วันนี้ (9 สิงหาคม) เป็นวันแรกที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส พร้อมเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ต่อขยาย) ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เพิ่มขึ้น 1 สถานี ได้แก่ สถานีห้าแยกลาดพร้าว (N9) โดยจะยกเว้นการเก็บค่าโดยสารในช่วงการทดลองในระยะแรกและให้บริการเฉพาะช่วงนอกเวลาเร่งด่วน แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วน รถไฟฟ้าจะให้บริการถึงสถานีหมอชิตเท่านั้น (หากต้องการจะเดินทางไปต่อสถานีห้าแยกลาดพร้าว ต้องลงและเปลี่ยนรถไฟฟ้าขบวนใหม่)
สำหรับสถานีอื่นๆ ในเดือนธันวาคมนี้จะเปิดให้บริการเพิ่มอีก 4 สถานี ได้แก่ สถานีพหลโยธิน 24, สถานีรัชโยธิน, สถานีเสนานิคม และ สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ทั้งนี้ หลังจากมีกระแสการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมว่าค่ารถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่กำหนดเพดานราคาไว้สูงสุด 65 บาทนั้นแพงเกินไป พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ผู้ว่าฯ อัศวิน” ว่า
“การเปิดสถานีใหม่นี้ หากคำนวณอัตราค่าโดยสารตามระยะทางปกติ อาจจะทำให้ผู้ที่ต้องเดินทางระยะไกลต้องเสียค่าโดยสารแพงขึ้น เช่น ผู้ที่เดินทางจากสถานีเคหะ(สมุทรปราการ) ไปยังสถานีคูคต ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร จะต้องจ่ายค่าโดยสารประมาณ 150-160 บาท ซึ่งแน่นอนว่าราคานี้แพงเกินไปสำหรับการจ่ายค่าขนส่งสาธารณะในการเดินทางไปทำงานเป็นประจำทุกวัน เราจึงพยายามลดภาระค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชนด้วยการตั้งเพดานค่าโดยสารให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเงื่อนไขการเจรจา ของเราคือกำหนดเพดานค่าโดยสารตลอดสายอยู่ที่ 65 บาท (ไม่เสียค่าแรกเข้าเพิ่มในส่วนต่อขยาย)”
พร้อมกันนี้ยังได้ชี้แจงรายละเอียดผ่านอินโฟกราฟิก การกำหนดเพดานค่าโดยสาร 65 บาทนี้ว่ามาจากการคำนวณอย่างไรอีกด้วย โดยกล่าวว่าภายใต้เพดานราคา 65 บาทนี้ เป็นการลดเพดานค่าโดยสารลงอย่างน้อย 93 บาทแล้ว
นอกจากนี้ นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยังได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีม่วงซึ่งเก็บค่าโดยสารในอัตรา 14-42 บาท มีรายได้ 400 ล้านบาท/ปี ซึ่งถือว่าขาดทุนเดือนละ 3 ล้านบาท โดย รฟม.ต้องของบประมาณจากรัฐมาจ่ายค่าจ้างเดินรถให้ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ประมาณ 1,100 ล้านบาท/ปี และหากจะมีการลดค่าโดยสารอีกตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้นโยบายไว้นั้น รัฐจะต้องอุดหนุนงบประมาณเพิ่ม
อ้างอิง
https://www.prachachat.net/property/news-358497
https://www.thebangkokinsight.com/189203/
Tags: รถไฟฟ้า, บีทีเอส, สถานีห้าแยกลาดพร้าว, สถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว