วันที่ 1 ธันวาคม 2021 สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งต่างรายงานความเคลื่อนไหวของการประชุมสภาผู้แทนราษฎรแคนาดา เนื่องจากการประชุมและลงมติในครั้งนี้ อาจเปลี่ยนแปลงความคิดเรื่องเพศที่น่าสนใจที่สุดอีกครั้งหนึ่ง โดย ส.ส. เกินกว่าครึ่ง เห็นชอบให้ผ่าน ‘ร่างกฎหมายยกเลิกการบำบัดเพื่อเปลี่ยนรสนิยมทางเพศ’ เพื่อแสดงจุดยืนว่าผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือบุคคลใดๆ ก็ตามสามารถเป็นเพศใดก็ได้ตามที่ตนอย่างจะเป็น และจะไม่มีใครต้องถูกบังคับให้เข้ารับการบำบัดรักษาเพื่อเปลี่ยนรสนิยมทางเพศได้หากไม่เต็มใจ

ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกเสนอโดยพรรคเสรีนิยมของนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด (Justin Trudeau) ซึ่งพรรคฝ่ายซ้ายอย่างนิวเดโมเครติก (New Democratic Party) ก็ร่วมสนับสนุนกฎหมายนี้ ถือเป็นไม่กี่ครั้งที่ทำให้เห็นว่าสภาล่างมีประเด็นที่ทำให้เกิดการลงมติอย่างเอกฉันท์ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะแบนการบำบัดเพื่อเปลี่ยนรสนิยมทางเพศ ทำให้ผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือผู้ที่ไม่มีสิทธิในการตัดสินใจ เลือกที่จะปฏิเสธเข้ารับการบำบัดเพื่อเปลี่ยนรสนิยมทางเพศได้แม้ผู้ปกครองจะยินยอมให้ทำก็ตาม รวมถึงทำให้การบำบัดดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่ถูกกฎหมายอีกต่อไป

วิธีการบำบัดเพื่อเปลี่ยนรสนิยมทางเพศส่วนใหญ่จะเริ่มต้นด้วยการพูดคุย ถามถึงทัศนคติทางเพศ มีการจ่ายยา หรือรักษาทางกายภาพร่วมด้วย บางสถานบำบัดอาจใช้วิธีการดั้งเดิมอย่างการช็อตไฟฟ้า ซึ่งจุดประสงค์หลักสำคัญคือการทำให้ผู้เข้ารับการรักษาเลิกมีความรักใคร่ชอบพอเพศเดียวกัน เลิกคิดว่าตัวเองเป็นเพศที่ไม่ตรงกับเพศแต่กำเนิด ผู้คนบางส่วนจะเรียกกระบวนการบำบัดที่เกิดขึ้นนี้ว่า ‘การบำบัดแก้เกย์’

ความหมายของ ‘เกย์’ ตามความเข้าใจของคนทั่วโลก คือการกล่าวถึงภาพรวมของชาว LGBTQ+ ทั้ง เกย์ เลสเบี้ยน ฯลฯ ในหลายดินแดนและประเทศ การบำบัดแก้เกย์ถือเป็นสิ่งผิดจรรยาบรรณทางการแพทย์ ละเมิดสิทธิมนุษยชน และอาจทำให้ผู้เข้ารับการบำบัดได้รับผลกระทบต่อจิตใจขั้นรุนแรง เนื่องจากเคยมีกรณีตัวอย่างจำนวนมากที่เผยให้เห็นว่า มีผู้เข้ารับการบำบัดเกิดอาการเครียด ซึมเศร้าหนักจนพยายามฆ่าตัวตาย เกิดการโทษคนรอบตัว 

ยกตัวอย่างเช่น เกย์คนหนึ่งถูกสถานบำบัดทำให้เข้าใจว่าตัวเองเป็นเกย์เพราะต้องการการยอมรับจากพ่อ และใช้ชีวิตอยู่กับแม่และพี่สาว-น้องสาว มากเกินไป จนเกิดความหมางเมินในครอบครัว โดยที่ต้นเหตุทั้งหมดอาจจะไม่ใช่อย่างที่ว่ามาเลยแม้แต่น้อยก็ได้ และสุดท้าย แม้หลายคนจะเข้ารับการบำบัดแล้ว ความเป็นเกย์ก็ไม่ได้หายไปไหนอยู่ดี ซึ่งนักวิเคราะห์และนักวิชาการบางส่วนระบุว่าที่บำบัดไม่ได้เพราะเกย์ไม่ใช่โรคร้าย ที่จะรักษาให้หายได้ด้วยการกินยาหรือช็อตไฟฟ้า แต่เป็นความรู้สึก ความพึงพอใจที่แตกต่างหลากหลายของมนุษย์

ผู้มีความหลากหลายทางเพศบางส่วนที่เข้ารับการรักษาอาจมาด้วยความเต็มใจ เนื่องจากสังคมรอบตัวไม่ยอมรับ มาเพราะเกิดความรู้สึกอับอาย รู้สึกผิด หรือติดเรื่องความเชื่อทางศาสนา จึงอยากจะปรับความคิดให้เลิกมีรสนิยมที่ไม่ตรงตามที่สังคมรอบตัวของบุคคลนั้นๆ ต้องการ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีชาว LGBTQ+ ที่ถูกบังคับให้มาบำบัด ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนที่ยังไม่มีสิทธิขาดในการตัดสินใจ

ในปี 1990 องค์การอนามัยโลก ถอดการรักเพศเดียวกันออกจากกลุ่มบัญชีโรคความผิดปกติทางจิต ทว่าจนถึงปัจจุบัน การบำบัดเพื่อเปลี่ยนรสนิยมทางเพศยังคงมีให้เห็นอยู่มาก และมีเพียง 68 ประเทศเท่านั้นที่มีการผลักดันให้แบนการบำบัดดังกล่าวอย่างจริงจัง เช่น บราซิล เอกวาดอร์ เยอรมนี และ มอลตา ซึ่งแคนาดาอาจเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เข้าใกล้การแบนการบำบัดเพื่อเปลี่ยนรสนิยมทางเพศคล้ายกับ นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักรที่พยายามผลักดันเรื่องนี้อยู่เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การที่ร่างกฎหมายผ่านสภาล่างเป็นเพียงแค่หนึ่งในการเดินทางของกฎหมายฉบับนี้ หลังจากนี้ร่างกฎหมายจะต้องเข้าสู่สภาสูง วุฒิสภา และจะต้องได้รับเสียงเห็นชอบเพื่อทำให้ร่างกฎหมายกลายเป็นร่างพระราชบัญญัติต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวก็เคยได้รับการโหวตเห็นชอบอย่างขาดลอย แต่ถูกตีตกไปในชั้นสภาสูง ซึ่งคงต้องติดตามดูกันต่อว่า ร่างเพื่อความหลากหลายทางเพศฉบับนี้จะถูกปัดทิ้งอีกครั้ง หรือจะผ่านและสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมได้มากกว่าเดิม

 

อ้างอิง

https://www.bbc.com/news/world-us-canada-59500095

https://www.theguardian.com/world/2021/dec/02/canada-votes-ban-lgbtq-conversion-therapy 

 

Tags: , , , , , ,