อันที่จริง ประวัติศาสตร์ว่าด้วย 6 ตุลาฯ อยู่ภายใต้ ‘ความเงียบ’ มาเนิ่นนาน

ในช่วง 10 ปีแรก ไม่มีใครอยากพูดถึงเหตุการณ์นี้ พวกเขา ‘อับอาย’ เกินกว่าที่จะบอกว่า การกระทำดังกล่าวเป็น ‘อาชญากรรม’ ไม่ว่าการกระทำนั้นจะทำในนามของอะไร

ขณะที้ผู้ถูกกระทำก็ยังเต็มไปด้วยบาดแผล เต็มไปด้วยร่องรอย ภาพการสังหารโหดยังผลิตซ้ำในความฝันของพวกเขาทุกเมื่อเชื่อวัน

และทำให้หนังไทยก็ไม่สามารถสะท้อนเหตุการณ์ดังกล่าวออกมาอย่างตรงไปตรงมาได้ เรื่อง 6 ตุลาฯ เป็นแผลสดเกินไป ไม่มีใครอยากรำลึกถึงแผลสดเช่นนี้

กระนั้นเองในระยะหลัง หนังว่าด้วย 6 ตุลาฯ กลับถูกผลิตมากขึ้น เมื่อสังคมกลับมาพูดถึงเรื่องนี้เป็นวงกว้างและเป็นระบบ ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ที่ ‘อยากลืม’ แต่เป็นประวัติศาสตร์ที่ต้อง ‘จดจำ’

People Also Watch ชวนย้อนดูหนังที่ว่าด้วย 6 ตุลาฯ อีกครั้ง ผ่านหนังไทย-ซีรีส์ ที่เราเลือกมา 9 เรื่อง เพื่อย้อนดูว่าในประวัติศาสตร์ ความโหดร้ายครั้งนี้ถูกบันทึกลงในหนังสือเรียน 1-2 ย่อหน้าเท่านั้น ราวกับว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครอยากรื้อฟื้น ทว่าประวัติศาสตร์นี้ได้ถูกบันทึกเรื่องราวลงในสื่อกระแสหลักอย่าง ‘ภาพยนตร์’ และ ‘ละคร’ ที่มีการเสริมแต่งเรื่องราว หรือหยิบยกเอาเหตุการณ์ 6 ตุลามาเป็นฉากหลังของเรื่อง

เวลาในขวดแก้ว (2534) ว่าด้วยการเปลี่ยนผ่านของช่วงวัยและการเติบโต

หนังไทยเรื่องนี้สร้างจากนวนิยายของ ประภัสสร เสวิกุล ที่ออกวางขายเมื่อปี 2528 ในยุคที่เหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ยังคงอยู่ภายใต้ความเงียบงัน เวลาในขวดแก้ว (2534) เล่าชีวิตของตัวละครหลักทั้ง 6 คน ได้แก่ นัต หนิง ป้อม จ๋อม ชัย และเอก โดยมีแบ็กกราวนด์เป็นเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เรื่อยไปจนถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 

กระนั้นเองภาพเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ไม่ได้ปรากฏในหนังโดยตรง หากปรากฏผ่านภาพการชุมนุมของแรงงาน-กรรมกร ข่าวในวิทยุที่พูดถึงการแสดงละครอาฆาตมาดร้ายรัชทายาท ตัวเอกของเรื่องถูกขังไว้ที่บ้านในขณะที่เกิดเหตุการณ์ล้อมปราบ ขณะที่หลังจากนั้นตัวเอกอีกคนสวมเสื้อเปื้อนเลือดบรรยายถึงเหตุการณ์ ‘สังหารหมู่’ ให้ตัวเอกที่อยู่ที่บ้านฟัง ฉากที่หมอปฏิเสธให้การรักษาผู้ที่บาดเจ็บจากเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ เหตุการณ์เหล่านี้ ล้วนมีส่วนทำให้ชีวิตของทุกตัวละครในภาพยนตร์เปลี่ยนไปตลอดกาล

