จนถึงตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถเดินทางขึ้นไปยังยอดเขาเอเวอเรสต์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกได้ทั้งนั้น แต่หลังจากเกิดปัญหามีนักปีนเขาจำนวนมากติดอยู่ที่บริเวณทางขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์จนมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2019 ทางการเนปาลออกมาบอกว่า กำลังพิจารณาเปลี่ยนกฎใหม่ โดยนักปีนเขาทุกคนจะต้องแสดงหลักฐานว่ามีประสบการณ์ปีนเขา และมีใบรับรองว่ามีสุขภาพดี

ฤดูพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งมีความสูง 8,848 เมตร ปีนี้ มีนักปีนเขายืนเบียดกันแน่นขนัดในพื้นที่ซึ่งมีอากาศหายใจเบาบาง เส้นทางที่แคบและชัน และต้องถือว่าเป็นปีที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ การที่มีนักปีนเขาหน้าใหม่ซึ่งพยายามพิชิตเอเวอเรสต์มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มันอันตรายมากขึ้นสำหรับทุกคน มีทั้งผู้เสียชีวิตจากการตกเขาและผู้ที่ขาดออกซิเจน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากจำนวนคนที่หนาแน่นเกินไปจนต้องใช้เวลารอนาน

ปกติแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์เพียงแค่แสดงสำเนาหนังสือเดินทาง ข้อมูลส่วนตัวและใบรับรองแพทย์ที่แสดงว่าตัวเองแข็งแรงพอที่จะพิชิดยอดเขา พร้อมกับจ่ายเงินค่าธรรมเนียม 11,000 ดอลลาร์สหรัฐ (349,690 บาท) หากเป็นชาวต่างชาติ ส่วนชาวเนปาล 700 ดอลลาร์สหรัฐ (22,253 บาท) เท่านั้น

ปีนีมีนักปีนเขาที่ได้รับอนุญาต 381 คน ซึ่งถือว่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยจะมีไกด์ซึ่งเป็นชาวเชอร์ปะ กลุ่มชาติพันธุ์หนึ่งในเนปาลประกบคู่ด้วยในจำนวนที่เท่ากัน จำนวนนักปีนเขาที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการที่จีนจำกัดจำนวนนักปีนเขาในการเข้าไปยังยอดเขาจากฝั่งจีน เพื่อทำความสะอาด

เหตุเศร้าสลดและการเปิดเผยภาพถ่ายกลุ่มคนที่ยืนเป็น ‘จราจรติดขัด’ ออกมาทำให้เนปาลเร่งหาวิธีแก้ไข ทางการเนปาลกล่าวว่า กำลังวิเคราะห์ว่าเกิดอะไรขึ้นและมีแนวโน้มที่จะบังคับให้นักปีนเขาทุกคนแสดงหลักฐานว่าตนเองมีประสบการณ์การปีนเขา และสุขภาพดีในปีหน้า

มิรา อาชารยะ เจ้าหน้าที่อาวุโสการท่องเที่ยวเนปาลยืนยันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องนักปีนเขาที่ไร้ประสบการณ์

อมิต ชาวเฮอรี ประธานคณะกรรมการความปลอดภัยสมาคมนักปีนเขานานาชาติกล่าวว่า กฎต่างๆ ที่มีอยู่แล้วสำหรับภูเขาอื่นๆ สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางป้องกันไม่ให้นักปีนเขาเป็นอันตราย หรือกระทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมได้

นอกจากนี้ผู้ที่เคยปีนถึงยอดเขาเอเวอเรสต์มาแล้วก็บอกว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีบริษัทใหม่ๆ ที่อำนวยความสะดวกแต่คุณภาพต่ำให้กับนักปีนเขามากมาย เขาเสนอว่าว่า เนปาลควรจะอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่เคยปีนเขาที่สูงกว่า 8,000 เมตรมาแล้วเท่านั้น

รายได้ของเนปาลซึ่งเป็นประเทศยากจนมาจากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ในการพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก มีการคอร์รัปชันและหลอกลวงหลายอย่าง  มีรายงานของสื่อเนปาลและบริษัทประกันชีวิตว่า บริษัทเฮลิคอปเตอร์ โรงแรมและโรงพยาบาลหาเงินจากการหลอกล่อให้นักปีนเขาเข้ารับการประเมินสุขภาพเกี่ยวกับการแพ้ความสูง ในราคาที่แพงมาก และการที่ผู้ให้บริการที่พักแอบพ่นสารพิษใส่อาหารเพื่อให้นักปีนเขาป่วย ทำให้ต้องใช้บริการเฮลิคอปเตอร์ เป็นต้น

ที่มา:

https://www.nytimes.com/2019/05/29/world/asia/mount-everest.html

http://time.com/5596874/mount-everest-deaths-nepal-permits-overcrowding/

https://www.huffpost.com/entry/nepal-everest-rule-changes_n_5cee723ee4b0ae671059d86c

PHOTO: PHUNJO LAMA / AFP

Tags: , ,