอลอีกครั้ง เมื่อ แอนโทนี (Antony) ปีกขวาสัญชาติบราซิลแห่งสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ถูกตั้งข้อหาในคดีความรุนแรงในครอบครัว โดย กาเบรียลลา คาวาลลิน (Gabriela Cavallin) ดีเจชื่อดังและอดีตภรรยาของนักเตะรายนี้ กล่าวหาว่า แอนโทนีเคยล่วงละเมิดทางเพศ ขู่ฆ่า และทำร้ายร่างกายในช่วงเวลาที่เคยคบหากัน
(ที่มา: AFP)
***Trigger Warning บทความนี้พูดถึงการล่วงละเมิดทางเพศ การทำร้ายร่างกาย สภาวะแท้ง และการบงการในความสัมพันธ์
จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์: การเปิดเผยของคาวาลลินและข้อแก้ตัวของแอนโทนี
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวอื้อฉาวเกิดขึ้นช่วงเดือนมิถุนายน 2023 คาวาลลินเข้าแจ้งความ 3 ข้อหา กับสถานีตำรวจในเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล ได้แก่ การล่วงละเมิดทางเพศ การทำร้ายร่างกาย และการข่มขู่
(ที่มา: The Sun)
มีการเปิดเผยเอกสารฟ้องร้องจากอีเอสพีเอ็น (ESPN) สื่อกีฬาอเมริกัน โดยคาวาลลินอ้างว่า เธอมีความสัมพันธ์กับแอนโทนีเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปี และถูกทำร้ายร่างกาย ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022 โดยเป็นสรุปไทม์ไลน์ดังนี้
– มิถุนายน 2022 ความรุนแรงครั้งแรกเกิดขึ้น เมื่อคาวาลลินบอกเลิกกับแอนโทนีในไนต์คลับแห่งหนึ่งของเซาเปาโล เธออ้างว่าแอนโทนีลากเธอออกจากคลับ พร้อมดึงแขนและผมของเธอ ก่อนจะขับรถด้วยความเร็วเพื่อพาเธอกลับบ้าน ซึ่งในเวลานั้น คาวาลลินตั้งท้องได้ 17 สัปดาห์
– 21 กรกฎาคม 2022 คาวาลลินแท้งลูก ในรายงานไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน
– ในบทสัมภาษณ์กับ Record TV สื่อบราซิล เธอเปิดเผยบางส่วนว่า ก่อนหน้านี้แอนโทนีโยนเธอบนเตียง และทับตัวจนซิลิโคนหน้าอกหลุดออกมา ทำให้เธอต้องเข้ารับการรักษาและเย็บบาดแผลถึง 40 เข็ม โดยแอนโทนีข่มขู่ว่า หากเธอหนีไป เขาจะฆ่าเธอกับลูกในท้องด้วยการโยนออกจากรถ
– ต่อมา เธอคืนดีกับแอนโทนีและย้ายไปกลับอยู่เนเธอร์แลนด์ เมื่อครั้งนักเตะรายนี้ยังอยู่สโมสรอาแจ็กซ์ (Ajax) ก่อนจะย้ายไปอยู่อังกฤษ หลังแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเซ็นสัญญาในเดือนกันยายน 2022
– จนกระทั่ง 15 มกราคม 2023 แอนโทนีต่อยที่หน้าอกของคาวาลลิน จนซิลิโคนของเธอพัง เธออ้างว่า มีแพทย์ในสโมสรเข้ามาพบ และต้องรับการผ่าตัดในเดือนเมษายน 2023
– มีการเปิดเผยการทำร้ายร่างกายอีก 2 ครั้งในประเทศอังกฤษ คาวาลลินเผยว่า มีพยานคือเพื่อนของเธอและแม่ของแอนโทนี
– สำหรับครั้งที่ 4 คาวาลลินได้รับบาดแผลที่นิ้วมือ เพราะยกมือป้องกันตัว หลังแอนโทนีพยายามใช้แก้วฟาดที่หน้าของเธอ อีกทั้งยังพยายามพังโทรศัพท์เพื่อไม่ให้ขอความช่วยเหลือ แต่เธอรอดมาได้ เนื่องจากนักกายภาพบำบัดของแอนโทนีพาเธอไปหาหมอ
– 20 พฤษภาคม 2023 แอนโทนีส่งข้อความหาคาวาลลิน หลังเดินทางกลับบราซิลว่า หากเขาเห็นเธออยู่กับใคร เขาจะฆ่าเธอ
– คาวาลลินยังเปิดเผยความกลัวว่า นักเตะรายนี้เข้าถึงปืนได้ และเขาอาจทำอะไรบางอย่างกับเธอ
“เขาทำลายข้าวของ เอากระเป๋า พาสปอร์ตของฉันไป เขาพังโทรศัพท์ของฉัน เขาไม่ยอมให้ฉันไปไหนทั้งนั้น
