เชตวัน เตือประโคน ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดปทุมธานี เขต 6 พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับ The Momentum ถึงนโยบายทวงคืนสนามกอล์ฟของทหารอากาศ เพื่อให้เป็นสวนสาธารณะ ศูนย์การเรียนรู้ และแหล่งสร้างรายได้ให้ประชาชน ซึ่งเรื่องนี้รวมอยู่ในนโยบายการปฏิรูปกองทัพของพรรคก้าวไกล และชี้ว่าสนามธูปะเตมีย์มีพื้นที่กว่า 625 ไร่ แต่ประชาชนในเขตกลับขาดสวนสำหรับออกกำลังกาย อีกทั้งพื้นที่นี้เป็นที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ไม่ใช่ที่ของทหารอากาศแต่อย่างใด
สำหรับสนามธูปะเตมีย์เริ่มเปิดใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2528 โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ พื้นที่กรมทหารต่อสู้อากาศยาน รักษาพระองค์ พื้นที่สนามกีฬากองทัพอากาศ และพื้นที่สนามกอล์ฟ
“กองทัพอากาศมาขอใช้สามส่วน หนึ่งก็คือค่ายทหารชื่อว่ากรมทหารต่อสู้อากาศยาน รักษาพระองค์ นี่ส่วนที่หนึ่งเป็นค่ายทหาร สองทำสนามกีฬากองทัพอากาศ ก็คือสนามฟุตบอล สนามว่ายน้ำ สามก็คือทำธุรกิจสนามกอล์ฟ แล้วก็มีปั๊มน้ำมันเล็กๆ แทรกอยู่ด้วย
“ผมก็คิดว่าเวลามันเปลี่ยนไปแล้ว สนามกอล์ฟนี้เริ่มเปิดเมื่อปี 2528 วันนี้ 38 ปีผ่านไป พื้นที่ตรงนี้เปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่ได้ไกลปืนเที่ยงอย่างเมื่อก่อนแล้ว มีหมู่บ้านจัดสรร มีคนอยู่เต็มไปหมด แล้วคูคต ลำสามแก้ว ลาดสวายตรงนี้ คนไม่ค่อยมีที่ออกกำลังกาย เป็นบ้านเรือนหนาแน่นเต็มไปหมด แล้วคนไม่รู้จะไปออกกำลังกายที่ไหน คุณคิดดูนะ ลองเข้าไปดู ไปวิ่งกันอยู่ตรงพื้นที่แคบๆ หรืออย่างตรงรังสิตเอง พื้นที่ใกล้ๆ ติดกันก็ไปวิ่งอยู่ริมเขื่อน สภาพก็ไม่ได้ดีมากนะ
“แต่ตรงนี้ พื้นที่สนามกอล์ฟ 625 ไร่ ถ้าเอามาทำสวนสาธารณะนะ ผมว่าน่าจะได้พื้นที่ที่ดี เอามาทำศูนย์เรียนรู้ ในความหมายของผมคือศูนย์เรียนรู้ พับลิกสเปซต่างๆ ทีเคพาร์ค บางคนบอก TCDC โอเค ให้เด็กได้มาใช้ห้องสมุด ใช้อินเทอร์เน็ตฟรี แน่นอนต้องมีพ่อค้าแม่ขายเปิดร้านให้ทำมาค้าขายได้”
เชตวันยืนยันที่จะผลักดันเรื่องนี้เข้าสู่สภาฯ โดยการทวงคืนสนามกอล์ฟทหารให้เป็นสวนสาธารณะแก่ประชาชน โดยไม่ใช้งบประมาณแม้แต่บาทเดียว ถามกลับว่ามีพรรคการเมืองไหนกล้าทำไหม และบอกว่าสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์เป็นธุรกิจที่ใช้พื้นที่ราชพัสดุ แต่ทหารอากาศไม่เคยเปิดเผยงบประมาณและบัญชีให้ประชาชนตรวจสอบ พร้อมยังไล่ให้นายพลไปตีกอล์ฟไกลๆ ในพื้นที่อื่น เพราะสภาพแวดล้อมของพื้นที่ตรงนี้เปลี่ยนเป็นเมืองที่คนอยู่อย่างหนาแน่นแล้ว
“ผมเข้าไป ผมก็เสนอญัตติร่างพระราชบัญญัติแก้ไขทวงคืนสนามกอล์ฟกองทัพ กลับมาเป็นของราชพัสดุ แล้วให้คนปกครองส่วนท้องถิ่นมาขอใช้ ผ่านวาระหนึ่ง ตั้งกรรมาธิการ วาระสอง วาระสาม โอนคืนกลับ จบ เรียบร้อย ไม่ได้ใช้งบประมาณแม้แต่บาทเดียว แต่คำถามของผมคือ มันมีพรรคการเมืองไหนที่มีเจตจำนงจะกล้าทำไหม ผมคิดว่าไม่มี เราคิดว่าพรรคก้าวไกลเท่านั้นที่กล้าทำเรื่องนี้”
