วันนี้ (26 มิถุนายน 2567) ที่ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค ฟอรั่ม อาคาร 4 เมืองทองธานี อิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวก่อนการลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ชุดใหม่ ระดับประเทศ โดยระบุว่า บรรยากาศวันนี้เป็นไปอย่างเรียบร้อย และคาดว่าการลงคะแนนเสียงจะแล้วเสร็จประมาณ 17.00 น. ไม่เกิน 18.00 น.
อิทธิพรกล่าวว่า จากการรายงานตัวในช่วงเช้าที่ผ่านมา ทุกกระบวนการเป็นไปอย่างเรียบร้อยดี ผู้สมัครจาก 20 กลุ่มอาชีพ ส่วนใหญ่มารายงานตัวจนเกือบครบ 2,995 ราย ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ของ กกต.มีความพร้อม และยังไม่พบปัญหาใด
ขณะที่กระบวนการการเลือก ส.ว.ในวันนี้ อิทธิพรระบุว่า จะแบ่งเป็น 2 รอบ โดยในช่วงเช้าจะเริ่มลงคะแนนเวลาประมาณ 09.30 น. คาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที หลังจากนั้นจะให้ผู้สมัครรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนจะดำเนินการลงคะแนนในรอบที่ 2 ในช่วงบ่าย โดยจะมีการจับฉลากแบ่งสายและแจกเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครเพื่อให้ได้ศึกษา คาดว่าจะแล้วเสร็จกระบวนการทั้งหมดประมาณ 17.00-18.00 น.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีแชตไลน์ที่ผู้สมัครลงคะแนนให้กัน ประธาน กกต.ตอบว่าได้เห็นประเด็นนี้มาจากการรายงานของสื่อ แต่หากดูที่กฎหมายคือ ห้ามผู้สมัคร ส.ว.ทำโพลเท่านั้น ถ้าเป็นเรื่องเสนอของการแสดงความคิดเห็นทำได้ แต่แนวปฏิบัติของ กกต.หากมีข้อพิรุธประการใด ก็จะทางสำนักงานฯ ก็จะมีการร้องเรียนมาให้ กกต.ตัดสิน
และจากกรณีที่เมื่อวานนี้ (25 มิถุนายน 2567) มี 300 ผู้สมัครจัดเสวนาลับ ผู้สื่อข่าวถามขั้นตอนมาตรฐานการดำเนินการต่อประธาน กกต.ว่าเป็นอย่างไร อิทธิพรให้คำตอบว่า “จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏเป็นการจัดเพื่อมาชี้แจงข้อเท็จจริง เป็นการจัดอย่างเปิดเผย แต่กฎหมายไม่ได้ห้าม แต่ทุกเหตุการณ์ กกต.ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปติดตามอย่างเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีการฝ่าฝืนกฎหมาย ถามว่าการล็อบบี้เป็นการให้ผลประโยชน์หรือไม่ ถ้าเป็นการนำเสนอระหว่างคนที่เกี่ยวข้องว่า ตัวเองมีคุณสมบัติที่เหมาะสม ผมมองว่าเป็นเรื่องปกติ”
สำหรับขั้นตอนของการเลือก ส.ว.ระดับประเทศจะแบ่งออก 2 รอบการเลือก ดังนี้
รอบที่ 1 (ช่วงเช้า) จะเป็นการ ‘เลือกกันเอง’ ภายในกลุ่มอาชีพ โดยผู้สมัครจะมีสิทธิลงคะแนนให้ผู้สมัครในกลุ่มได้ทั้งหมด 10 คน และสามารถลงคะแนนเสียงให้ตนเองได้ โดยจะมีผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุด 40 คนแรกของกลุ่มเข้าสู่รอบถัดไป กล่าวคือจะมีผู้สมัคร ส.ว. 800 คนในรอบแรกที่ผ่านการคัดเลือกในรอบที่ 1
หลังจากนั้นผู้ที่ถูกคัดเลือกภายในกลุ่มจะส่งตัวแทนเพื่อไปจับฉลาก ‘เลือกสาย’ โดยจะแบ่งไม่เกิน 4 สาย สายละ 5 กลุ่มอาชีพ เพื่อลงคะแนนต่อในรอบที่ 2
ในรอบที่ 2 (ช่วงบ่าย) จะเป็นการ ‘เลือกไขว้กลุ่มอาชีพอื่นในสายเดียวกัน’ โดยผู้สมัครจะได้ใบลงคะแนนเสียง 4 ใบ แบ่งเป็น 5 ช่องคะแนนเสียง ดังนั้นผู้สมัครสามารถลงคะแนนเสียงในกลุ่มอาชีพอื่นได้ถึง 20 โหวต โดยห้ามลงคะแนนให้กับกลุ่มอาชีพของตน และหลังจากนั้นผู้ที่ได้รับการเลือกเป็น ‘ส.ว.’ จะต้องได้รับคะแนนสูงสุด 1-10 ของแต่ละกลุ่มอาชีพ
Tags: กกต., เลือก ส.ว.