“ฉันใช้ชีวิตเหมือนนักโทษตั้งแต่ 4 ทุ่มของวันก่อน ยันเกือบบ่าย 3 ครึ่งของอีกวัน ฉันแค่อยากจะออกไปข้างนอก แต่แอนโทนีกลับบอกฉันว่า เขาไม่ให้ฉันไปไหน จนกว่าจะลบทุกอย่างทิ้ง” คาวาลลินเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และให้นัยสำคัญว่า แอนโทนีมีปัญหาเรื่อง ‘ความหึงหวง’ จนผิดปกติ เขาพยายามทำร้ายร่างกายเธอ โดยกล่าวหาว่า เธอกดไลก์รูปของ ‘เนย์มาร์’ (Neymar) แข้งร่วมชาติของแอนโทนี
“นั่นมันตั้ง 4 ปีที่แล้ว ฉันยังไม่รู้เลยว่าแอนโทนีอยู่ไหน แล้วคุณรู้ไหมว่าแอนโทนีก็จับจ้องฉันตลอด” คาวาลลินอธิบายและเสริมว่า แอนโทนีชอบส่องอินสตาแกรม ดูภาพเก่าๆ ที่เธอเคยกดไลก์หรือคอมเมนต์ ก่อนยืนยันว่า เธอจะเดินทางไปอังกฤษเพื่อเข้าแจ้งความเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด
บาดแผลบนร่างกายของคาวาลลิน
ขณะเดียวกัน วันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา แอนโทนีออกมาปฏิเสธในอินสตาแกรมว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง
“ผมพูดได้อย่างมั่นใจว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นเท็จ และหลักฐานที่ตรวจสอบแล้วก็แสดงให้ผมเห็นว่า ผมบริสุทธิ์” ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ปฏิเสธ
จาก ‘กรีนวูด’ สู่ ‘แอนโทนี’: เสียงวิจารณ์จากแฟนบอลถึงวิกฤตศรัทธาของปีศาจแดง
“แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดรับทราบข้อกล่าวหาต่อแอนโทนี และจับตามองการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“ระหว่างรอคอยกระบวนการสอบสวนเพิ่มเติม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจะไม่ขอออกความเห็นใดๆ ที่มากกว่านี้
“ในฐานะสโมสร เราจะจัดการกับปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยคำนึงถึงผลกระทบของการฟ้องร้องและผลที่ตามมาต่อเหยื่อ”
เหล่านี้คือแถลงการณ์จากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่สร้างความไม่พอใจในหมู่แฟนบอลมาก เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น
หากย้อนกลับไปในช่วงเดือนมกราคม 2022 เมสัน กรีนวูด (Mason Greenwood) อดีตดาวรุ่งอนาคตไกลของสโมสร ถูก แฮร์เรียต ร็อบสัน (Harriot Robson) ภรรยาคนปัจจุบัน เปิดเผยว่า เขาทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศเธอ พร้อมหลักฐานที่ประจักษ์ด้วยคลิปเสียงและรูปภาพของร่างกายร็อบสัน ที่เต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลฟกช้ำทั่วร่างกาย
“กูไม่สนใจว่ามึงอยากจะมีเซ็กซ์กับกูไหม อิสารเxx” ส่วนหนึ่งของคลิปเสียงที่ถูกเปิดเผย
สโมสรจึงออกคำสั่งระงับการลงแข่งในสนาม รวมถึงการซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเมื่อหลักฐานปรากฏ จนกระทั่งกลางปี 2023 ร็อบสันตัดสินใจยกฟ้องและกลับมาคืนดีกับกรีนวูด
ท่ามกลางความสงสัยของใครหลายคน ทว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกลับสร้างความ ‘ผิดพลาดครั้งใหญ่’ หลัง ดิแอตแลนติก (The Atlantic) รายงานว่า สโมสรพยายามดึงกรีนวูดกลับมา ท่ามกลางเสียงคัดค้านของสตาฟบางส่วน นักเตะทีมหญิง และแฟนบอล เพราะต่อให้ไม่ได้รับความผิดตามกฎหมาย แต่การกระทำของกรีนวูดเป็นความผิดที่ปฏิเสธไม่ได้ อีกทั้ง ‘ภาพลักษณ์’ ขององค์กรที่สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ ได้รับความเสียหายครั้งใหญ่
