คราวก่อนเขียนถึงเรื่องรถยนต์ซูบารุ ว่าเป็นรถที่เจาะตลาดกลุ่มเลสเบี้ยน และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก คราวนี้เลยอยากชวนคุณขยายวงกว้างออกไปหน่อย คือมาดูว่า รถยนต์ที่ ‘เป็นมิตร’ ต่อคนที่มีความหลากหลายทางเพศ (หรือเรียกง่ายๆ ว่า Gay-Friendly) มีรถอะไรบ้าง

เกริ่นมาแบบนี้ คล้ายว่าจะเล่าให้คุณฟังได้ง่ายๆ นะครับ แค่ไปดูยอดขายหรือกลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ก็น่าจะพอรู้แล้วว่ายี่ห้อไหนเป็นที่นิยมในคนกลุ่มไหน แต่ที่จริงมันไม่ง่ายขนาดน้ันหรอกครับ เพราะว่าในรอบสิบปีที่ผ่านมา รถยนต์เองเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเรื่อยๆ บางแบรนด์ก็เปลี่ยนกลุ่มลูกค้า หรือหันมาใช้วิธีโฆษณาที่ทำให้คนกลุ่มโน้นกลุ่มนี้สนใจตัวเอง รวมทั้งเทคโนโลยีเองก็เปลี่ยนไปด้วย ความนิยมในคนกลุ่ม LGBT ที่เปลี่ยนไปจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย

ย้อนกลับไปในปี 2009 ข่าวของ CBS เคยรายงานผลการสำรวจของเว็บไซต์ gaywheels.com ร่วมกับ Sorgenfrei ซึ่งไปสำรวจคน 3,685 คน ที่เป็นเกย์และเลสเบี้ยน เขาพบว่าในจำนวนคนที่สำรวจมานั้น 67 เปอร์เซ็นต์ซื้อโดยดูว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์มีชื่อเสียงเรื่องการแสดงตัวให้เห็นว่าเป็นบริษัทที่ Gay-Friendly หรือเปล่า ไม่ว่าจะผ่านการทำแอดโฆษณาหรือแคมเปญรณรงค์ต่างๆ

หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วทำไมบริษัทรถยนต์ถึงต้องมาเอาอกเอาใจหรือแสดงออกว่าตัวเองเป็นมิตรกับเกย์ด้วย คำตอบทางการตลาดง่ายๆ ก็คือ – เพราะคนกลุ่มที่อยู่ในการสำรวจ มีถึง 40 เปอร์เซ็นต์ที่มีรายได้ของครัวเรือนเกิน 100,000 เหรียญ คนเหล่านี้จึงเป็นลูกค้าที่มีศักยภาพและอำนาจในการซื้อ การแสดงตัวว่าบริษัทนั้นๆ เป็นมิตรกับ LGBT จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทวีสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ

(อย่างไรก็ตาม ต้องย้อนกลับไปดูการกระจายตัวของข้อมูลในกลุ่มที่สำรวจอีกทีนะครับ ว่าคนกลุ่มนี้มีลักษณะอย่างไรบ้าง เพราะอาจไม่สามารถเป็น ‘ตัวแทน’ ของคนกลุ่ม LGBT ทั้งหมดก็ได้)

ในปี 2009 นอกจากซูบารุ (ที่เคยเล่าไปแล้ว) ยังมีรถยนต์อีกหลายยี่ห้อที่ได้ชื่อว่า Gay-Friendly โดยเฉพาะโฟล์คสวาเกนกับฟอร์ด ซึ่งสองแบรนด์นี้เป็นแบรนด์โปรดของชุมชน LGBT ตามซูบารุมาเป็นอันดับสองกับสาม เพราะคนในชุมชน LGBT เห็นว่าสองแบรนด์นี้มีความ Gay-Friendly มาก แต่กระนั้น ถ้าไปดูที่ ‘ยอดขาย’ จริงๆ คนจำนวนมาก (รวมถึงชาว LGBT ด้วยนะครับ) ก็ยังซื้อรถยนต์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดอยู่ดี นั่นคือโตโยต้า

ทำไมบริษัทรถยนต์ถึงต้องมาเอาอกเอาใจหรือแสดงออกว่าตัวเองเป็นมิตรกับเกย์ด้วย คำตอบทางการตลาดง่ายๆ ก็คือ – เพราะคนกลุ่มที่อยู่ในการสำรวจ มีถึง 40 เปอร์เซ็นต์ที่มีรายได้ของครัวเรือนเกิน 100,000 เหรียญ

