วันนี้ (19 ธันวาคม 2566) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นำโดย ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ออกแถลงข่าวหลังเกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีการเอาเปรียบผู้บริโภค ราคาแพ็กเกจแพงขึ้น และคุณภาพสัญญาณเครือข่ายลดลง จนนำไปสู่คำถาม ‘กสทช.มีไว้ทำไม?’ ภายหลังการควบรวมธุรกิจระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทรู และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค พบว่าคุณภาพสัญญาณดีและมีราคาเฉลี่ยลดลง

ไตรรัตน์กล่าวต่อว่า ภายหลังการควบรวมทรู-ดีแทค ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ กสทช.ระบุ จึงส่งผลให้อัตราค่าบริการเฉลี่ยลดลงถึง 12% โดยใช้วิธีการเฉลี่ยราคาใหม่ผ่านการถ่วงน้ำหนักตามจำนวนผู้ใช้บริการในแต่ละรายการส่งเสริมการขาย (Weighted Average) ภายใน 90 วันหลังจากมีการควบรวม ส่วนโปรโมชันแพ็กเกจ 299 บาท ที่หลายคนกล่าวว่าแพ็จเกจนี้หายไป อันที่จริงแล้วแพ็กเกจนี้ยังอยู่ เพียงแต่เมื่อลูกค้ารายเก่าครบกำหนดก็จะมีข้อความส่งไปแจ้งเตือนว่า แพ็กเกจหมดอายุ ซึ่งจะให้ผู้บริโภคตัดสินใจเองว่า จะต่อแพ็กเกจเดิมหรือเลือกแพ็กเกจใหม่ และแพ็กเกจจะมีการเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามกลยุทธ์การตลาดของแต่ละบริษัท

“ส่วนลูกค้าใหม่ที่ไม่เห็นแพ็กเกจราคา 299 บาท ในท้องตลาด ถ้าถามเขาก็จะบอกให้ แต่ถ้าไม่ได้ถาม เขาจะโชว์หรือไม่โชว์ อันนี้ผมก็ไม่ทราบได้ แต่ยังมีแพ็กเกจนั้นอยู่แน่นอน” ไตรรัตน์กล่าว

ส่วนคุณภาพสัญญาณตามเงื่อนไข กสทช.ระบุไว้ว่า ต้องไม่ลดจำนวนสื่อสัญญาณหรือที่ตั้งเซลล์ไซต์ ซึ่งเป็นสถานที่ติดตั้งเครื่องรับส่งสัญญาณ เพื่อรักษาคุณภาพและมาตรฐานบริการ โดยที่ผ่านมาในอดีต บ้านหนึ่งหลังมีโทรศัพท์ 3 ค่าย จะมีเสาสัญญาณรอบบ้าน ก็มีการร้องเรียนมาโดยตลอด กสทช.จึงกำหนดให้มีการ Co-Sharing เมื่อทรูและดีแทคควบรวมกัน จึงมีการยุบเสาสัญญาณ โดยโยกเซลล์ไซต์จากเสาหนึ่งไปอีกเสาหนึ่ง

“ผมก็ตำหนิเขาไปว่า ควรจะบอกผู้บริโภคก่อนที่คุณจะเคลื่อนย้าย ดังนั้น บางครั้ง บางเวลา บางจุด การโทรติดต่อหรือการส่งข้อมูลจะทำให้อินเทอร์เน็ตช้าลง เพราะมีการเคลื่อนย้ายเซลล์ไซต์ เขาก็ยอมรับ ผมก็บอกเขาว่า หลังจากนี้ต้องมีการแจ้งเตือนว่าจะเคลื่อนย้ายวันไหน แต่ภาพรวมความเร็วไม่ได้ลดลง

ในส่วนข้อร้องเรียนที่ตามกระแสข่าวแจ้งว่า ก่อนควบรวมทรู-ดีแทคมีข้อร้องเรียน 944 เรื่อง ประกอบด้วยของทรู 637 เรื่อง และดีแทคจำนวน 307 เรื่อง (มกราคม-4 สิงหาคม 2566) ภายหลังควบรวมมี 836 เรื่อง (4 สิงหาคม-30 พฤศจิกายน 2566) แต่ดูแล้วมีเรื่องเกี่ยวกับคุณภาพสัญญาณเพียง 17 เรื่อง

“ขอเรียนย้ำว่า การควบรวม สำนักงานไม่ได้เพิกเฉย คอยติดตามเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคอยู่แล้ว สิ่งหนึ่งที่สำนักงานพูดและกล้ายืนยัน ณ ที่นี้ว่า อะไรที่ทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อน เราไม่เคยคิดจะทำ เราต้องดูแลให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม ดูแลทั้งผู้บริโภค ผู้ให้บริการ และตลาด เราจะดูแลทุกอย่าง เพราะฉะนั้น ไม่มีการเพิกเฉยแน่นอน แต่ข้อมูลที่นำไปเปิดเผยอาจมีการใช้ข้อมูลแล้วนำไปสื่อให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้ วันนี้จึงมาชี้เแจง” ไตรรัตน์ทิ้งท้าย

Tags: , , , , , , , ,