วันที่ 9 มกราคม 2565 ต้น-ศิริศักดิ์ ไชยเทศ นักสิทธิมนุษยชนเพื่อกผู้ความหลากหลายทางเพศ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวถึง สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย (Rainbow Sky Association of Thailand) เพื่อขอคืนรางวัลอรรธนารีศวร รางวัลด้านการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในกลุ่มประชากรที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยระบุเหตุผลที่ขอคืนรางวัลดังกล่าวไว้ว่า เนื่องจากนายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย เข้าร่วมงานเสวนาที่มีเนื้อหาลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ของผู้มีความหลากหลากหลายทางเพศ

ย้อนกลับไปยังวันที่ 8 ธันวาคม 2564 แดนนี่-กิตตินันท์ ธรมธัช นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย ได้เข้าร่วมเวทีเสวนา ‘LGBT+ ไม่ใช่คนหยาบคาย พฤติกรรมม็อบบดบังเสรีทางเพศ’ ที่จัดขึ้นโดยพรรคไทยภักดี ภายใต้การดูแลของ นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรค ซึ่งการเข้าร่วมดังกล่าว ศิริศักดิ์มองว่าเป็นวงเสวนาที่มีถ้อยคำหยาบคาย ลดทอนคุณค่าของ LGBTQ+ หลายต่อหลายครั้ง มีแนวคิดเพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของผู้มีความหลากหลายทางเพศ และผลิตซ้ำวาทกรรมที่สร้างความเกลียดชังในสังคม และโจมตีขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้ามพรรคไทยภักดี มีการวิพากษ์วิจารณ์การชุมนุมของประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยในช่วงปี 2564

บางช่วงบางตอนของงานเสวนา นายแพทย์วรงค์ กล่าวว่า “ภาพของ LGBT ยุคหลังในช่วงปีสองปีมานี้ หลังจากที่มีกลุ่มการเมืองเข้ามาผลักดันผ่าน LGBT เลยกลายเป็นว่า LGBT มีภาพลักษณ์ล้มล้างสถาบันฯ อันนี้เป็นความรู้สึกของผม โชคดีที่ได้พบท่านรองฯ โจ้ แล้วเพิ่งมีโอกาสได้เจอพี่แดนนี่ ซึ่งพี่แดนนี่ยืนยันว่า LGBT ส่วนใหญ่มีเหตุมีผล ไม่ใช่คนหยาบคาย ทำมาหากินมีอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนผมจึงจัดเวทีตรงนี้ อธิบายว่าทำไมภาพส่วนใหญ่ถึงมองว่า LGBT เป็นพวกล้มล้างสถาบันฯ”

ส่วน กิตตินันท์ ธรมธัช นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย ได้แสดงความคิดเห็นว่า “พี่ว่าเรื่องประชาธิปไตยเนี่ย มันเริ่มต้นที่บ้านก็ได้ ไม่ต้องลงถนนนะ” หรือการกล่าวว่า “บ้านเมืองเราไม่ได้มีเรื่องเผด็จการหรอก มันมีเรื่องของประชาธิปไตยกับประชาธิปไตยยิ่งกว่า เลยเกิดปัญหาว่า คนที่ได้ประชาธิปไตยน้อยพยายามทำอะไรบางอย่างเพื่อเรียกร้องแล้วผลักเข้าไปสู่คำว่าเผด็จการ แท้จริงมันคือประชาธิปไตยด้วยกันทั้งคู่ แต่เราต้องยอมรับและขานรับกับสิ่งที่เป็นเสียงส่วนใหญ่”

ทั้งนี้ ศิริศักดิ์ระบุว่า ผู้จัดได้แจ้งว่าเวทีเสวนานี้เป็นการพูดคุยกึ่งวิชาการเพื่อสร้างความเข้าใจต่อสังคม แต่เอาเข้าจริงการเสวนาไม่ได้สร้างความเข้าใจเรื่องเพศ แต่สร้างความเกลียดชัง เหมารวม เพิกเฉยต่อปัญหา โจมตีต่อผู้เห็นต่างทั้งทางการเมือง มุ่งเน้นไปที่ม็อบเรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ซึ่งตัวของศิริศักดิ์มีส่วนในการชุมนุมหลายครั้ง

“การที่นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งเข้าร่วมอภิปรายในเวทีดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการสนับสนุนรัฐประหารและระบอบเผด็จการ เพราะทางหมอวรงค์ หัวหน้าพรรคไทยภักดี เคยประกาศไว้ว่าจะสนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกต่อไป ทั้งที่ทุกคนต่างรู้ว่าพลเอกประยุทธ์ นั้นได้มาซึ่งอำนาจโดยการรัฐประหาร และวิธีการอันไม่ชอบธรรม ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่าการเข้าร่วมเวทีดังกล่าวถือเป็นการสนับสนุนให้ประเทศไทยมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งมันขัดต่อวิสัยทัศน์และหลักการต่อสู้ของข้าพเจ้า ที่เน้นการขับเคลื่อนบนพื้นฐานของหลักการสิทธิมนุษยชน”