บทความนี้บอกว่า ตัวแทนจาก gaywheels.com บอกว่า รถยนต์ยี่ห้อที่ชาว LGBT ชอบใช้มากที่สุด คือรถยนต์ยี่ห้อ Saab จากสวีเดน เขาบอกว่า Saab มีส่วนแบ่งตลาดแค่ 0.1% ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่คนที่เป็นเกย์ (หมายถึง Gay Men) มีแนวโน้มจะใช้รถยนต์ยี่ห้อนี้มากกว่ายี่ห้ออื่นถึง 18 เท่า (ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับว่าตรงนี้ใช้วิธีวัดผลอย่างไร) ส่วนเลสเบี้ยนมีแนวโน้มจะใช้ Saab มากกว่าถึง 11 เท่า แต่ก็น่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่มีรถยนต์ Saab แล้ว

ถัดจากปี 2009 อยากชวนคุณกระโดดมาที่ห้าปีต่อมา ในปี 2014 มีรายงานของ Car Talk ซึ่งเป็นรายการวิทยุของ NPR ออกมา Car Talk ได้จัดทำลิสต์รถยนต์ที่เกย์เลสเบี้ยนชอบใช้มากที่สุด คราวนี้ไม่ใช่แค่แบรนด์นะครับ แต่ลงลึกไปถึงรุ่นของรถเลย โดย Car Talk อ้างไว้ก่อนเป็นผลจากการทำโพลที่ ‘ไม่เป็นวิทยาศาสตร์’ หรือ Non-Scientific Poll นะครับ เพราะฉะนั้นจะเอาไปอ้างอิงอย่างเป็นทางการคงไม่ได้ แต่กระนั้นผลสำรวจที่ว่าก็ยังน่าสนใจอยู่ดี

เขาบอกว่า รถยนต์ที่เลสเบี้ยนชอบใช้มากที่สุด คือ Subaru Outback ตามมาด้วย Subaru Forester, Jeep Wrangler, Ford F-150, Honda CR-V, Geo Tracker, Nissan X-Terra, Ford Ranger, Volvo Wagon และ Chevy S10

แล้วถ้ามาดูรถยนต์ที่เกย์ชอบใช้ที่สุด ก็จะได้ลิสต์ออกมาคือ VW Jetta, VW Bug, BMW 3-Series, Jeep Wrangler, Mazda Miata, SAAB 900, Saturn SC1, VW Gold, VW Cabrio และ Chrysler Sebring

ในลิสต์ที่ว่ามานี้ หลายแบรนด์เป็นไปตามความคิดของคนทั่วไปนะครับ เช่น Jeep Wrangler ที่ฮิตขึ้นมาเพราะซีรีส์ Queer as Folks เนื่องจากตัวละครในซีรีส์ใช้รถรุ่นนี้ หรือ VW ทั้งหลายก็เป็นที่นิยมในกลุ่มชาว LGBT อยู่แล้ว แต่อีกหลายแบรนด์ก็ไม่ค่อยเป็นไปตามความคาดหมายเท่าไหร่ แม้แต่ตัวผู้จัดรายการ Car Talk เอง ก็ยังแสดงความประหลาดใจในลิสต์เหล่านี้อยู่พอสมควรนะครับ เช่นเขาสงสัยว่า Honda CR-V กลายเป็นรถที่เลสเบี้ยนชอบใช้ไปได้อย่างไร เพราะผู้จัดรายการรู้สึกว่ามีแต่ผู้ชายใช้ หรือ BMW ซีรีส์ 3 เขาก็ไม่รู้สึกว่าคนที่เป็นเกย์จะชอบ ซึ่งทำให้เราเห็นว่า – การรับรู้ของเราอาจไม่ตรงกับผลการสำรวจก็ได้ คือเราอาจจะ ‘คิดไปเอง’ ไม่น้อยทีเดียว

Saab มีส่วนแบ่งตลาดแค่ 0.1% ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่คนที่เป็นเกย์ (หมายถึง Gay Men) มีแนวโน้มจะใช้รถยนต์ยี่ห้อนี้มากกว่ายี่ห้ออื่นถึง 18 เท่า

ปีถัดมา คือปี 2015 ในนิตยสาร Hot Spots มีบทความของไมค์ ฮัลเทอร์แมน (Mike Halterman) พูดถึงแบรนด์รถยนต์หกแบรนด์ ที่พุ่งเป้าการขายไปยังกลุ่ม LGBT และได้รับการตอบสนองที่ดี อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่าแบรนด์รถยนต์ต่างๆ มีคนกลุ่มนี้เป็นเป้าหมายทางการตลาดมานานกว่า 25 ปีแล้ว ไม่ได้เพิ่งมาฮิตทำกันตอนหลัง โดยหกแบรนด์ที่ว่าได้แก่โตโยต้า (ซึ่งมีโฆษณาแบบ Gay-Themed ออกมาหลายชิ้น), Scion (รถยนต์ยี่ห้อนี้ก็อยู่ใต้ร่มของโตโยต้า จึงไม่น่าประหลาดใจนักที่จะเดินไปในลู่เดียวกัน), Fiat (โดยเฉพาะรถน่ารักอย่าง Fiat 500 ที่มีโฆษณาเหมือนเป็นไฟดิสโก้ เชื่อมโยงกับเข้าวิถีชีวิตฉูดฉาดแบบ drag queen), Mini (Mini อยู่ใต้ร่มของ BMW และตั้งแต่วางตลาดในปี 2001 Mini ก็เป็นที่จับใจของชาว LGBT มาโดยตลอด เคยมีคนบอกว่า Mini เป็นรถที่ ‘เกย์’ ที่สุดของอเมริกาด้วย), Subaru (อันนี้ไม่ต้องพูดถึง เพราะเคยเขียนถึงไปแล้ว) และสุดท้ายคือ VW หรือ Volkswagen (ซึ่งมีโฆษณาตั้งแต่ปี 1997 เป็นผู้ชายสองคนขับรถ VW Golf ไปด้วยกัน ทั้งยังซื้อโฆษณาในรายการของเอลเลน เดอเจเนเรส ด้วย)