เฉกเช่นเดียวกัน ‘วัยรุ่น’ และ ‘นักศึกษา’ ที่ผ่านเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ล้วนเติบโตขึ้นจากเหตุการณ์ล้อมปราบ จำนวนไม่น้อยเลือกเข้าป่าเพื่อร่วมเส้นทางกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย อีกจำนวนหนึ่งแม้ยังอยู่ที่เดิม แต่ชีวิตที่สูญเสียเพื่อน ชีวิตที่ผ่านเหตุการณ์สังหารหมู่ ย่อมเปลี่ยนพวกเขาไปเช่นเดียวกัน

เวลาในขวดแก้ว เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกๆ ที่พูดถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ตามหลัง ช่างมันฉันไม่แคร์ (2529) ของ หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล ซึ่งตัวละครเอกหญิงมีแบ็กกราวนด์ผ่านเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ มาเช่นเดียวกัน

14 ตุลาฯ สงครามประชาชน (2544) หนังกระแสหลักเรื่องแรกที่ฉายภาพพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย

ในครั้งแรก ภาพยนตร์เรื่องนี้จะใช้ชื่อว่า คนล่าจันทร์ ตามหนังสืออัตชีวประวัติของ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 แต่ด้วยเหตุผลทางการตลาด บริษัทผู้สร้างเห็นว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้จะขายได้ยาก จึงเปลี่ยนชื่อภายหลังเป็นชื่อนี้

ภาพยนตร์ตัดสลับเหตุการณ์ระหว่างช่วง 14 ตุลาฯ และช่วงชีวิตในป่าของเสกสรรค์ โดยเสกสรรค์ถือเป็นแกนนำที่ตัดสินใจ ‘เข้าป่า’ นับจากเกิดปฏิบัติการล่าสังหารแกนนำนักศึกษา เกษตรกร และผู้นำแรงงานในช่วงปี 2518-2519 ซึ่งแน่นอนว่าทั้งช่วง 14 ตุลาฯ และช่วงชีวิตในป่าของเสกสรรค์ล้วนเผชิญกับความขัดแย้งทางอุดมการณ์ในแบบที่เหมือน และแตกต่างกันออกไป ที่สำคัญยังตั้งคำถามเรื่อง ‘อุดมการณ์ปฏิวัติ’ ได้อย่างแหลมคม 

อีกเรื่องที่น่าพูดถึงคือ การตัดสลับเรื่องราวระหว่างช่วง 14 ตุลาฯ โดยเรื่อง 14 ตุลาฯ แทนด้วยภาพขาวดำและเรื่องราวในป่าแทนด้วยภาพสี ซึ่งนับว่าใหม่สำหรับหนังไทย ขณะเดียวกันในบรรดาหนังไทย นี่คือหนังเรื่องแรกที่พูดถึงชีวิตในป่าของบรรดาแนวร่วมพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ทั้งเรื่องอุดมการณ์ เรื่อยไปจนถึงเรื่องที่เกิดความขัดแย้งระหว่างแนวคิดของฝั่งนักศึกษากับฝั่งแกนนำ

6 ตุลาฯ ในเรื่องเล่าผ่านวิทยุทรานซิสเตอร์ โดยเสกสรรค์นำวิทยุไปให้แกนนำ พคท.ฟังเกี่ยวกับเหตุการณ์สังหารหมู่ ทว่าแกนนำ พคท.กลับสนใจเรื่องราวที่ ‘แก๊งสี่คน’ ในจีน ถูกโค่นล่ม 1 เดือน ภายหลังการเสียชีวิตของ เหมา เจ๋อตง (Mao Zedong) ซึ่งเท่ากับว่า ศูนย์กลางอำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์ในจีนกำลังเปลี่ยนมือมากกว่า

ฟ้าใส ใจชื่นบาน (2552) จากกลุ่มเพื่อนสู่ ‘สหาย’ เหตุการณ์ไม่คาดคิด และเสียงหัวเราะในป่าใหญ่