“ผิดหวังกับสถานการณ์ที่ยูไนเต็ดจัดการ พวกเขาควรตัดสินใจให้ดีกว่านี้ และแสดงพลังเสียงสนับสนุนเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว การคุกคามทางเพศ และการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อตรง (…)” แอนดริว เวสเทิร์น (Andrew Western) ส.ส.จากพรรคแรงงานอังกฤษ (Labour Party) ทวีตข้อความ
ยังไม่รวมถึงการจัดการกับแฟนบอลบางส่วน หลังมีการเปิดเผยว่า ทีมฟุตบอลหญิงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดถูกคุกคามจากแฟนบอลที่สนับสนุนกรีนวูด เพราะพวกเธอออกตัวว่า ไม่พอใจกับการกลับมาของนักเตะที่มีพฤติกรรมร้ายแรง
เช่นเดียวกับการจัดการวิกฤตครั้งนี้ที่ล่าช้าเป็นพิเศษ เมื่อทีมชาติบราซิลตัดสินใจปลดแอนโทนีออกจากทีม หลังปรากฏหลักฐานในหน้าสื่อและมีการดำเนินคดีอย่างเป็นทางการ แต่ปีศาจแดงกลับนิ่งเฉยและแสดงท่าทีว่า ไม่ขอพูดอะไรจนกว่าทุกอย่างจะแน่ชัด
กรณีดังกล่าวทำให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดถูกวิจารณ์ ถึงการจัดการวิกฤตในเบื้องหน้าที่ย่ำแย่อีกครั้ง ทีมปีศาจแดงไม่เพียงแต่สูญเสียภาพลักษณ์และบารมีที่สั่งสมมานานนับตั้งแต่ยุคของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (Sir Alex Ferguson) บรมกุนซือในตำนานที่หล่อเลี้ยงสโมสรแห่งนี้ด้วยรางวัลและความสำเร็จมากมาย แต่ยังรวมไปถึง ‘การรักษาความรู้สึก’ ของเหยื่อ สตาฟเก่าแก่ แฟนบอลเด็กและผู้หญิงมากมาย หรือแม้แต่สังคมบางส่วนที่คลั่งไคล้และได้รับแรงผลักดัน จากพฤติกรรมนักเตะของสโมสร
(ที่มา: AFP)
“การที่มีข่าวจากสโมสรว่ากรีนวูดจะย้ายออก มันช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับเหยื่อจากความรุนแรงในครอบครัวได้มาก” Women’s Aid หน่วยงานต่อต้านความรุนแรงในครอบครัวต่อเด็กและผู้หญิงออกโรงวิจารณ์ และเสริมว่า สโมสรแห่งนี้ต้องเป็นแบบอย่างให้ทั่วโลกเห็นความผิดจากการล่วงละเมิดทางเพศ และความรุนแรงในครอบครัว
ไม่ใช่แค่แอนโทนีและกรีนวูด: วงการฟุตบอลกับ ‘ความเงียบงัน’ ที่ดังที่สุด เมื่อเกิดเรื่องอื้อฉาวทางเพศ
หากย้อนกลับไป ไม่ใช่แค่แอนโทนีและกรีนวูด แข้งสองรายจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่มีเรื่องอื้อฉาว เพราะยังมีนักเตะหรือบุคลากรอีกจำนวนมากที่ตกอยู่ในข้อหาร้ายแรง ทว่าพวกเขากลับมีที่ยืนในวงการอย่างภาคภูมิ และได้รับการปกป้องจากเพื่อนพ้องนักเตะด้วยกันเอง
มิหนำซ้ำ ปรากฏการณ์ดังกล่าวยังเกิดขึ้นกับแฟนบอลบางส่วน พฤติกรรมย่ำแย่กลายเป็นมีมขำขัน สร้างความสนุกในโลกอินเทอร์เน็ตและความคิดเห็นในโลกออนไลน์ ที่ออกโรงตำหนิเหยื่อและผู้เห็นใจอีกมากมาย
‘นักเตะยังเด็ก เดี๋ยวต่อไปก็เรียนรู้ได้เอง ไม่เห็นต้องตัดอนาคตกันเลย’
‘เสียดายมาก เด็กมันเก่ง แต่ผู้หญิงคนนี้ทำอนาคตของน้องพังแท้ๆ’
‘แฟนบอลทีมหญิงมายุ่งอะไรกับเรื่องของผู้ชาย’
