“เราสามารถเป็นกลางในสังคมที่บิดเบี้ยวแบบนี้ได้จริงหรือ” ก้าวไกลโต้ตอบแถลงการณ์สมาคมฟ้าสีรุ้ง

“ในสังคมที่บิดเบี้ยวเราต่างต้องชัดเจนในจุดยืน หรือบางทีนายกสมาคมฟ้าสีรุ้ง ได้แสดงจุดยืนกับพรรคไทยภักดีในงานเสวนาอย่างชัดเจนแล้ว”

วันนี้ (13 มกราคม 2564) ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้แสดงความเห็นกรณีที่ ต้น-ศิริศักดิ์ ไชยเทศ นักเคลื่อนไหวเพื่อผู้มีความหลากหลายทางเพศ ขอคืนรางวัลอรรธนารีศวร รางวัลด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อผู้มีความหลากหลายทางเพศ ที่ได้รับจากสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย เนื่องจาก แดนนี่-กิตตินันท์ ธรมธัช เข้าร่วมงานเสวนาที่จัดโดยพรรคไทยภักดี (อ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ทาง https://themomentum.co/report-lgbtq-activist/)

ธัญวัจน์มองว่าการเข้าร่วมเสวนาดังกล่าว กิตตินันท์ ธรมธัช นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย มีเนื้อหาโจมตีพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ลดทอนคุณค่าของกลุ่มบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศที่ออกมาเรียกร้องความเท่าเทียมและประชาธิปไตยอย่างชัดเจน รวมถึงภายหลังจากการเสวนาดังกล่าวสิ้นสุดลง ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มภาคประชาสังคมและนักเคลื่อนไหวความหลากหลายทางเพศ ซึ่งน่าตั้งข้อสังเกตว่าเพราะอะไร นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งถึงไม่ออกมาชี้แจงว่าทำไมถึงได้กล่าวโจมตีและลดทอนคุณค่าของการเคลื่อนไหวของประชาชน ลดทอนความหลากหลายทางเพศบนถนน จนนำมาสู่การคืนรางวัลของ ศิริศักดิ์ ไชยเทศ 

ธัญวัจน์กล่าวต่อไปว่า จากการเป็นนักการเมือง มีโอกาสพบกับกลุ่มภาคประชาชน สมาคม มูลนิธิ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางเพศ ความคิดเห็นที่หลากหลายขัดแย้งไม่ตรงกันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ในสังคมประชาธิปไตย แต่การร่วมเสวนากับพรรคไทยภักดีของนายกสมาคมฟ้าสีรุ้ง ทำให้หลายฝ่ายเห็นชัดถึงสาเหตุความขัดแย้งของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศที่ผ่านมา หรือจากที่เห็นปัญหาอยู่แล้วก็อธิบายถึงสาเหตุดังกล่าวได้ชัดเจนมากขึ้น เพราะฝ่ายหนึ่งมีผลประโยชน์ตำแหน่งแห่งที่กับการทำงานเกี่ยวข้องกับฝ่ายรัฐ กับอีกฝ่ายที่ขับเคลื่อนความเสมอภาคบนท้องถนน

“ที่ผ่านมาเราเห็นความขัดแย้งระหว่างประเด็น ‘สมรสเท่าเทียม’ ที่ขับเคลื่อนผลักดันโดยประชาชนและพรรคก้าวไกล กับ ‘คู่ชีวิต’ ที่มีนายกสมาคมฟ้าสีรุ้งเป็นหัวหอกสำคัญของการขับเคลื่อนการทำงานกับภาครัฐ ที่ทำให้กลุ่มผู้หลากหลายทางเพศต้องถกเถียง และแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

“หลักการเรียบง่ายอย่าง ‘ความเสมอภาคในการสมรสของคนทุกเพศ’ ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยาก แต่กลับมีกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศบางคนออกมาผลักดันเรื่องกฎหมายคู่ชีวิตด้วยเหตุผลข้างๆ คูๆ รู้ทั้งรู้ว่าไม่เสมอภาคแต่พยายามผลักดันด้วยเหตุผลว่า ‘ให้รับๆ ไปก่อน’ ทั้งที่เนื้อหาสาระของกฎหมายเต็มไปด้วยความไม่เท่าเทียม เรื่องที่เข้าใจได้ง่ายกลับกลายเป็นเรื่องเข้าใจยาก”

ธัญวัจน์ระบุว่า กิตตินันท์ ธรมธัช นายกสมาคมฟ้าสีรุ้ง เป็นที่รู้จักในแวดวงของภาคประชาสังคมกับนักกิจกรรม ทั้งนี้ ไม่ทราบว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวของกิตตินันท์กับศิริศักดิ์เป็นอย่างไร แต่การคืนรางวัลสะท้อนอุดมการณ์บางอย่างที่สวนทางกัน ล่าสุดวันที่ 12 มกราคม 2565 สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ว่าเป็นสมาคมที่วางตัวเป็นกลาง สามารถทำงานได้ทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และทำงานร่วมกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือไม่ก็ได้

“จากที่อ่านคำแถลงแล้ว มีคำถามว่าเรามีคำว่า ‘เป็นกลาง’ ในสังคมที่บิดเบี้ยวแบบนี้ได้จริงหรือ เมื่อความเป็นกลางและความยุติธรรมกำลังถูกอำนาจนิยมครอบงำอย่างที่เราได้เห็นกันตำตา หลังจากนี้คงต้องตอบคำถามให้ได้ว่า เราจะขับเคลื่อนเดินหน้าเรื่องความหลากหลายทางเพศได้อย่างไร จะทำอย่างเป็นกลางหรือมีจุดยืนแบบใด เนื่องจากการต่อสู้เพื่อความเสมอภาคกับการยอมรับแบบมีเงื่อนไข ซึ่งสองอย่างนี้ ไปด้วยกันไม่ได้”