“ที่สำคัญคือขัดกับวัตถุประสงค์ของรางวัลอรรธนารีศวร รางวัลที่ยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลและองค์กรที่ให้การสนับสนุนด้านความหลากหลายทางเพศโดยปราศจากอคติและการเลือกปฏิบัติ แต่ทางนายกสมาคมฯ ซึ่งเป็นองค์กรจัดงานและเจ้าของรางวัล กลับสนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างแนบเนียนผ่านเวทีดังกล่าว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิทธิมนุษยชนของสมาคมฟ้าสีรุ้ง ยังถือป้ายในงานที่มีข้อความว่า ‘ม็อบกักขฬะ จะทำร้าย LGBT+ ส่วนใหญ่’”

ศิริศักดิ์ แสดงความรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งกับงานเสวนาดังกล่าว ก่อนชี้แจงความคิดเห็นในมุมของตัวเองบ้างว่า กลุ่ม LGBTQ+ ที่ออกมาเรียกร้องสิทธิบนถนน ไม่ได้ถูกผลักดันมาจากกลุ่มการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ประชาชนล้วนออกมาด้วยความสมัครใจ รู้คิด รู้ชอบ มีสติ พิจารณาเองว่าจะออกมาร่วมหรือไม่ ซึ่งนั่นหมายถึงตัวของศิริศักดิ์ที่ออกมาด้วยความสมัครใจด้วยเช่นกัน ไม่มีกลุ่มการเมืองใดคอยผลักดันอยู่เบื้องหลังใดๆ ทั้งสิ้น

“แล้วที่บอกว่า LGBTQ+ กลายเป็นภาพล้มล้างสถาบันฯ เป็นอคติของคุณหมอเอง ไม่มีทางเป็นไปได้ที่ LGBTQ+ จะกลายเป็นภาพลักษณ์ล้มล้างสถาบันฯ ที่สำคัญคนขับเคลื่อนก็พูดเสมอว่าเป็นการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่การล้มล้างการปกครอง หรือล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์”

“ส่วนคำว่า ‘LGBT ส่วนใหญ่มีเหตุมีผล ไม่ใช่คนหยาบคาย แล้วก็ทำมาหากินมีอาชีพเลี้ยงตัวเอง’ ตรงนี้เสมือนเป็นการแบ่งแยกศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างชัดเจนว่า LGBTQ+ ที่ไม่ได้ร่วมม็อบนั้นเป็นคนดี มีเหตุผล ไม่หยาบคาย ทำมาหากินเลี้ยงชีพตัวเอง แต่ LGBTQ+ ที่ร่วมม็อบลงถนนเป็นคนหยาบคาย ไม่มีเหตุ ไม่มีผลไม่ทำมาหากินเลี้ยงชีพตัวเอง การแบ่งแยกชนชั้นแบบนี้เป็นการดูถูกเหยียดหยามข้าพเจ้าโดยตรง เพราะข้าพเจ้าร่วมม็อบอยู่ตลอด และคุณแดนนี่ นายกสมาคมฟ้าสีรุ้ง ได้ร่วมอภิปรายว่า ‘พี่ว่าเรื่องประชาธิปไตยเนี่ย มันเริ่มต้นที่บ้านก็ได้ ไม่ต้องลงถนนนะ’ ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่า การขับเคลื่อนเรียกร้องบนถนน เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญและตามหลักสากล”

นอกจากนี้ ศิริศักดิ์ยังชี้แจงอีกว่า ที่ผ่านมาเครือข่ายเพื่อความหลากหลายทางเพศหลายกลุ่มในประเทศไทย ล้วนเรียกร้องเรื่องสิทธิเสรีภาพ และความหลากหลายทางเพศบนท้องถนนทั้งนั้น ทั้งนี้ การเรียกร้องประชาธิปไตย การเมือง และความหลากหลายทางเพศ ล้วนเป็นเรื่องที่แยกออกจากกันไม่ได้เลย เพราะพื้นฐานทั้งล้วนมาจากเรื่องเดียวกันคือการถูกลิดรอน ‘สิทธิมนุษยชน’ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคืนรางวัลที่ได้มากลับไปยังสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย

 

อ่านแถลงการณ์ขอคืนรางวัลอรรธนารีศวร ของศิริศักดิ์ ไชยเทศ ที่ได้จากสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย

https://www.facebook.com/sirisakposh.chaitedspice.3/posts/1155433058527278?__cft__[0]=AZXz1OxxFJ4wTJMjFL6NSqzFnW_4mquc4lhdGTJTXFmaFDqvEr07VzDLjiQKD2dYTXBqesJYmZf0iRd1Cff2ERR3GcjY0_bIJNR_m2UQnRF_EViUlNZQM0JAfUuE8kRu8vUvkO3mnAfPvC6aKoKRF7ap&__tn__=%2CO%2CP-R

 

Tags: , , , , , , , , , ,