หนังผีแต่ละเรื่องย่อมมีดีกรีความหลอนในระดับองศาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบต่างๆ ของหนัง ทั้งเรื่องราวของผีตนนั้น คอสตูม เมกอัพ หรือแม้แต่ประสบการณ์ร่วม และบรรยากาศแวดล้อมของคนดู แต่สิ่งสำคัญที่คอยผลักดันให้หนังเฮี้ยนขึ้นไปอีกขั้น คงหนีไม่พ้นเทคนิคของผู้กำกับแต่ละราย

The Momentum จึงได้ทำการสัมภาษณ์ผู้กำกับหนังผีไทยที่มีลายเซ็นประจำตัวชัดเจนถึงเรื่องราว เทคนิค และสไตล์การหลอกผีในแบบของพวกเขากัน

1.ความสยองบนความตลกร้ายเสียดสีสังคม

ยุทธเลิศ สิปปภาค

ผลงานหลอนขึ้นหิ้ง: ซีรีย์บุปผา

หนังผีของ ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค มีลายเซ็นประจำตัวที่ค่อนข้างชัดเจนเป็นอย่างมาก แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี เขากลับตอกย้ำแนวทางของตัวเองได้อย่างไม่เสื่อมคลาย จุดเด่นที่เขามักจะนำมาใช้ในการถ่ายทอดเรื่องหลอนของเขาคือ ความดิบ ตลกร้าย ลูกบ้าของตัวละคร รวมไปถึงสไตล์การจิกกัดสังคมที่เขามักจะใส่มันลงไปในหนังของตัวเองเกือบทุกเรื่อง

“ผมพยายามทำสิ่งที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันในสังคม แต่กลับถูกเบือนหน้าหนี ที่ผมมักเล่นกับเรื่องพวกนี้ เพราะเป็นเรื่องราวที่ไม่ไกลไปจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคม เช่น เรื่องคนท้องถูกทิ้ง หรือเรื่องเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ ผมว่าสิ่งที่จะทำให้หนังผีน่ากลัวคือ การเชื่อมโยงกับความเป็นจริง เป็นเหตุและผลจับต้องได้ มีความเป็นไปได้สูง บางครั้งเรื่องที่ไกลตัวกับคนดูเกินไปก็อาจจะทำให้เขาจินตนาการถึงมันไม่ออก

“แต่บางครั้งที่ผมหยิบยกเอาเรื่องราวในสังคมมาเล่นในหนังผีมันก็อาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องความน่ากลัวไปซะทั้งหมด ผมแค่อยากบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งลงไปในหนังของผมก็เท่านั้น หนังสามารถเชื่อมโยงได้ว่าในช่วงเวลานั้นมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง หนังส่วนใหญ่ของผมเลยเป็นหนังบันทึกพีเรียดช่วงอายุและสังคม ผมก็บันทึกเรื่องราวของผมไปตามเรื่องตามราว ไม่มีอะไรซับซ้อน มองหนังเป็นพื้นที่อิสระที่จะเก็บอะไรไว้ได้ คงเหมือนอารมณ์คนแต่งเพลงแล้วใส่ความรู้สึกนู้นนี้ลงไป”

“ผมว่าสิ่งที่ทำให้หนังผีน่ากลัวคือ การเชื่อมโยงกับความเป็นจริง
เป็นเหตุเป็นผลจับต้องได้และมีความเป็นไปได้สูง”
ยุทธเลิศ สิปปภาค

2.ฉากเหวอะหวะฉีกกระชากแสนอี๊

ก้องเกียรติ โขมศิริ

ผลงานหลอนขึ้นหิ้ง: ลองของ

เป็นเหตุและผลจับต้องได้ มีความเป็นไปได้สูง บางครั้งเรื่องที่ไกลตัวกับคนดูเกินไปก็อาจจะทำให้เขาจินตนาการถึงมันไม่ออก

คงต้องใช้ความกล้าหาญขั้นขีดสุดในการเสพหนังของผู้กำกับรายนี้ เพราะสกิลการเล่าเรื่องแสนดุดันของเขาช่างโหดเหี้ยมสะท้านทรวงเสียเหลือเกิน หรืออาจเพราะทักษะการรับสารความสยองของเราต่ำไป หรือบางทีอาจจะทั้งสองเหตุผล แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ ถือเป็นหนึ่งในผู้กำกับชั้นเซียนที่วนเวียนกับเรื่องความสะอิดสะเอียนได้อย่างลงตัวและกลมกล่อม ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองกิน ‘ต้มข่าไก่’ ดูสิ!

