เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า รัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน และรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ต่างก็ใส่ใจปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างจริงจัง และเร่งแก้ไขอย่างยั่งยืน ตั้งแต่แพทองธารเป็นนายกฯ ได้กำหนดให้ PM2.5 เป็นวาระแห่งชาติและได้แถลงต่อสภาฯ แห่งนี้ ไปแล้ว
“หลายคนอาจบอกว่า ทำไมไม่เตรียมความพร้อม รัฐบาลนี้มีแต่การสั่งการ แต่ไม่มีการปฏิบัติ ซึ่งข้อเท็จจริงคือเราได้แสดงความพร้อมมาตลอดสำหรับแนวทางแก้ไข แต่ปัญหาฝุ่น เป็นปัญหาเรื้อรังและเกี่ยวข้องในหลากหลายมิติ จึงไม่สามารถแก้ไขอย่างรวดเร็วและทันใจ”
อย่างไรก็ตามสิ่งที่รัฐบาลได้ทำมาตลอดตั้งแต่เดือนธันวาคม คือนายกฯ มีคำสั่งให้บูรณาการทุกภาคส่วนราชการให้แก้ไขปัญหาฝุ่นควันที่กำลังกระทบต่อประชาชน จากนั้นยังมีมาตรการที่เห็นชัดและต่อเนื่อง เช่น การลดพื้นที่การเผาในพื้นที่โล่งแจ้ง การใช้มาตรการภาคการเกษตรโดยการไม่รับซื้อสินค้าเกษตร ทั้งอ้อยและข้าวโพดที่มาจากพื้นที่เผาทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2567 โดยสถิติที่แน่นอนและแน่ชัด เมื่อเทียบอัตราฝุ่นเดือนเดียวกัน ปีเดียวกัน ก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะเข้ามาบริหารพบว่า อัตราของ PM2.5 ลดต่ำลง เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการที่ชัดเจน
“แต่เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันมีความแตกต่าง มวลอากาศและการเปลี่ยนแปลงของ Climate Change ทำให้อากาศลดต่ำลง และอุณหภูมิความหนาวเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมายังประเทศไทยนานขึ้น เราจึงเจอสภาวะ PM2.5 ที่หนักกว่าเดิม”
ลิณธิภรณ์ยังระบุด้วยว่า ก่อนที่นายกฯ จะไปประชุมนานาชาติที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้สั่งให้ทุกภาคส่วนดำเนินการในหลายเรื่อง เช่น สั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งควบคุมไฟป่า ให้กระทรวงอุตสาหกรรมมีมาตรการจริงจัง เช่นควบคุมให้โรงงานไม่รับซื้ออ้อยเผาที่ตกลงกันไม่เกินกว่า 25% หรือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกนโยบายให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เผาในพื้นที่โล่งแจ้ง และกรมฝนหลวงแก้ปัญหาอากาศปิด
ขณะเดียวกันกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยังมีมาตรการชัดแจ้งเรื่องการทำงานที่บ้าน กองทัพอากาศมีมาตรการเรื่องเร่งดับไฟ กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง ขณะที่กระทรวงคมนาคมมีมาตรการคมนาคม กวดขัน จับกุมรถยนต์ที่มีควันดำใน 14 จุดทั่วกรุงเทพฯ อีกทั้งรัฐบาลยังมีมาตรการด้านเทคโนโลยี ให้พัฒนาแพลตฟอร์มฐานข้อมูลกลาง Hot Spot เพื่อแจ้งเตือนเฝ้าระวังภัย ส่วนกระทรวงการต่างประเทศได้เร่งประสานกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นควัน
ลิณธิภรณ์ยังระบุด้วยว่า ในรัฐบาลที่แล้ว รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคเพื่อไทยได้เสนอกฎหมาย ‘อากาศสะอาด’ และถูกผลักดันอีกรอบในรัฐบาลเศรษฐา ซึ่งสะท้อนความจริงใจ ความไม่นิ่งนอนใจของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งทั้งหมดสะท้อนว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้เพิกเฉยต่อปัญหาดังกล่าว
Tags: เพื่อไทย, PM 2.5, ฝุ่น