สัปดาห์นี้มีกระแสฮือฮาในแวดวงคอนเสิร์ตเมืองไทย หลังเฟซบุ๊กแฟนเพจของ Avalon Live  ผู้จัดคอนเสิร์ตของเมืองไทย โพสต์ข้อความเชิญชวนแฟนเพลงของ ONE OK ROCK ร่วมชมบันทึกการแสดงสดของพวกเขาที่ญี่ปุ่น ในวันเสาร์ที่ 24 และวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม แบบฟรีๆ ทางยูทูบซึ่งสามารถชมพร้อมกันได้ทั่วโลก แต่นั่นก็ยังเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดได้ไม่เท่ากับข้อความย่อหน้าสุดท้ายที่ Avalon Live เขียนระบุว่า “อุ่นเครื่องกันก่อนเจอตัวจริงที่กรุงเทพฯ ต้นปี 2020 แน่นวล..”

แม้จะยังไม่ระบุวัน เวลา และสถานที่ แต่ข้อความดังกล่าวก็ปลุกสัญชาติญาณร็อกของแฟนคลับ ONE OK ROCK ชาวไทยได้เป็นวงกว้าง ทั้งที่ความจริงหลายท่านน่าจะชมคอนเสิร์ตของพวกเขากันไปอย่างเต็มอิ่มหลายรอบแล้ว เพราะสมาชิกทั้ง 4 คนก็มาทัวร์คอนเสิร์ตที่เมืองไทยบ่อยครั้งเหมือนกัน (ถ้านับรวมกำหนดการของปีหน้า ก็จะเป็นหนที่ 5 แล้ว) แต่แฟนคลับก็ยังคงตื่นตัวพร้อมต้อนรับพวกเขาอย่างเหนียวแน่นเสมอต้นเสมอปลาย

หากคุณสงสัยว่าทำไมวงดนตรีจากญี่ปุ่นวงนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในเมืองไทย และกลายเป็นวงดนตรีรุ่นใหม่จากญี่ปุ่นที่ได้รับการอ้าแขนไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ต่างประเทศทั้งแถบยุโรปและอเมริกาไม่หยุดหย่อน ผู้เขียนขออนุญาตพาไปหาคำตอบ

จุดเริ่มต้น

ONE OK ROCK เกิดจากการรวมตัวของสมาชิกที่ต่างมีความสัมพันธ์สนิทสนมกัน โทรุ (กีต้าร์) นักเรียนหนุ่มไฮสคูล ที่อยากตั้งวงดนตรีในปี 2005 จึงชักชวน เรียวตะ (เบส) เพื่อนที่เคยร่วมวงฮิปฮอปสมัยเด็กมาเล่นเบส ต่อมาก็ไปชวน อเล็กซ์ (กีต้าร์) เสริมความแน่นในภาคริธึ่ม ก่อนจะรวมวงกันครบสมบูรณ์เมื่อได้สมาชิก 2 คนสำคัญอย่าง ทากะ (ร้องนำ) อดีตสมาชิกบอยแบนด์ NEWS และ โทโมยะ (กลอง) ทั้ง 5 คนร่วมกันปล่อยงานออกมา 3 ชุดคือ Zeitakubyō (2007), Beam of Light (2008) และ Kanjō Effect (2008) ค่อยๆ สร้างชื่อที่ญี่ปุ่นด้วยดนตรีสไตล์ อัลเทอร์เนทีฟ ร็อก ผสมกับซาวด์ดนตรีร็อกแบบตะวันตกที่พวกเขาชื่นชอบ ทำให้เพลงของวงมีกลิ่นอายความเป็นสากลต่างจากวงอื่น  

วงร็อกหน้าใหม่เวลานั้นจากโตเกียว ตระเวนสร้างผลงานและเล่นคอนเสิร์ตตามผับ ไลฟ์เฮาส์ สั่งสมประสบการณ์และชื่อเสียงกันเรื่อยมา กระทั่งถึงเหตุสะดุดเมื่อ อเล็กซ์ มือกีต้าร์ของวงถูกจับได้ว่ากระทำความผิดล่วงละเมิดทางเพศนักศึกษามหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้กันดีในวงการบันเทิงของญี่ปุ่นว่าหากดาราหรือศิลปินคนใดมีข่าวฉาวเกี่ยวกับเรื่องทางเพศออกมา ชีวิตหน้าที่การงานจะมาถึงจุดอวสานอย่างแน่นอนเพราะถูกสังคมรุมประณามและบอยคอตผลงานจนแทบไม่มีที่ยืน สุดท้ายแล้วเจ้าตัวก็รับผิดชอบด้วยการออกจากวง ส่วน 4 คนที่เหลือ ทากะ, โทรุ, เรียวตะ, โทโมยะ เลือกเดินหน้ากันต่อและใช้ผลงานทำหน้าที่สยบข่าวฉาวเหล่านั้นไป

