วันนี้ (19 มิถุนายน 2568) เจษฎ์ โทณะวณิก อาจารย์คณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย ให้สัมภาษณ์กับ The Momentum ตอนหนึ่งถึงกรณีคลิปเสียงระหว่าง สมเด็จ ฮุน เซน (Hun Sen) ประธานองคมนตรี ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กับแพทองธาร ชินวัตร นายกฯ​ไทยว่า เมื่อได้ฟังคลิปเสียงครั้งแรกยังไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง และตอนแรกยังรู้สึกว่าบิดเบือนด้วยซ้ำเพราะเสียงขาดเป็นช่วงๆ คล้ายกับใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ตัดต่อเสียง แต่เมื่อได้ฟังอีกสัก 2-3 ครั้ง จึงรู้ว่าเป็นคลิปเสียงจริง

“ผมเห็นว่าเธอเสียรู้ ก็น่าเห็นใจ แต่เดิมทีผมก็ไม่ได้เชื่อมั่นในตัวคุณแพทองธารอยู่แล้ว เมื่อเกิดกรณีนี้ขึ้นก็เห็นว่าไปต่อไม่ได้แล้ว แล้วไม่ใช่แค่ผม แม้แต่คนที่เห็นว่า แต่เดิมคุณแพทองธารยังพอไหว เขาก็รู้สึกว่า พอมีเรื่องบ้านเรื่องเมืองมาแบบนี้ คงยากที่จะไว้วางใจ 

“แล้วผมว่า คนที่จะลองมาคิดว่าเรื่องใหญ่โตแบบนี้ คุณแพทองธารยังทำในลักษณะซ่อนเร้น ถ้าคุณฮุน เซนไม่ปล่อยคลิปเสียงออกมา เราจะรู้ไหมว่ามีเรื่องนี้ แล้วยังมีเรื่องอื่นแฝงอีกหรือไม่ ที่เป็นไปในลักษณะเดียวกัน ผมว่ามันคงยากแล้วที่จะไว้วางใจได้”

เจษฎ์ยังกล่าวด้วยว่า ทางออกที่ดีที่สุดของประเทศคือ ‘รื้อใหญ่’ และ ‘รื้อหมด’ 

“ถ้าถามผม รื้อหมด เพราะผมรู้สึกมานานแล้วว่า บรรดากลไกทั้งบริหาร ทั้งนิติบัญญัติ มันทำงานไม่สมกับที่ประชาชนจะไว้วางใจ แต่ที่ดีที่สุดของบรรดาคนที่เป็นตัวแทนที่คิดว่าจะพอทำได้ คุณแพทองธารต้องลาออกไปก่อน พรรคเพื่อไทยจะเอาแบบไหน จะจัดการกับตัวเองอย่างไร อันนี้คุณต้องไปคุยกัน”

ถ้าบรรดาพรรคทั้งหลายที่อยู่ในสภาฯ เห็นว่า ไม่ควรจะล่มหัวจมท้ายกับพรรคเพื่อไทย เขาจะรวมกันเลือกนายกฯ คนใหม่ แล้วไปจัดตั้งรัฐบาลในรูปแบบใด ก็เป็นไปตามครรลอง พรรคเพื่อไทยก็ต้องถือว่า สูญเสียพื้นที่ในการจัดการและการจัดวางแล้ว ก็ต้องเป็นแบบนั้น แล้วไปตามนั้น แต่ถ้าหักด้ามพร้าด้วยเข่า รัฐบาลไป สส.ทั้งหมดไป สว.ทั้งหมดไป มันอาจจะรุนแรงไป”

ทั้งนี้เจษฎ์ยังเชื่อว่า สถานการณ์ปัจจุบันยังไม่เกิด ‘สุญญากาศ’ ยังไม่วิกฤตเหมือนในอดีตที่ต้องถามหา ‘คนกลาง’ และกลไกปัจจุบันยังคงสามารถทำหน้าที่ได้

Tags: , , , ,