“ผมตั้งใจสร้างหนังผีแหวะๆ เลยแหละ เล่าก่อนว่าช่วงที่ทำ ลองของ เป็นช่วงที่ผีแบบจูออนเฮี้ยนมาก สร้างทีไรก็ผีจูออนกันหมด ผมยาวๆ คอสตูมสีขาว เดินก้มหน้า เคลื่อนไหวตัวบิดๆ เบี้ยวๆ ไม่ว่ากี่เรื่องเราก็จะเห็นผีถูกถ่ายทอดออกมาลักษณะนี้ ผมเลยมองว่า เฮ้ย หนังผีไทยแม่งเสียดุลว่ะ เลยมานั่งคิดว่าเอกลักษณ์ผีไทยควรจะเป็นอย่างไร สุดท้ายก็สรุปออกมาเป็น ลองของ หนังแนวการ์ตูนสยองขวัญเล่มละบาทที่มีความกร้าน ดิบเถื่อน มีความโลกที่สาม ใช้การสับแหวะความเน่าเฟะในจิตใจของคน ซึ่งประเด็นที่หนังนำเสนอก็เหมาะกับสไตล์การเล่าเรื่องแบบนี้

“หนังส่วนใหญ่ของผมจึงทำการผ่าคนพวกนี้ออกมาให้สังคมได้เห็นว่าคืออะไร อย่างประเด็นที่ Take Me Home พูดถึงก็คือ การที่เราพยายามสร้างภาพหรูหราแต่มีเนื้อแท้ของความไม่สมบูรณ์อยู่ภายใน ซ้ำร้ายเรากลับไม่ยอมรับความไม่สมบูรณ์ที่ว่านี้ เหมือนที่เราพยายามโพสต์รูปกินดี อยู่ดี ชีวิตดี ให้คนอื่นอิจฉา ซึ่งก็อาจจะเป็นการหันด้านสมบูรณ์แบบปลอมๆ ให้คนอื่นเห็น จริงๆ ผมว่าหนังผีก็ไม่ได้ทำหน้าที่ต่างจากหนังทั่วไป มันมีสาระในแบบที่ใช้ความกลัวหรือผีเป็นเครื่องมือ”

 “หนังผีก็ไม่ได้ทำหน้าที่ต่างจากหนังทั่วไป
มันมีสาระในแบบที่ใช้ความกลัวหรือผีเป็นเครื่องมือ”
ก้องเกียรติ โขมศิริ

3.จุดจบหักมุมสุดเหวอ

ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ

ผลงานหลอนขึ้นหิ้ง: ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ

หลังสร้างปรากฏการณ์สุดเฮี้ยนพาคนทั้งประเทศไปเผชิญกับภาพถ่ายติดวิญญาณมาแล้ว โอ๋-ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ยังคงเดินหน้าสร้างความสยองอย่างต่อเนื่องกับ แฝด สี่แพร่ง (ตอน เที่ยวบิน 224) และ ห้าแพร่ง (ตอน รถมือสอง) ซึ่งนอกจากเราจะได้รับความสยองจากหนังเหล่านี้แล้ว ตอนจบสุดหักมุมของหนังพวกนี้ก็ทำให้เราเกิดอาการอึ้งกิมกี่มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

“ช่วงตอนทำหนังใหม่ๆ ผมชอบอ่านเรื่องสั้นหักมุม ผมเลยเกิดความรู้สึกอยากทำหนังที่มีลักษณะเหมือนเรื่องสั้นที่ผมอ่าน แล้วให้มันมีอะไรเซอร์ไพรส์คนดูตอนจบ ช่วงนั้นหนังผีก็เป็นเทรนด์ผีหักมุม อย่างช่วงตอนทำ ชัตเตอร์ฯ หรือ แฝด เราก็บังเอิญได้ทั้งคอนเซปต์พร้อมกับรู้ว่าจะจบอย่างไรในเวลาเดียวกัน เหมือนกับเราเอาคอนเซปต์มาเชื่อมโยงกับตอนจบได้ โครงสร้างของหนังเลยถูกสร้างให้ต้นเรื่องและตอนจบมาเจอกันเลย

