เมื่อวานนี้ (20 กันยายน 2023) รัฐบาลฝรั่งเศสชี้แจงการจับกุมเด็กอายุ 14 ปีเข้าคุก เหตุเพราะกลั่นแกล้งเพื่อนร่วมชั้นที่เป็นบุคคลข้ามเพศ (Transgender) ว่าเป็นไปตามนโยบายของรัฐ ส่งผลให้ผู้ปกครองและนักเรียนบางส่วนโกรธเคือง แม้จะได้รับการสนับสนุนในแวดวงสาธารณะ ท่ามกลางปัญหาการกลั่นแกล้งในสถานศึกษาที่เพิ่มขึ้น
เหตุการณ์เริ่มต้นในวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา เมื่อตำรวจเข้าจับกุมเด็กชายวัยรุ่นอายุ 14 ปี ด้วยการใส่กุญแจมือ และนำตัวเขาออกห้องเรียนในเมืองอัลฟอร์วิลล์ (Alfortville) บริเวณชานเมืองของปารีส
ตามรายงานของเดอะการ์เดียน (The Guardian) เด็กชายคนนี้คุกคามเหยื่อด้วยถ้อยคำหยาบคายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘กูจะตัดคอของมึง’ หรือ ‘กูเกลียดคนประเภทอย่างมึง ไปตายสิ ไปฆ่าตัวตายสิ’
ทั้งนี้ โอลิวิเยร์ เวอรอง (Olivier Veran) โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศส ออกมาชี้แจงต่อสาธารณชนว่า การคุมขังครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายการต่อต้านพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และเป็นการส่งสัญญาณเตือนถึงการกลั่นแกล้งในสถานศึกษา
“นี่เป็นวิธีที่เราจะหยุดภัยแห่งการข่มขู่ การล่วงละเมิด และเรากระทำลงไปเพื่อปกป้องเยาวชนของพวกเรา” โฆษกรัฐบาลแสดงเหตุผลการจับกุมนักเรียนครั้งนี้
ขณะที่ เอเอฟพี (AFP) รายงานความคิดเห็นของหน่วยงานตำรวจ โดยอ้างว่า เด็กชายคนนี้มีพฤติกรรมที่เป็นภัยคุกคามร้ายแรงและต้องจับกุมอย่างเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม นักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์การจับกุมระบุว่า เขารู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ผู้อำนวยการโรงเรียนเคาะห้อง และบอกพวกเราว่า ตอนนี้พวกเขากำลังเข้าจับกุมนักเรียน เจ้าหน้าที่เดินเข้ามาและจับแขนเขา (…) และใส่กุญแจมือ
“ฉันคิดว่า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ตำรวจจะเข้ามาในห้องเรียนเช่นนี้ เราตกใจกันมาก บางคนถึงกับหัวเราะด้วยความประหม่า” นักเรียนหญิงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านเอเอฟพี
เช่นเดียวกับพ่อแม่ของนักเรียนและเด็กคนอื่นๆ ก็แสดงความคิดเห็นไปทางเดียวกันว่า ทำไมตำรวจจึงไม่ดำเนินการจับกุมหลังเลิกเรียน
“เขายังเป็นเด็ก เขายังอายุไม่ถึง 18 ปี นี่ไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว (…) ต่อให้ฉันไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำก็เถอะ” ลาเมีย (Lamia) ผู้ปกครองวัย 39 ปี ของนักเรียนคนหนึ่งแสดงความคิดเห็น
ขณะเดียวกัน ดิดิเยร์ จอร์จ (Didier George) จากสหภาพผู้บริหารสถานศึกษา (Syndicat National des Personnels de Direction de l’Éducation Nationale: SNPDEN-UNSA) ระบุว่า แม้การจับกุมจะถูกกฎหมาย แต่ก็ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง
“มันเป็นสามัญสำนึกที่คุณควรคิดได้ว่า การจับกุมไม่ควรเกิดขึ้นในห้องเรียน แม้ว่าจะถูกทำให้ชอบธรรมก็ตาม” เขากล่าว
การเสียชีวิตของนิโคลัส เพราะการกลั่นแกล้งจากนักเรียนและสถานศึกษา: เบื้องหลังมาตรการเข้มงวดจากรัฐบาลฝรั่งเศส
เบื้องหลังของการจับกุมเด็กนักเรียนที่กลั่นแกล้งในสถานศึกษา เกิดจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา นิโคลัส (Nicholas) เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ตัดสินใจปลิดชีพตนเอง หลังเปิดเทอมได้เพียง 1 วัน
เรดิโออินเตอร์เนชัลแนลฟรานซ์ (Radio International France: RIF) รายงานว่า นิโคลัสถูกกลั่นแกล้งมานาน แม้เปลี่ยนโรงเรียนใหม่อยู่ในปารีสก็ตาม ทำให้ผู้ปกครองส่งเรื่องร้องเรียนต่อสถานศึกษาเดิมในเมืองอีฟลินส์ (Yvelines)
แต่สถานศึกษาแห่งนี้ส่งจดหมายคุกคามผู้ปกครองกลับมาว่า คำร้องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และขอให้พวกเขามีความคิดที่ดีกว่านี้ ทั้งยังระบุว่า นี่คือการใส่ร้ายป้ายสี ผู้ปกครองอาจถูกปรับ 4.5 หมื่นยูโร (ประมาณ 1.7 ล้านบาท) หรือได้รับโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ตามกฎหมายอาญาของประเทศ
จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า นิโคลัสยื่นคำร้องครั้งแรกให้โรงเรียนตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022 ขณะที่พ่อแม่ของเขาให้สัมภาษณ์กับเลอชูนาลดูดีมองช์ (Le Journal du Dimanche) สื่อฝรั่งเศสว่า พวกเขาคือเหยื่อที่กลายเป็นผู้กระทำความผิดไปเสียเอง
ทั้งหมดนี้จึงทำให้ทางการฝรั่งเศสเร่งรัดใช้มาตรการเข้มงวด โดย กาเบรียล อัตตาล (Gabriel Attal) รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการฝรั่งเศส ออกโรงประณามจดหมายของสถานศึกษาในอีฟลินส์ว่า น่าอับอายและสั่งให้มีการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงภายใน 2 สัปดาห์
“เรากำลังต่อสู้กับการกลั่นแกล้ง ซึ่งนับว่าเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ ของเรา ทว่าฝรั่งเศสยังทำไม่สำเร็จ” อัตตาลแสดงความคิดเห็น โดยได้เข้าพบครอบครัวของผู้เสียชีวิต ร่วมกับบริฌิต มาครง (Brigitte Macron) สตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศ
นอกจากนี้ เอลิซาเบธ บอร์น (Elisabeth Borne) นายกรัฐมนตรีหญิงฝรั่งเศส ก็แสดงความคิดเห็นว่า รู้สึกตกตะลึง โดยระบุว่า นี่คือความล้มเหลวของสถานศึกษาในการสื่อสาร
อ้างอิง
Tags: ยุโรป, ฝรั่งเศส, เยาวชน, bullying, ตำรวจฝรั่งเศส, ประเทศฝรั่งเศส, รัฐบาลฝรั่งเศส, ความรุนแรงต่อเด็ก, การกลั่นแกล้งในศึกษา, สังคมฝรั่งเศส