เมื่อวานนี้ (24 กรกฎาคม 2023) สำนักข่าวเดอะการ์เดียน (The Guardian) รายงานถึงความวิตกกังวลของกลุ่ม LGBTQIA+ ในประเทศมาเลเซีย เมื่อสังคมอาจเพิ่มความเกลียดชังและเลือกปฏิบัติต่อชุมชนความหลากหลายทางเพศยิ่งขึ้น หลัง แมตตี ฮิลีย์ (Matty Healy) นักร้องนำวง The 1975 วิจารณ์กฎหมายต่อต้าน LGBTQIA+ ในการแสดงคอนเสิร์ต Good Vibes Festival 2023 ที่มาเลเซียอย่างออกรส
“ผมไม่เห็นจุดประสงค์เxี้ยอะไรทั้งนั้นในการเชิญ The 1975 มาที่ประเทศหนึ่ง และบอกเราว่า ใครคือกลุ่มที่เราควรมีเซ็กซ์ด้วย
“โชคไม่ดี คุณจะไม่ได้ฟังเพลงปลุกใจมากนัก เพราะผมโคตรโมโหเลย และมันไม่ยุติธรรมสำหรับคุณ เพราะคุณไม่ใช่ตัวแทนของรัฐบาล คุณคือคนหนุ่มสาว และผมมั่นใจมากว่าคุณคือเกย์ เท่และเจ๋ง” แมตตีกล่าวกับผู้ชมและหันไปจูบปาก รอส แม็กโดนัลด์ (Ross MacDonald) มือเบสประจำวง ระหว่างที่กำลังเล่นเพลง I Like America & America Likes Me ประมาณ 30 นาที ก่อนจะลงจากเวที และกล่าวกับผู้ชมว่า เขาถูกแบนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผลกระทบที่เกิดขึ้นในมาเลเซียหลังจากนั้น คือผู้จัดงานยกเลิกเทศกาลคอนเสิร์ตสุดสัปดาห์ทั้งหมด โดยต้องคืนค่าบัตรตามคำสั่งของกระทรวงสื่อสารและดิจิทัล ขณะที่รัฐบาลมาเลเซียประกาศใช้มาตรการเข้มงวดสำหรับการเข้าชมศิลปินต่างชาติในประเทศมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ มาเลเซียมีข้อครหามากมายถึงนโยบายเลือกปฏิบัติทางเพศ และความเกลียดชังต่อกลุ่ม LGBTQIA+ นับตั้งแต่การมีกฎหมายอาญาในยุคอาณานิคมของอังกฤษ ที่กำหนดบทลงโทษจำคุก 20 ปี หากมีเพศสัมพันธ์ทางปากและทวารหนัก ขณะที่สหพันธรัฐอื่นๆ อย่างกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) และปุตราจายา (Putrajaya) ก็มีกฎหมายชารีอะห์ (Sharia) ที่ระบุว่า การมีเพศสัมพันธ์กับกลุ่มเกย์เป็นอาชญากรรมอีกอย่างหนึ่ง และถือเป็นความวิปริตทางเพศ
สถานการณ์ของมาเลเซียในช่วงที่ผ่านมายังเป็นข้อบ่งชี้ถึงความหวาดกลัวของชุมชนความหลากหลายทางเพศชั้นดี เพราะรัฐพยายามปราบปรามคนกลุ่มนี้มากขึ้น หลังมีการจับกุมประชาชนราว 20 คน ในเทศกาลฮัลโลวีนปีที่ผ่านมา (2022) ซึ่งเจ้าหน้าที่อ้างว่า พวกเขาทำผิดกฎหมายชารีอะห์ โดยแยกชาวมุสลิมผู้เข้าร่วม และระบุตัวบุคคลที่ไม่ได้แต่งกายสอดคล้องกับเพศกำเนิด
“สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ การจู่โจมในคืนนั้นน่ากลัวมาก และฉันคิดว่า พวกเราหลายคนก็อยู่ด้วยความหวาดกลัวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
“ในโลกที่มีสถานที่มากมาย สถานบันเทิงยามค่ำคืนที่ประกอบด้วยกลุ่มความหลากหลายทางเพศ ทำให้กลุ่ม LGBTQIA+ รู้สึกปลอดภัยและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน” มิฮาอิล ฮานาฟี (Mihail Hanafi) แสดงความคิดเห็นถึงความสำคัญของชีวิตยามค่ำคืนของกลุ่ม LGBTQIA+ ที่มากกว่าการสันทนาการ แต่หมายถึงการปลอบประโลมทางจิตใจร่วมกับผู้คนในชุมชน