หนังรอมคอมอย่าง ฟ้าใส ใจชื่นบาน (2552) ของ 2 ผู้กำกับ เกริกชัย ใจมั่น และนภาพร พูล​เจริญ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 3 เดือน โดยเป็นการผจญภัยของกลุ่มเพื่อน 4 คนที่ตั้งใจจะไปเที่ยวป่า แต่บังเอิญเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดทำให้ทั้ง 4 ต้องร่วมล่มหัวจมท้ายไปกับสมาชิก พคท.ในป่า

แม้ว่าฟ้าใส ใจชื่นบานจะไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ในโทนเข้มข้นและจริงจัง กลับกันเล่าด้วยความตลกขำขัน ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ไม่น้อยในเรื่องของความไม่สมจริง และลดทอนสาระสำคัญของเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ลงไป

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความแหวกขนบของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมหันกลับมามองเรื่องราว 6 ตุลาฯ อยู่ไม่น้อย อีกทั้งยังชวนเหล่าผู้ชมขบคิดกันไปตามๆ กันว่า ในห้วงเวลาที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าหมองและน่าหดหู่ ยังมีเสียงหัวเราะและเรื่องราวความรักเกิดขึ้นได้หรือไม่ในป่าใหญ่ที่เป็นที่พักพิงของเหล่านักศึกษา ผู้ถูกรัฐกดขี่ข่มเหง

October Sonata รักที่รอคอย (2552) การรอคอย ความรัก และการต่อสู้ทางการเมือง ในช่วงเดือนตุลาฯ

October Sonata (2552) ของ สมเกียรติ วิทุรานิช เล่าเรื่องของ แสงจันทร์ (ก้อย-รัชวิน คงมาลัย) ที่พบกับ รวี (โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) นักเรียนหนุ่มที่กำลังจะไปเรียนต่อเมืองนอก ในงานศพของ มิตร ชัยบัญชา เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2513 และหลังจากนั้นพวกเขายังนัดพบกันที่บังกะโลที่บางแสนเป็นประจำในวันที่ 8 ตุลาคมของทุกปี โดยมี ลิ้ม (บอย-พิษณุ นิ่มสกุล) อีกหนึ่งตัวละครเถ้าแก่ที่หลงรักแสงจันทร์ และเข้ามาเป็นรักสามเส้า

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นโดยอาศัยเค้าโครงของนวนิยายสงครามชีวิต ของศรีบูรพา เล่าชีวิตรักโดยมีเหตุการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ปี 2513-2523 เป็นฉากหลัง เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มีบทบาทสำคัญในฐานะจุดพลิกผันสำคัญ ทำให้รวีต้องเลือกเข้าป่า เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ และบ้านที่รวีสร้างขึ้นเพราะอยากเห็นสังคมดีขึ้นก็ถูกเผาจนไม่เหลือซาก 

ตัวละครเอกของเรื่องกลับมาเจอกันอีกครั้งหลังนโยบาย 66/23 แต่รวีก็ไม่ได้แข็งแรงเหมือนเดิม ป่าทำลายรวีและทำลายความฝันที่จะได้อยู่คู่กับแสงจันทร์ ฉากหลังทางการเมืองที่พลิกผันไปมา เปลี่ยนชีวิตตัวละครไปอย่างไม่มีวันย้อนกลับได้เช่นเดียวกัน

October Sonata ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติ ครั้งที่ 12 ประจำปี 2565 และยังคงมีให้ชมใน Netflix วันนี้

สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ ในปี 2552 ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ มีมากถึง 4 เรื่อง นั่นคือ October Sonata, ฟ้าใสใจชื่นบาน, มหา’ลัยสยองขวัญ และเชือดก่อนชิม หรือก๋วยเตี๋ยวเนื้อคน ที่ปรับแก้บทให้ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ยังคงมีกลิ่นอายหลงเหลืออยู่