“ถามว่าจำเป็นไหมที่หนังสยองขวัญทุกเรื่องต้องหักมุม ไม่จำเป็นหรอกครับ ขึ้นอยู่กับโครงสร้างเรื่องมากกว่า ลัดดาแลนด์ ก็ไม่ได้หักมุม แต่กลับทำให้คนดูรู้สึกสะเทือนใจได้ บางทีการหักมุมแล้วไม่ทำให้คนดูรู้สึกอะไรขนาดนั้น มันก็จะวืดและเชย มันไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่ผมจะยึดไว้ทุกครั้งที่ทำหนังผีว่าจะต้องมีตอนจบแบบหักมุม หนังเรื่องนั้นถึงจะออกมาดี ผมไม่คิดแบบนั้น บังเอิญมันเป็นความพอเหมาะพอเจาะมากกว่า”

“บางทีการหักมุมแล้วไม่ทำให้คนดูรู้สึกอะไรขนาดนั้น มันก็จะวืดและเชย
มันไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่ผมจะยึดไว้ทุกครั้งที่ทำหนังผี”
ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ

4.สู่บทเฉลย คนน่ากลัวกว่าผี

ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล

ผลงานหลอนขึ้นหิ้ง: คน ผี ปีศาจ

มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล หนึ่งในผู้กำกับที่ผลิตผลงานสุดสยองออกมานับครั้งไม่ถ้วน และแต่ละครั้งก็เป็นกระแสถูกพูดถึงทั่วบ้านทั่วเมือง ไล่ตั้งแต่ คน ผี ปีศาจ,13 เกมสยอง หรือล่าสุดกับผลงานซีรีส์ผีจอแก้วครั้งแรกอย่าง ขวัญผวา เมสเสจหนึ่งที่มะเดี่ยวมักเน้นย้ำในผลงานของเขาคือ ‘ผีอาจจะไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเมื่อเทียบกับคน’

“รู้ไหมทำไมคนถึงกลัวหนังของผมแม้ว่าจะออกจากโรงแล้ว เพราะคนดูอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงไง สิ่งที่เขาควรจะกลัวที่สุดก็คือมนุษย์ด้วยกันเอง บางทีผีอาจจะเป็นนามธรรมที่เราจับต้องไม่ได้ แต่คนเป็นสิ่งมีชีวิตที่เราจับต้องได้ ต้องคลุกคลีด้วยทุกวัน หนังของผมก็อาจจะทำให้จินตนาการถึงคนใกล้ตัว ที่สำคัญหนังผีทุกเรื่องมีสาเหตุจากคนทั้งนั้น คนตายเป็นผี หรือคนไปทำอะไรให้ผีแค้น มันเลยเกิดเป็นความอาฆาตพยาบาท

“ผีที่น่ากลัวส่วนใหญ่ก็เกิดจากคนนี่แหละ ความผูกพันของคน ผีตายโหง ผีพยาบาท มนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้นมาทั้งหมด จริงๆ แล้วผีควรจะกลัวคนมากกว่าด้วยซ้ำ ผีหลอกเรา เรายังหนีได้ แต่คนหลอกเราเสียเงินหมดเนื้อหมดตัวเลยนะ ทุกวันนี้เราก็เห็นอยู่ในข่าวทุกวัน ผีฆ่าเราตรงๆ ไม่ได้ แต่คนกระชากกระเป๋าเรา ทำร้ายเรา ฆ่าเราได้ มีหลายอย่างที่ทำให้คนดูน่ากลัวกว่าผี โดยเฉพาะความอยุติธรรมในสังคม”

“มีหลายอย่างที่ทำให้คนดูน่ากลัวกว่าผี โดยเฉพาะความอยุติธรรมในสังคม”
ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล

 

FACT BOX:

  • ต้มข่าไก่ คือฉากหนึ่งจากภาพยนต์เรื่อง ลองของ (2005) ผลงานของ ก้องเกียรติ โขมศิริ โดยในฉากที่เหล่าเด็กวัยรุ่นกำลังกินต้มข่าไก่กันอยู่อย่างเอร็ดอร่อย ความจริงที่น่าสยองก็ถูกเปิดเผย!
  • Take Me Home (2016) ภาพยนต์สยองขวัญโดย ก้องเกียรติ โขมศิริ หนังพูดถึงเรื่องราวการกลับบ้านของชายคนหนึ่งหลังจากต้องพลัดพรากจากบ้านมาเป็นเวลานาน
Tags: , , , , , , , , , , , , , , , , , ,