ความสำเร็จมาเยือน

จุดพีคที่สุดของวงเกิดขึ้นเมื่อปี 2012 หลังจาก 4 สมาชิก ONE OK ROCK ที่กลายเป็นวงร็อกขวัญใจวัยรุ่นญี่ปุ่นยุคใหม่ไปเรียบร้อย รวมถึงได้ไปเล่นคอนเสิร์ตในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างบูโดคัง ปล่อยซิงเกิล The Beginning ที่กลายเป็นเพลงฮิตระดับประเทศ เปิดกันทั่วบ้านทั่วเมือง เพลงถูกนำไปใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง Ruroni Kenshin (ซามูไรพเนจร) ซึ่งจูงมือพากันประสบความสำเร็จถึงฝั่งไปด้วยกัน ก่อนที่วงจะปล่อยอัลบั้มชุดที่ 6 ชื่อ Jinsei×Boku ออกมาย้ำความสำเร็จระดับประเทศ

กระนั้นเอง ดนตรีร็อกซึ่งผสมกลิ่นอัลเตอร์เนทีฟสากลอันดุดัน ที่ถูกเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ทั่วโลก อันเป็นยุคที่ศิลปินญี่ปุ่นหลายรายเริ่มละทิ้งขนบธรรมเนียมแบบชาตินิยมที่เคยปล่อยผลงานให้คนญี่ปุ่นฟังแบบไม่ง้อตลาดต่างชาติ หันมาเปิดใจปล่อยผลงานบนโลกออนไลน์กันมากขึ้น ทำให้ The Beginning และอัลบั้ม Jinsei×Boku ได้ออกเดินทางไปพบกับคนฟังเพลงสัญชาติอื่นๆ เปรียบเสมือนนามบัตรที่แนะนำตัวให้ชาวร็อกฝั่งตะวันตกทำความรู้จักพวกเขาในฐานะวงดนตรีร็อกจากญี่ปุ่นที่ฝีไม้ลายมือโดดเด่นในระดับสากล

โบยบินสู่ระดับโลก

กระแสความนิยมจากต่างแดนทำให้ปี 2013 ทากะ, เรียวตะ, โทรุ, โทโมยะ ออกทัวร์ต่างประเทศครั้งแรกที่อังกฤษ แม้ส่วนใหญ่จะทัวร์ตามคลับเล็กๆ แต่ ONE OK ROCK แสดงฤทธิ์เดชเต็มที่ไม่ต่างกับโชว์ที่ญี่ปุ่น ผู้ชมที่ดูแล้วติดใจก็นำไปบอกต่อ เกิดกระแสปากต่อปากจนวงถูกดึงไปทัวร์ที่ยุโรป พร้อมถูกแปะป้ายจากผู้จัดหลายงานว่า ‘วงที่คุณต้องดู’

ปี 2014 ทากะและชาวคณะถูกเชิญไปเล่นเทศกาลดนตรีขวัญใจวัยมัน Vans Warped Tour ที่สหรัฐอเมริกา พวกเขาปลดปล่อยพลังจนทำฝรั่งโยกกันหัวหลุด โกยแฟนคลับกลับบ้านเป็นอักโข ก่อนปล่อยสารคดีชุด FOOL COOL ROCK ที่วงไปทัวร์ยุโรปกับเอเชีย เป็นบันทึกการเดินทางที่ส่งเสริมให้แฟนเพลงหน้าใหม่รู้จักพวกเขามากขึ้นกว่าเดิม และรู้ไปถึงหูของ จอห์น เฟลด์มันน์ นักร้อง-มือกีต้าร์ของวงพังค์ร็อก Goldfinger ที่เป็นโปรดิวเซอร์ให้วงร็อกแนวหน้าทั้ง Good Charlotte, Blink-182, The Used, All Time Low, Arteyu ฯลฯ เขาติดใจผลงานของ ONE OK ROCK อย่างรุนแรง และมองว่าวงนี้มีศักยภาพขึ้นไปผงาดในวงการดนตรีโลกได้