บริบททางการเมืองในปี 2552 ตามหลังเหตุวุ่นวายทางการเมืองช่วงปี 2551 ทั้งการชุมนุมอันยาวนานของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (ซึ่งก็มีแกนนำจำนวนไม่น้อยที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ) เหตุการณ์สลายการชุมนุม และความพยายามรัฐประหารที่ล้มเหลว ในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 รวมถึงเหตุการณ์ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ จนนำมาซึ่งการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีเป็น อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยการพลิกขั้วของกลุ่ม เนวิน ชิดชอบ และมีการตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ซึ่งตามมาด้วยเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองยาวนานอีกหลายปี

มหา’ลัยสยองขวัญ (2552) ตำนาน ‘ลิฟต์แดง’ ผีธรรมศาสตร์ ว่าด้วยการสร้างความหมายใหม่ให้กับการต่อสู้ ‘6 ตุลาฯ’

เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ที่เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ หนึ่งในตำนานที่เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีคงหนีไม่พ้นเรื่อง ‘ลิฟต์แดง’ และตำนานนี้เองได้ถูกหยิบยกมาสร้างเป็นเรื่องราวในภาพยนตร์ชุด มหา’ลัยสยองขวัญ (2552) ของ 2 ผู้กำกับ ได้แก่ บรรจง สินธนมงคลกุล และสุทธิพร ทับทิม

เรื่องราวของลิฟต์แดงเป็นการฉายภาพความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่กระทำการเกินกว่าเหตุในการบุกเข้ามายังพื้นที่สถานศึกษา และปิดชีวิตของเหล่านักศึกษา โดยเล่าผ่านชีวิตของ นกน้อย นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 ผู้เป็นหลานสาวของจอมพลนายหนึ่งที่ออกคำสั่งปราบนักศึกษา ต่อมานกน้อยพบลิฟต์แดงที่พาเธอกลับไปยังยังเหตุการณ์สังหารนักศึกษาครั้งนั้น จนได้พบกับเหตุการณ์หลอนชวนขนหัวลุก จากผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิตในลิฟต์แดงของอาคารคณะศิลปศาสตร์

แม้ภาพยนตร์จะเลือกนำเสนอเรื่องราว 6 ตุลาฯ ในฌ็อง Horror โดยใช้ ‘ผี’ เป็นตัวกลางในการเล่าเรื่องราวกลับไปยังเหตุการณ์ความทรงจำอันโหดร้าย แต่อีกนัยหนึ่ง ‘ความเป็นผี’ มักเป็นภาพแทนของ ‘สิ่งแปลกปลอม’ ที่น่ากลัวและอันตราย ดังนั้นการที่ภาพยนตร์เลือกนำเสนอเรื่องราวนักศึกษาในเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ โดยนำไปผูกติดกับความเป็นผี อาจเป็นหนึ่งในวิธีการสร้างความหมายให้การต่อสู้ของนักศึกษา เป็นเรื่องที่น่ากลัวและแปลกปลอมสังคมได้อย่างแยบยล

ดาวคะนอง (2559) เศษเสี้ยวแห่งชีวิตหลังสังหารโหดภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากสุพรรณหงส์

ดาวคะนอง (2559) หนึ่งในภาพยนตร์อินดี้ที่ ‘ดูยาก’ มากที่สุดเรื่องหนึ่งในภาพยนตร์ที่นำเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ มาเป็นปูมหลังของเรื่อง โดยดาวคะนองเป็นผลงานของ อโนชา สุวิชากรพงศ์ และได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวทีสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 26 ประจำปี 2559

สำหรับดาวคะนองเป็นการเล่า ‘เศษเสี้ยว’ เรื่องราวของกลุ่มบุคคลต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์ร่วมกัน ภายหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ซึ่งสร้างบาดแผลให้กับผู้คนทุกชนชั้น ตั้งแต่ชีวิตของนักเขียน ปัญญาชน ตลอดจนชนชั้นแรงงาน

ตาคลีเจเนซิส (2567) ท่องเวลาไปสัมผัสบาดแผลแห่งประวัติศาสตร์

สำหรับภาพยนตร์ที่หยิบยกเอาเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ มาเป็นหนึ่งในฉากหลังคือ ‘ตาคลีเจเนซิส’ ภาพยนตร์ไซ-ไฟของผู้กำกับ ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ที่ได้พอลล่า เทเลอร์ เจ้าของบท ขวัญใจ-สเตลล่า พรหมประทาน จากซิทคอมเนื้อคู่มาเป็นนางเอกของเรื่อง โดยเธอมีชื่อว่า ‘สเตลล่า’