แม้ไม่มีใครให้คำตอบอย่างแน่ชัดว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจากอะไร แต่ แม็ก รัชเดน (Max Rushden) ผู้จัดการรายการพอดแคสต์ Football Weekly ประจำเดอะการ์เดียน (The Guardian) ทิ้งความคิดเห็นไว้อย่างน่าสนใจว่า อาจเป็นเพราะกีฬาฟุตบอลห่างไกลจาก ‘ศีลธรรม’ ในชีวิตประจำวันมากกว่ากีฬาอื่นๆ เมื่อความสนใจของทุกคนอยู่ที่สถิติและความสำเร็จ มากกว่าเรื่องราวของนักเตะนอกสนาม
ข้อคิดเห็นดังกล่าวสะท้อนผ่านเรื่องราวของ มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) กองหน้าคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่มีเรื่องราวดีๆ นอกสนามเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก หรือการได้รับรางวัล Pride of Manchester Special Recognition เพราะเรียกร้องไม่ให้รัฐบาล ‘ยกเลิกอาหารกลางวันฟรี’ สำหรับเยาวชน
(ที่มา: AFP)
ทว่าเขากลับถูกถล่มจากแฟนบอลปีศาจแดงมากกว่าคำชื่นชม เนื่องจากผลงานในสนามไม่ดีดังที่เคยเป็น บางคนถึงกับวิจารณ์ว่า ให้เขาเลิกสนใจการช่วยเหลือสังคม และหันกลับมาพัฒนาผลงานในสนามเสียดีกว่า
นอกจากนี้ บทบาทครอบงำวงการฟุตบอลของผู้ชาย ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความอื้อฉาวกลายเป็นความเงียบงัน เมื่อผู้กระทำความผิดส่วนใหญ่คือกลุ่มผู้ชายที่มีอำนาจ ได้พยายามปกปิดเรื่องราวและฟอกขาวความผิด เสมือนไม่มีอะไรอะไรเกิดขึ้น
เช่นเดียวกับดราม่าการล่วงละเมิดทางเพศระหว่าง เจนนีเฟอร์ เอร์โมโซ (Jennifer Hermoso) นักเตะหญิงทีมชาติสเปน กับหลุยส์ รูเบียเลส (Luis Rubiales) ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปน ที่ยังไม่มีท่าทีคลี่คลาย และนับเป็นจุดเริ่มต้นแคมเปญ ‘Me too’ เพื่อเปิดโปงความอื้อฉาวในวงการฟุตบอล หลังนักเตะหญิงหลายคนเริ่มลุกขึ้นมาบอกเล่าสิ่งที่พวกเธอเคยเผชิญ โดยเฉพาะการคุกคามทางเพศ
(ที่มา: AFP)
(ที่มา: AFP)
ปัจจุบัน มีความพยายามเปลี่ยนแปลงความนิ่งเงียบในวงการฟุตบอลด้วยการฝึกอบรม เมื่อพรีเมียร์ลีก (Premier League) พยายามสอนเรื่อง ‘การยินยอม’ (Consent) ในหมู่นักเตะในช่วงกลางปี 2022
โดยทางการระบุว่า การให้ความยินยอมทางเพศเป็นสิ่งสำคัญ และวงการฟุตบอลในฐานะสิ่งที่มีอิทธิพลต่อสังคม ก็เป็นส่วนสำคัญที่ต้องรับผิดชอบต่อปัญหาไม่ต่างจากภาพยนตร์หรือสื่อบันเทิงอื่นๆ
ทว่าปรากฏการณ์นี้ก็เป็นคำถามที่ทิ้งให้ชวนขบคิดต่อในช่วงท้ายว่า วิธีการนี้จะตอบสนองวิกฤตที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ เมื่อความรุนแรงทางเพศในหมู่นักฟุตบอลเกาะอังกฤษ ยังปรากฏให้เห็นผ่านหน้าสื่อเป็นประจำ
อ้างอิง
https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/man-utd-antony-abuse-allegations-30272655
https://www.glamourmagazine.co.uk/article/mason-greenwood-manchester-united-protest
https://www.thesun.co.uk/sport/23818275/five-shocking-allegations-antonys-ex-gabriela-cavallin/
https://twitter.com/BrasilEdition/status/1698745516622741637
https://www.bbc.com/thai/international-54677097
Tags: พรีเมียร์ลีก, การล่วงละเมิดทางเพศ, ฟุตบอล, ผู้หญิง, premier league, domestic violence, ความรุนแรงในครอบครัว, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนยู, แอนโทนี, Antony, เมสัน กรีนวู้ด, Mason Greenwood, ความรุนแรงในผู้หญิง