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นคือ ทั้ง จอห์น เฟลด์มันน์ ทีมงาน รวมถึง ONE OK ROCK ได้พบเจอพูดคุยกัน ก่อนจะตกลงทำงานร่วมกันเพื่อทำอัลบั้มชุด ‘35xxxv’ ในปี 2015 นับเป็นอัลบั้มแรกเลยที่ทางวงได้ค่าย วอร์เนอร์ มิวสิค ของอเมริกา ช่วยดูแลเรื่องการวางจำหน่ายอัลบั้มนี้เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษทั่วโลก (ส่วนเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นผสมอังกฤษ Amuse ต้นสังกัดของพวกเขาที่ญี่ปุ่นดูแลเหมือนเดิม)  และนั่นก็ทำให้วงได้แฟนเพลงเพิ่มขึ้นอีกจากซิงเกิลฮิตอย่าง Cry Out, Mighty Long Fall

ความนิยมที่พุ่งขึ้นต่อเนื่องทำให้ Fueled By Ramen ค่ายเพลงร็อกของคนรุ่นใหม่ซึ่งมีศิลปินดังอยู่ในสังกัดอย่าง Paramore, Twenty One Pilots, Panic! At the Disco ทาบทาม ONE OK ROCK มาร่วมงานด้วยกัน และในที่สุด ONE OK ROCK เลือกเดินเข้าสู่บ้านหลังใหม่ที่นี่ ก่อนคลอดอัลบั้ม Ambitions! ที่กลายเป็นอัลบั้มยอดนิยมและยกสถานะตนเองเป็นวงร็อกดาวรุ่งระดับโลก รวมถึงชุดล่าสุด Eye Of The Storm ที่เพิ่งปล่อยหมาดๆในปีนี้ พร้อมกับออกทัวร์คอนเสิร์ตในต่างประเทศ และกลับมาหาแฟนเพลงที่ญี่ปุ่น ดูแลกันอย่างทั่วถึงไม่ทอดทิ้ง ขายบัตรหมดเกลี้ยงทุกครั้งไป

สิ่งที่ทำให้ใครๆ หลงรัก ONE OK ROCK

มนต์เสน่ห์ของ ONE OK ROCK ที่ทำให้ชาวร็อกหลายเชื้อชาติทุ่มเทหัวใจหลงรักมีอยู่มากมาย ประการแรกเลยคือดนตรีร็อกของพวกเขา อธิบายง่ายๆ คือเป็น อัลเทอร์เนทีฟ ร็อก ที่ดุดันหนักหน่วง แต่ก็ยังมีเมโลดี้ความป๊อปที่ติดหูได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นเพลงฮิตอย่าง The Beginnning, Clock Strikes, No Scared, Kanzen kankaku Dreamer, Jibun Rock แม้จะเป็นเพลงที่ค่อนข้างหนัก Groove เพลง จังหวะจะโคนรุนแรง แต่ก็ยังสอดไส้เมโลดี้ป๊อปติดหูเข้ามาด้วยทำให้เพลงฟังไม่ยากเท่าหลายๆ วงในสายเดียวกันที่สับกันแหลกทั้งร้องทั้งดนตรีแบบไม่แคร์สื่อ ไปกันสุดทางจนเข้าไม่ถึงคนฟังวงกว้าง

ขณะที่เนื้อเพลง ONE OK ROCK สื่อสารถึงวัยรุ่นทุกคนบนโลกด้วยเนื้อหาเชิงให้กำลังใจ ปลุกใจล่าฝัน ซึ่งเป็นเช่นนั้นเสมอมาไม่ว่าจะทำเพลงที่ญี่ปุ่นหรือต่างประเทศ โดยเฉพาะเพลงฮิตอย่าง Wherever You Are จากอัลบั้ม Niche Syndrome เจ็บช้ำมาเพียงไหน ขอให้เธอรู้ไว้ว่ายังมีฉัน (หรือพวกเรา) อยู่เคียงข้างปลอบใจเสมอ อันเป็นเพลงที่ผู้เขียนชื่นชอบที่สุดของวงนี้ หรือ Stand Out Fit In ซิงเกิลจากอัลบั้มล่าสุด Eye Of The Storm อย่าสนคำคนนินทาเพราะว่าคุณไม่เป็นเหมือนคนทั่วไป จงใช้ชีวิตอย่างมั่นใจและเป็นตัวของตัวเองให้เต็มที่  ขอเพียงไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอ

ถัดมาคือเรื่องการแสดงสด เอาจริงแล้วแม้อัลบั้มล่าสุดอย่าง Eye Of The Storm กระแสไม่ได้เปรี้ยงปร้างเท่าชุดอื่น แถมยังโดนโจมตีเรื่องแนวเพลงที่เปลี่ยนไป หันไปทางป๊อปสมัยนิยมมากขึ้นกว่าดนตรีร็อกที่เป็นคาแรกเตอร์ของวงจนแฟนเพลงที่ติดตามกันมาแต่อ้อนแต่ออกส่ายหน้าหนี ยิ่งไปกว่านั้น ทากะ และผองเพื่อนยังไปเล่นคอนเสิร์ตร่วมกับ Ed Sheeran ศิลปินป๊อปซูเปอร์สตาร์จากสหราชอาณาจักรในฐานะวงเปิดทัวร์เอเชีย ยิ่งตอกย้ำความป๊อปแบบสูญเสียตัวตนเข้าไปใหญ่ (จนโดนแซวว่าไปเปลี่ยนชื่อวงเป็น ONE OK POP เถอะ…)

แม้จะหันมาทำเพลงป๊อปผิดคาแรกเตอร์ แต่ต้องยอมรับว่าเวลาเล่นคอนเสิร์ต Performance และ Energy ของพวกเขายังรุนแรง ดุเดือด และน่าประทับใจไม่เสื่อมคลาย สังเกตได้จากทัวร์ชุด 2-3 ปีหลังสุด ถึงเพลงส่วนใหญ่ที่นำมาเล่นจะเป็นเพลงป๊อปแต่พอเอามาเล่นคอนเสิร์ตกลับดุดันและสนุกมาก สมาชิกทุกคนใส่เต็มที่ไม่มีกั๊กตั้งแต่เพลงแรกยันเพลงสุดท้าย ยิ่งช่วงไหนเอาเพลงเก่าๆ มาเล่น คนดูก็พร้อมใจกันระเบิดความคลั่งออกมาแบบสิบเท้าถีบ  – และนั่นก็ทำให้แฟนคลับเก่าๆ ที่ไม่ชอบงานเพลงชุดใหม่ ตัดสินใจทิ้งพวกเขาไม่ลงสักทีเพราะเล่นสดโคตรมันนี่แหละ (ฮา)

สุดท้ายคือเรื่องภาพลักษณ์ … ก็ต้องบอกว่าวงนี้หน้าตาดีทุกคน มีคาแรกเตอร์ มีออร่าความหล่อเท่ที่ทำให้สาวๆหลายคนหลงใหลชื่นชอบ โดยเฉพาะ ทากะ นักร้องนำที่มีแฟนคลับสาวไทยส่งเสียงกรี๊ดมากเป็นพิเศษ และพร้อมตีตั๋วไปเชียร์พวกเขาแบบติดขอบเวทีอยู่เสมอ /// คล้ายกับ LINKIN PARK ที่ยุคหนึ่งเคยถูกแซวว่าเป็นบอยแบนด์แห่งวงการเพลงร็อก เพราะสมาชิกทุกคนมีภาพลักษณ์หล่อเท่ ต่างจากวงร็อกอื่นๆที่ส่วนใหญ่หนวดเคราเฟิ้ม สักแขนลายพร้อย และภาพลักษณ์ออกไปทางดิบเถื่อนเสียมากกว่า)

ONE OK ROCK กับคอนเสิร์ตที่เมืองไทย

เพราะเป็นวงยอดนิยมที่มีแฟนคลับชาวไทยติดตามผลงานมหาศาล ทำให้ ONE OK ROCK มีโอกาสเดินทางมาเปิดคอนเสิร์ตที่เมืองไทยบ่อยครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2013 ที่ GMM Live House เซ็นทรัลเวิลด์ ที่มาทัวร์สนับสนุนอัลบั้ม Jinsei×Boku ต่อด้วยครั้งที่สอง ปี 2016 กับทัวร์อัลบั้มชุด 35xxxv ที่ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ขณะที่ครั้งที่สาม เกิดขึ้นในปี 2018 กับทัวร์สนับสนุนอัลบั้ม Ambitions! ที่ย้ายไปยังสถานที่ใหญ่โตมากขึ้นนั่นคือ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ซึ่งทุกครั้งที่วงมาเล่นคอนเสิร์ตที่ไทย ก็ปากหวานชมคนดูชาวไทยว่าสุดยอด มาเล่นทีไรก็มีความสุขอยู่เสมอ