เรื่องราวตาคลีเจเนซิสจะเป็นการท่องเวลาของสเตลล่า เพื่อตามหาพ่อผ่านลูกอ๊อบสีทองอันหนึ่ง ที่เธอค้นพบในค่ายรามสูร อดีตฐานทัพสหรัฐฯ ที่มาตั้งในประเทศไทยครั้นโลกอยู่ในสภาวะสงครามเย็น 

โดยตาคลีเจเนซิสจะเล่าย้อนท่องเวลาไปสัมผัสเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่มีอยู่จริงของไทย ซึ่ง 6 ตุลาฯ เองก็โผล่ขึ้นมาช่วงหนึ่งของภาพยนตร์เช่นเดียวกัน รวมถึงยังมีเสียงปลุกระดมของ ‘ทมยันตี’ ในช่วงเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ สอดแทรกเข้ามาในภาพยนตร์ เท่ากับว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เล่าเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ผ่านทั้งภาพความรุนแรงที่รัฐไทยได้กระทำต่อนักศึกษา เช่น เสียงจากสถานีวิทยุยานเกราะ, ภาพเด็กยืนหัวเราะใต้ต้นมะขาม รวมถึงการระดมยิงใส่นักศึกษา

Shine (2568) เกย์ ประชาธิปไตย การต่อสู้ ปฐมบท 6 ตุลาฯ เกย์ซีรีส์เรื่องแรกจาก Be On Cloud

หนึ่งในซีรีส์ที่มีกระแสร้อนแรงเป็นอย่างมากในปัจจุบันของสังคมไทยอย่าง Shine (2568) เกย์ซีรีส์เรื่องแรกจาก Be On Cloud ผลงานการกำกับการแสดงของ กฤษดา วิทยาขจรเดช, พันพัสสา ธูปเทียน และคำขวัญ ดวงมณี 

Shine เป็นซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องราวในปี 2512 ที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความครุกรุ่นทางการเมือง ตลอดจนการฉายภาพสังคมที่มีข้อจำกัดทางอิสระของความคิดความอ่าน ซึ่งสอดคล้องไปกับบริบทจริงทางการเมืองไทยในยุคนั้น โดย Shine เลือกเล่าผ่านชีวิตของ ตฤณ (รับบทโดย อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์) นักเศรษฐศาสตร์หัวก้าวหน้าที่ต้องการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง และธันวา (รับบทโดย ภาคภูมิ ร่มไทรทอง) นักร้องประจำวง Moonshine ซึ่งเป็นทายาทนักธุรกิจชื่อดัง

โดยคาแรกเตอร์ของตฤณ ผู้เขียนบทของซีรีส์ได้เปิดเผยว่า ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก อาจารย์ป๋วย อึ้งภากรณ์​ ชายผู้เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของโลก

แม้ในเส้นเรื่องของซีรีส์จะไม่ได้อยู่ในลำดับเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ แต่ซีรีส์เรื่องนี้ได้ฉายภาพ ‘สารตั้งต้น’ ของเหตุการณ์ดังกล่าว ผ่านความพยายามในการลุกฮือขึ้นมาต่อต้านกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของ จอมพล ถนอม กิตติขจร ที่ทำให้ประเทศตกอยู่ในสภาวะประชาธิปไตยครึ่งใบ และอีกนัยหนึ่งคือ การวางลำดับเรื่องให้มีเหตุการณ์การประท้วงโรงงานไฟฟ้า ซึ่งสอดคล้องกับบริบทของสังคมไทย ณ เวลานั้น ที่กลุ่มขบวนการนักศึกษาเริ่มมีพลังขับเคลื่อนทางการเมืองมากขึ้น ซึ่งได้ส่งผลโดยตรงมาถึงเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519

Tags: , , , , , , , , , , , , , , , ,