การกระทำของแมตตีจึงทำให้นักเคลื่อนไหวประเด็นความหลากหลายทางเพศเกิดความกังวลว่า อาจเป็นโหมการกระหน่ำความเกลียดชังต่อกลุ่ม LGBTQIA+ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาเลเซียกำลังอยู่ในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งท้องถิ่น และนักการเมืองอาจนำกระแสต่อต้านนี้ปลุกปั่นเพื่อเรียกความนิยมในหมู่ประชาชน
“เขาบินออกจากประเทศนี้ไป และไม่ได้เผชิญกับผลที่ตามมาใดๆ ขณะที่ผู้คนในประเทศมาเลเซียต้องเจอกับความรุนแรงของเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น
“ถ้ามีศิลปินต่างชาติมาที่มาเลเซีย และอยากจะช่วยเหลือเรา พวกเขาต้องทำความเข้าใจว่า สิ่งเหล่านี้ควรทำอย่างไร สิ่งที่ถูกต้องในตะวันตก ไม่สามารถใช้ได้กับที่นี่ พวกเขาสร้างสิ่งเลวร้ายมากกว่าดี
“ถ้าแมตตีทำเพื่อชุมชนของเรา เขาจะรู้ว่า เราต้องเจอผลที่ตามมาอย่างไร” คาร์เมน โรส (Carmen Rose) นักแสดงแดร็ก (Drag) อธิบายความคิดเห็นกับเดอะการ์เดียน โดยเสริมว่า การกระทำของแมตตีเป็นเพียงการแสดงและความดื้อดึง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักร้องชื่อดังทำพฤติกรรมดังกล่าว ในปี 2019 เขาเคยจูบแฟนเพลงผู้ชายในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีกฎหมายต่อต้านความหลากหลายทางเพศเช่นเดียวกัน
แม้จะมีกลุ่ม LGBTQIA+ บางส่วนวิจารณ์การกระทำของรัฐบาลมาเลเซีย และออกโรงสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออก แต่พวกเขาไม่เห็นด้วยกับคำพูดของแมตตี เพราะนี่ไม่ใช่สารที่นักกิจกรรมผู้สนับสนุนความหลากหลายทางเพศต้องการเผยแพร่ออกไป
“เราพยายามทำงานอย่างหนัก ทั้งประสานงานในกลุ่มใต้ดิน งานชุมชน และพบผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่น
“การกระทำเช่นนี้ต่อหน้าผู้คนมากมาย ที่ไม่มีความเข้าใจต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มเควียร์ นี่คือความร้ายแรง” เดีย เรสกิ โรไฮซาด (Dhia Rezki Rohaizad) รองประธานกลุ่มเคลื่อนไหว Jejaka ที่สนับสนุนเกย์ ไบเซ็กชวล และเควียร์ในมาเลเซีย อธิบายความรู้สึกว่า เหตุการณ์บนเวทีของ The 1975 อาจทำให้ความพยายามในการรณรงค์พังลงภายในค่ำคืนเดียว
ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันยังไม่ทำให้กลุ่มความหลากหลายทางเพศในมาเลเซียสบายใจขึ้นแต่อย่างใด เพราะคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของประเทศเน้นย้ำว่า เสรีภาพในการแสดงออกต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของกฎหมายท้องถิ่นและวัฒนธรรม
“นี่คือบททดสอบสำคัญในการปกป้องกลุ่ม LGBTQIA+ ในมาเลเซีย แน่นอนว่าผู้คนต้องกังวลกับสถานการณ์ดังกล่าว เพราะพวกเขารู้สึกว่า ตนเองไม่ได้รับการปกป้อง หากมีเรื่องราวร้ายแรงเกิดขึ้นจริง” ธิลากา สุลาธิเรห์ (Thilaga Sulathireh) นักเคลื่อนไหวจากกลุ่ม Justice for Sisters กล่าว
อ้างอิง
Tags: แมตตี ฮิลีย์, ปุตราจายา, เพศสภาพ, อาเซียน, มาเลเซีย, LGBTQ, ความเท่าเทียมทางเพศ, the 1975, การเลือกปฏิบัติทางเพศ, LGBTQIA+, กัวลาลัมเปอร์