NOMR แบรนด์น้ำหอมสัญชาติไทยเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อม 9 กลิ่นแรกจาก 3 ซีรีส์ ที่ตั้งต้นจากไอเดียตรงข้ามตลาดน้ำหอมส่วนใหญ่ ไม่ขายความหรูหราหรือภาพแฟนตาซี แต่ให้ความธรรมดาของเรามีที่ยืน ผ่านแนวคิดว่า ความธรรมดาคือสิ่งที่ประกอบสร้างตัวตนของแต่ละคนอย่างแท้จริง

“ทุกวันนี้เราถูกเร่งให้โดดเด่นตลอดเวลา ต้องสำเร็จตั้งแต่อายุน้อย ผมเลยอยากให้คนโอบรับความธรรมดาของตัวเอง” ซี-อนันต์สิทธิ์ วงศ์กรวณิชย์ ผู้ก่อตั้ง NOMR เล่า

สำหรับซี กลิ่นคือ ‘ศิลปะที่ตีความไม่ได้’ เชื่อมโยงกับความทรงจำแบบสัญชาตญาณ “เวลาเราเห็นภาพหรือฟังเพลง มันต้องตีความ แต่กลิ่นมันเชื่อมกับความทรงจำทันที มันจริงกว่า ผมเลยใช้มันเล่าเรื่องความเป็นเรา แบบไม่ต้องปรุงแต่ง” นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ที่ไม่ได้ต้องการขายพรีเมียมหรือความหรูหรา แต่ขายประสบการณ์ส่วนตัว ความทรงจำ และตัวตนที่เรียบง่าย

สำหรับคอนเซปต์ของแบรนด์ ซีมองว่า ทุกวันนี้คนเราถูกบังคับจากสภาพสังคมว่า ต้องประสบความสำเร็จเร็ว มีเงินล้านก่อนอายุ 30 ซึ่งเขารู้สึกว่าไม่ควรมีใครมาบอกว่าเราต้องเป็นยังไง “ผมอยากให้ทุกคนยอมรับการเป็นตัวเองและมีความสุขกับความเป็นตัวเอง ก็เลยตั้งคำถามกับตัวเองต่อว่า อะไรคือสิ่งที่หล่อหลอมให้เราเป็นเราในทุกวันนี้ คนอื่นอาจวิ่งหาความพิเศษ แต่ NOMR วิ่งหาความธรรมดา”

สิ่งที่น่าสนใจคือ NOMR เปิดตัวพร้อม 9 กลิ่นจาก 3 ซีรีส์ เพื่อแสดงความเป็นไปได้ของการเล่าเรื่องผ่านกลิ่นในหลายมิติ และอีกหลายเรื่องราวที่สามารถบอกเล่าได้ ซีเล่าว่า “เราอยากให้ผู้คนได้สัมผัสความสนุกสนานจากการดมกลิ่น ไม่ว่าจะเป็น Teace and Time ที่ดูค่อนข้างธรรมชาติ, Artifact of Memory ความทรงจำและของคุ้นเคย และ Off-Thai Record ความเป็นไทยแบบใหม่ที่ไม่ผูกกับสปา ผมอยากท้าทายกรอบเดิมว่าสมุนไพรไทยต้องเป็นกลิ่นสปาเท่านั้น จริงๆ มันเท่และทันสมัยได้

“เราอยากขยายมิติของกลิ่นให้กว้างขวางมากขึ้น กลิ่นที่เราเปิดตัวไปในวันนี้ค่อนข้างมั่นใจว่า กลิ่นที่ได้ดมจะมีความแปลกใหม่และมีความหอมในตัว เราอยากให้กลิ่นที่พัฒนาขึ้นมาเป็นศิลปะที่สามารถสวมใส่ได้ ให้คนรู้สึกว่าแปลกใหม่สวมใส่ได้โดยไม่เคอะเขิน”

อีกมุมที่สะท้อนศักยภาพของแบรนด์ไทยคือ การเปิดตัวแบบ Soft Launch ในประเทศจีนก่อนหน้านี้ ซึ่งได้รับการตอบรับดี เมื่อถามว่าตลาดต่างประเทศมองแบรนด์ไทยอย่างไร ซีตอบอย่างมั่นใจว่า “ถ้าในเนื้อกลิ่น เราไม่ได้แพ้ชาติไหนเลยครับ ปีที่แล้วเพื่อนผมก็ได้รางวัลปรุงน้ำหอมระดับสากล ซึ่งเป็นคนไทย ผมเลยมองว่า ถ้าเราตั้งใจทำ เราไม่แพ้ที่ไหน”

ซีมองว่าจุดแข็งสำคัญมาจากความหลากหลายของวัตถุดิบและมุมมองใหม่ในภูมิภาคนี้

“อุตสาหกรรมน้ำหอมส่วนใหญ่ เวลาแบรนด์ตั้งขึ้นมา ก็จะไปติดต่อ Perfume House ซึ่งมีอยู่ไม่กี่แห่งในโลก กลิ่นที่ได้เลยมักคล้ายกันและไม่แปลกใหม่มาก”

แต่ปัจจุบันฝั่งตะวันตกกลับให้ความสนใจน้ำหอมจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น เพราะมีความสดใหม่และตีความกลิ่นแบบไม่ติดกรอบเดิม

เบื้องหลังการพัฒนาใช้เวลานานกว่า 1 ปี ผ่านการทดลองหลายรอบ “บางกลิ่นเสร็จเร็ว แต่บางกลิ่นต้องเริ่มใหม่หลายครั้งกว่าจะได้ฟีลที่ต้องการ เพราะเรามองมันเป็นศิลปะที่สวมใส่ได้ ไม่ใช่สินค้าที่ต้องรีบปล่อยตามเทรนด์”

ในบรรดา 9 กลิ่น Stilled Time คือกลิ่นที่เขารู้สึกว่าเป็นตัวเองที่สุด เป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกถึงสายลมริมหน้าผาที่พัดแรงจนทุกสิ่งในใจเริ่มคลี่คลายออกมา ลดความกังวลต่างๆ ที่เคยแบกไว้ส่วน Even Bloom คือกลิ่นที่เขารักที่สุด เพราะได้แรงบันดาลใจจากสวนที่แม่ปลูก “ทำ 2 รอบก็สำเร็จทันที เหมือนความทรงจำมันช่วยปรุงกลิ่นจริงๆ”

สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้น้ำหอม ซีแนะนำ Holiday กลิ่น Mango Mojito ที่มีความสดชื่นและความหวานอยู่ในตัว และ Sky fold ซึ่งเป็นกลิ่นที่จำลองท้องฟ้ายามเย็นในฤดูหนาว ซึ่งเป็นกลิ่นที่เข้าถึงง่าย 

Tags: , , ,