หากนับครั้งที่พวกเขามาเป็นวงเปิดให้กับ Ed Sheeran ในทัวร์อัลบั้ม Divide ที่ราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา ก็ถือเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่พวกเขามาเยือนแดนสยาม แต่การมาทัวร์รอบที่ผ่านไปพวกเขาก็ได้ฐานแฟนคลับจาก Ed Sheeran ชาวไทยกลับไปเพียบ เพื่อนๆน้องๆ ของผู้เขียนหลายคนที่ตั้งใจไปดู Ed Sheeran พอได้ดู ONE OK ROCK เล่นเป็นวงเปิดให้ กลับมาถึงบ้านก็ถวายตัวเป็นแฟนคลับกันไปหลายรายและเรียกร้องอยากดูคอนเสิร์ตเดี่ยวของวงอีก

และ Avalon Live ผู้จัดชาวไทยที่เชิญชวน ONE OK ROCK มาเล่นคอนเสิร์ตเดี่ยวที่ไทยตลอด 3 ครั้งแรก ก็ตอบรับกระแสดังกล่าวด้วยการพายอดวงร็อกจากแดนอาทิตย์อุทัยกลับมาเปิดคอนเสิร์ตเป็นครั้งที่ 4 ภายในต้นปี 2020 (แต่ถ้านับรวมกับตอนมาเล่นให้ Ed ก็เป็นครั้งที่ 5 แล้ว) แม้ยังไม่มีการระบุวันเวลาสถานที่ แต่เชื่อว่าแฟนคลับเดนตายหลายท่านก็เก็บเงินเพื่ออุดหนุนบัตรกันเรียบร้อย

ตลอด 14 ปีในวงการดนตรี ONE OK ROCK พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าความสำเร็จทั้งในระดับเอเชียและต่างประเทศ ไม่ใช่เกิดขึ้นจากความฟลุ๊คหรือโชคดี แต่เป็นเพราะสมาชิกทั้ง 4 ทุ่มเททำในสิ่งที่พวกเขารักอย่างเต็มที่ อ้าแขนรับทุกโอกาสที่เข้ามาเพื่อยกสถานะของวงให้ไปไกลกว่าวงดนตรีจากญี่ปุ่นทั่วไป แม้ปัจจุบันจะมีวงดนตรีสัญชาติญี่ปุ่นออกไปตีตลาดเพลงต่างประเทศมากมาย ทั้งวงรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังไม่มีใครสร้างฐานความนิยมในระดับสากลได้มากมายเท่ากับ ONE OK ROCK

รวมถึงที่เมืองไทย ที่ครั้งหนึ่งเราเคยกรี๊ดศิลปิน J-Rock จากยุค 90s อย่าง X-Japan, LUNA SEA, Glay, L’arc En Ciel ฯลฯ แม้กระแสความนิยมเพลงร็อกจากญี่ปุ่นจะเลือนหายไปหลังจากนั้นเพราะการมาถึงของศิลปิน K-Pop ฝั่งเกาหลีหลายวงที่เข้ามาตีตลาดและครองใจวัยรุ่นอย่างเหนียวแน่นยาวนานจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ความโด่งดังของ ONE OK ROCK ก็ชักนำพาดนตรีแบบ J-Rock กลับมาอยู่ในความสนใจของคนไทยอีกระลอก ถึงกระแสอาจไม่แรงเท่าอดีต แต่ทุกวันนี้ก็มีวงดนตรีสมัครเล่นและมืออาชีพหลายๆ วงที่ได้รับแรงบันดาลใจ อิทธิพลมาจากพวกเขา และกลายเป็นฮีโร่ของใครต่อหลายคน

ในฐานะที่เคยดูคอนเสิร์ตของพวกเขามาแล้ว 2 ครั้ง (ปี 2016 / 2018) ชาวร็อกหรือแฟนคลับหน้าใหม่คนไหนที่ยังไม่เคยดูคอนเสิร์ตของ ONE OK ROCK สักครั้ง แนะนำว่าปีหน้าขอให้ไปกันทุกคน เพราะไม่เช่นนั้นคุณอาจพลาดประสบการณ์ทางดนตรีที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตก็เป็นได้

ภาพ: เฟซบุ๊กของ ONE OK ROCK และ Avalon Live