เชตวันกล่าวต่ออีกว่า คนตีกอล์ฟส่วนใหญ่เป็นนายพล และคนตีกอล์ฟส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนรวย ซึ่งคนเหล่านี้ไปตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟธัญญะ ลำลูกกาคลอง 3 ของเอกชน โดยที่ผ่านมา กองทัพและหน่วยทหารเอาที่ราชพัสดุมาแข่งทำธุรกิจกับเอกชน เงินงบประมาณของตรงนี้ กองทัพอากาศไม่เคยแจ้งรายได้ และบัญชีต่างๆ ก็ไม่เคยเปิดเผย
“ผมคิดว่าถ้าเรื่องที่มันตรวจสอบไม่ได้แบบนี้ แล้วก็เรื่องของสภาพพื้นที่ที่มันเปลี่ยนไปแล้ว คุณไม่ต้องเป็นสนามกอล์ฟอีกแล้ว เอามาทำอย่างอื่น มันคือเจตจำนงว่าคุณจะทำมันคือที่หลวง ไม่ใช่ที่กองทัพอากาศ ทว่าเป็นที่ของราชพัสดุ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ถ้าคุณยังอยากจะให้เขาทำสนามกอล์ฟอยู่นะ แต่ต้องไม่ใช่กลางเมือง ราชพัสดุก็ต้องไปให้ใช้ที่อื่น ไปเอาที่ไกลๆ ก็ได้
“ถ้านายพลอยากตีกอล์ฟก็ไปใช้สวัสดิการของที่ที่อยู่ไกล ที่ไม่ใช่ตรงนี้ เพราะที่ตรงนี้เป็นเมืองแล้ว คนอยู่กันหนาแน่น มันไม่เหมือนเดิม สภาพพื้นที่มันเปลี่ยนไป”
ด้านเสียงตอบรับของประชาชาชนในพื้นที่คูคต ลำสามแก้ว และลาดสวาย เชตวัน บอกว่ามีผลตอบรับที่ดี เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่เคยใช้ประโยชน์ตรงนี้
“เวลาผมพูดเรื่องนี้ทุกคนเห็นด้วย เพราะว่าเขาไม่ใช่คนที่ได้ใช้ประโยชน์ คนคูคต 1.1 แสนคน ตรงนี้ไม่เคยได้ใช้ประโยชน์ ผมถามว่ามีกี่เปอร์เซ็นต์ใน 1.1 แสนคน ที่ได้เข้าไปในนั้น น้อย คนลาดสวาย 7 หมื่นกว่าคน มีกี่คนที่ได้เข้าไปในนั้น น้อย เพราะฉะนั้น ถ้าเทียบกัน คูคต ลำสามแก้ว ลาดสวาย ประชากร 1.8 แสนกว่าคนในพื้นที่ ผมคิดว่าแทบจะไม่มีใครได้เข้าไปในนั้น แทบจะไม่มีใครได้ใช้ประโยชน์”
นอกจากเชตวันจะมีนโยบายเรื่อง ‘สนามกอล์ฟ’ แล้ว เขายังมีนโยบายอีก 3 ข้อ ได้แก่ นโยบายเรื่องขนส่งสาธารณะให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ คือรถเมล์ไฟฟ้าและน้ำประปาดื่มได้ ซึ่งเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน นโยบายเลือกตั้งผู้ว่าราชการทุกจังหวัด เพื่อกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลรณรงค์มาโดยตลอด
ขณะเดียวกัน เชตวันยังมีความสนใจส่วนตัวและนำนโยบายเรื่องการให้รัฐบาลไทยลงนามในธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ (Rome Statute of International Criminal Court: ICC) เพื่อเอาตัวการผู้สลายการชุมนุม หรือผู้ก่ออาชญากรรมรัฐมาลงโทษ ไม่เฉพาะเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดง แต่รวมตั้งแต่เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 และเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 2535 เพื่อเป็นหมุดหมายสำคัญที่จะทำให้ทหารวางอาวุธ มาเป็นจุดขายสำคัญสำหรับการหาเสียงในพื้นที่ของเขา พื้นที่จังหวัดปทุมธานี อันเป็นเมืองหลวงสำคัญของ ‘คนเสื้อแดง’
ทั้งนี้ คู่แข่งสำคัญของเชตวันในพื้นที่เขต 6 จังหวัดปทุมธานี ได้แก่ ชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ ส.ส.เดิมจากพรรคเพื่อไทย และเกียรติศักดิ์ ส่องแสง จากพรรคพลังประชารัฐ
“ผมมั่นใจว่าผมไม่แพ้” เชตวันระบุ
Tags: เชตวัน เตือประโคน, ปทุมธานี, สนามธูปะเตมีย์, สนามกอล์ฟ, ทหารอากาศ, ปฏิรูปกองทัพ, สวนสาธารณะ, ก้าวไกล, Democracy Strikes Back