จะเห็นว่า หลายแบรนด์ยังคงรักษาตำแหน่งแห่งที่ของตัวเองได้เหนียวแน่นมาก ไม่ว่าจะเป็น Subaru หรือ VW แต่พอมาถึงปี 2016 กลับเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ขึ้นมาอย่างหนึ่ง นั่นคือในการสำรวจของ YouGov BrandIndex ที่สำรวจความนิยมของชาว LGBT ต่อสินค้าต่างๆ เขาพบว่าสินค้าที่กระโดดขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาสินค้าทั้งหลายก็คือรถยนต์

แต่กระนั้นก็ต้องบอกว่า รถยนต์ที่ครองอันดับหนึ่งในใจชาว LGBT ไม่ใช่ซูบารุหรือโฟล์คฯ นะครับ

ลองทายดูหน่อยไหมครับ ว่าเป็นรถยนต์ยี่ห้ออะไร

.

.

.

เขาบอกว่า – รถยนต์ที่กลายเป็นอันดับหนึ่งในใจของชุมชน LGBT จากการสำรวจของ YouGov BrandIndex เมื่อปีที่แล้ว ก็คือรถยนต์ยี่ห้อ Tesla ครับ

ที่จริงแล้ว เทสลานั้นถือว่า ‘ใหม่’ มากนะครับ เพราะเพิ่งเข้าไปอยู่ในลิสต์ของ BrandIndex เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้วนี่เอง แต่กระโดดขึ้นไปสู่อันดับท็อปสูงสุดได้ด้วยคะแนนสูงลิ่ว คะแนนที่ได้นั้นมาจากหลายปัจจัย ทั้งจากตัวผลิตภัณฑ์เองที่มีเทคโนโลยีสมัยใหม่ ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมให้โลก รวมไปถึงการบริหารจัดการภายใน เช่นการดูแลพนักงานที่เป็นคนข้ามเพศให้ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ การปกป้องพนักงานไม่ให้เกิดการเลือกปฏิบัติ การให้สิทธิประโยชน์ต่อคู่แต่งงานเพศเดียวกันเหมือนคู่แต่งงานต่างเพศ ฯลฯ จึงทำให้ Tesla ได้อันดับหนึ่งไปโดยไร้ข้อกังขา

อย่างไรก็ตาม อย่างที่บอกไปแล้วว่า การสำรวจนี้ไม่ได้ทำแค่เรื่องรถยนต์อย่างเดียว ทว่าทำในแบรนด์ต่างๆ หลากหลายด้านด้วย ดังนั้น การที่ Tesla สามารถกระโดดขึ้นมาอันดับหนึ่งจึงไม่ใช่แค่การเอาชนะแบรนด์รถยนต์ด้วยกันเท่านั้นนะครับ แต่ยังชนะแบรนด์สินค้าและบริการอื่นๆ ด้วย โดย Tesla ได้คะแนน 35.8 ทิ้งผู้ให้บริการอันดับสองที่เป็นขวัญใจชุมชน LGBT อย่าง amazon.com ไปไกลโข เพราะ amazon ได้คะแนนแค่ 26.9 เท่านั้น ตามมาด้วย YouTube, Netflix, PBS, ร้านขายสินค้าออร์แกนิคอย่าง Trader Joe’s, Costco, Samsung, Google และที่อันดับสิบคือ HBO โดยถ้าไปดูแบรนด์ที่เป็นรถยนต์ จะเห็นว่า General Motors และ Chevrolet ติดอยู่ในลิสต์ด้วย เพียงแต่คะแนนน้อยกว่ามาก

แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของความรักชอบในแบรนด์ที่เป็นมิตรกับ LGBT นี่ เห็นได้เลยว่ามีปัจจัยต่างๆ หลากหลายมากกว่าแค่แอดฯ โฆษณาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปและนโยบายเชิงสังคมของบริษัทผู้ผลิตด้วย

เห็นแล้วอยากให้มีการสำรวจในสังคมไทยบ้างนะครับ

Tags: , , , ,