วันนี้ (14 มิถุนายน 2565) ที่รัฐสภา เกียกกาย ออน กาจกระโทก ส.ว. กล่าวในวาระหารือตอนหนึ่งว่า ถึงกรณีที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2566 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เรื่องวงเงินงบประมาณสำหรับข้าราชการบำนาญ ว่า “สูงเกินไป และเปรียบเสมือน ‘ช้างป่วย’ และทุกๆ หนึ่งบาทที่เก็บภาษี กู้มา กลายเป็นเงินเดือน สวัสดิการ เพื่อข้าราชการบำนาญ จนทำให้ตลอดสิบปีที่ผ่านมา เงินที่ใช้กับบำนาญ เพิ่มขึ้น 2 เท่า จากปี 2557 อยู่ที่ 1.4 แสนล้าน ปี 2564 อยู่ที่ 3 แสนล้าน ปี 2566 อยู่ที่ 3.22 แสนล้าน และหากมีข้าราชการเกษียณ 1.2 ล้านคน จะใช้งบไปกับข้าราชการบำนาญไปมหาศาล หากปล่อยไปแบบนี้ ประเทศจะพัฒนายาก” จึงอยากตั้งคำถามไปถึงพิธาว่าข้าราชการบำนาญ คือตัวถ่วงความเจริญของชาติบ้านเมืองกระนั้นหรือ เป็นช้างป่วยกระนั้นหรือ
“ผมจึงอยากจะกราบเรียนถึงท่านพิธา และประชาชนทั้งประเทศ ว่าคำพูดของคุณพิธาเป็นสิ่งที่สร้างความชอกช้ำ ทิ่มแทงดวงใจให้ข้าราชการบำนาญทั้งประเทศ เหมือนถูกเหยียดหยามว่าเงินบำนาญที่จ่ายให้กับข้าราชการบำนาญ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เหมือนช้างป่วย เป็นปัญหาของการพัฒนาประเทศ
“คนพูดไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้ ว่าความเป็นมาของข้าราชการ กว่าจะได้รับเงินบำนาญ ต้องรับราชการไม่น้อยกว่า 25 ปีนะครับ แล้วการรับราชการให้ได้รับเบี้ยหวัดบำนาญ มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 และมีพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือนในสมัย ร.7 พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อข้าราชการ โดยถือหลักว่าข้าราชการทำงานต่างพระเนตรพระกรรณ เป็นงานบริการสาธารณะ เป็นข้าแห่งราช หรือข้าแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำงานเพื่อส่วนรวม เพื่อผืนแผ่นดินไทย ทำงานเพื่อส่วนรวม เพื่อประโยชน์ชาติบ้านเมืองให้ประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข ข้าราชการเป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนประเทศ ทั้งด้านการศึกษา เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ทำให้ประเทศก้าวหน้ามาถึงวันนี้ คิดเป็นมูลค่าไม่รู้ประมาณได้เท่าไร”
ออน ยังบอกอีกว่า เงินเดือนที่ข้าราชการแรกรับนั้น ถือว่าได้รับน้อยนิด น้อยกว่าเอกชนถึงครึ่งหนึ่ง และที่ผ่านมา คนเป็นข้าราชการเองต้องตัดสินใจให้ดี โดยทุกคนพูดตรงกันว่า หากอยากร่ำอยากรวย ต้องอย่าเป็นข้าราชการ ทั้งนี้ คนเป็นข้าราชการทำงาน 24 ชั่วโมง เสียสละเพื่อบ้านเพื่อเมือง ไม่มีเสาร์ – อาทิตย์ ได้รับคำสั่งเมื่อไรก็ 24 ชั่วโมง เพื่อหวังว่าบั้นปลายชีวิตจะมีเงินบำนาญพอเลี้ยงชีพ
“กราบเรียนไปถึงนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าวันนี้ ข้าราชการเสียขวัญกำลังใจมาก เกรงว่าฝ่ายการเมืองจะไปปรับ ลด งบประมาณ ในการจ่ายบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และนำมาซึ่งความเดือดร้อนของครอบครัวข้าราชการบำนาญ เพราะมีหนี้สิน มีภาระในการชดใช้ มีลูกหลานที่จะต้องศึกษาเล่าเรียน มีเงินพอจะได้เลี้ยงชีพ ยามเจ็บป่วย ก็จะได้ไปหาหมอ แต่หากมีการตัดหรือลด ก็จะเกิดความลำบาก อยากให้นายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ยินยันว่าจะไม่ตัดหรือลดเงินข้าราชการ และควรหาแนวทางในการสร้างขวัญกำลังใจให้ข้าราชการ ในการมีส่วนที่จะพัฒนาประเทศ”
ออน ยังบอกอีกว่า มีข้าราชการบำนาญฝากมาว่าถ้าคิดลดรายจ่ายของประเทศ ขอให้ตัดบำเหน็จบำนาญฝ่ายการเมืองก่อนที่จะตัดบำเหน็จบำนาญข้าราชการต่อไป
สำหรับกรณีดังกล่าว พิธา ได้ตอบจดหมายข้าราชการบำนาญ พร้อมกับชี้แจงว่า ไม่ได้ต้องการตัด ลด หรือปรับ งบสวัสดิการข้าราชการบำนาญ แต่ต้องออกมาพูด เพราะหากไม่พูดก็จะสายเกินแก้ และอาจเกิดปัญหาในอนาคต หากรัฐบาลไม่สามารถหารายได้ ให้สอดคล้องกับรายจ่ายในอนาคต
Tags: Report, ส.ว., พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ออน กาจกระโทก, ขรก.บำนาญ