ว่าด้วยเรื่องความรัก แน่นอนว่าทุกคนล้วนมีมุมมองและนิยามความสัมพันธ์ที่ต่างกัน ทั้งจากประสบการณ์ที่เคยพบและมุมมองจากคนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว หรือเรื่องของ ‘เซ็กซ์’

พบกับมุมมองประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ผ่านความคิดเห็นของ 3 นักแสดงนำจาก ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ เดอะ ซีรีส์ ซีซัน 2 อย่าง เพชร-เผ่าเพชร เจริญสุข, ปิงปอง-ธงชัย ทองกันทม และ เต๋อ-รัฐนันท์ จรรยาจิรวงศ์ ซึ่งแต่ละคำถามและคำตอบจะดุเด็ดเผ็ดมันแค่ไหน ร่วมหาคำตอบจากความคิดเห็นของพวกเขาที่นี่

ความรักเป็นแค่สถานะหนึ่ง
แบบเดียวกับที่เราพูดถึงสถานะของสรรพสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้
เดี๋ยวมันก็จะเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเท่านั้นเอง

เริ่มต้นด้วยการเช็กสเตตัสของแต่ละคนก่อนก็แล้วกัน ตอนนี้สถานะหัวใจเป็นอย่างไรกันบ้างครับ

ปิงปอง: แห้งอย่างไรก็แห้งอย่างนั้นค่ะ ไม่มีใครมายุ่งวุ่นวายเลย แต่ก็เข้าใจว่าเขาคงหนีเราตั้งแต่เห็นขาหนีบเอย ข้อพับที่คอเอย หรือว่ารอยดำตามซอกรักแร้แล้ว

ครั้งสุดท้ายที่ปิงปองมีความรักนี่คือเมื่อไร

ปิงปอง: โห มันนานมากเลยนะ ใกล้เคียงที่สุดคงตั้งแต่ ม.3 จะมีเด็กที่อยู่บ้านใกล้กัน เราจะคอยแอบมองหน้าต่างบ้านเขา ลุ้นว่าเมื่อไรจะมาเปิดตู้เสื้อผ้าที่อยู่ตรงนั้น เห็นแค่เงาก็แฮปปี้มากแล้ว ได้ยินเสียงทำกับข้าวก็แอบปีนไปดู เห็นแค่ไรผมก็รู้สึกดีมาก

หลังจากนั้นเราก็มาขายของ ร่างกายอ้วนขึ้น เลยคิดว่าคนไม่น่าจะชอบเรา ขนาดเรายังไม่ชอบตัวเองเลย เพราะมันอ้วน เพราะฉะนั้นคนที่จะเข้ามาพัฒนาเป็นความรักแบบกุ๊กกิ๊กนี่ไม่มีเลย กลายเป็นคิดว่าถ้าวันนี้มีใครหล่อๆ แซ่บๆ เข้ามาให้รัก เราก็บอกรักเขาไปให้สุดเลย เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็จะมีคนให้เราบ้าคลั่งได้อีก ไม่ต้องไปเสียดาย

เพชร: ของผมมีคนคุยอยู่ครับ คุยกันมาได้ประมาณ 4 ปีแล้ว มีอยู่คนเดียว ไม่ได้เยอะเหมือนพี่เต๋อ

เต๋อ: เดี๋ยวๆ จะวกเข้ามาหากูทำไม (หัวเราะ) ผมไม่มีแฟนครับ มีคนคุยบ้าง แต่ไม่เยอะ เรียกว่าอยู่ในช่วงเรียนรู้กับทั้งตัวเองและความรัก ไม่ใช่ว่าเป็นคนเยอะหรืออะไรนะ ถ้าถูกใจมันก็จะไปต่อได้ แต่ถ้าไม่ถูกใจ ผมก็สามารถอยู่คนเดียวได้เหมือนกัน

ที่บอกว่ากำลังเรียนรู้เกี่ยวกับความรัก เรียนรู้อะไรมาแล้วบ้างครับ

เต๋อ: ก่อนหน้าที่จะอกหักครั้งใหญ่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ผมเคยเชื่อว่าความรักสวยงาม มันเติมเต็ม มันเป็นสีชมพู เป็นอะไรที่เรารู้สึกกับมันมากๆ แต่ตอนนี้ความรักสำหรับผมเปลี่ยนไปแล้ว ความรักเป็นแค่สถานะหนึ่ง แบบเดียวกับที่เราพูดถึงสถานะของสรรพสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ เดี๋ยวมันก็จะเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเท่านั้นเอง แต่เวลามันเกิดขึ้นมา ผมก็ไม่รังเกียจนะ ไม่ใช่คิดว่าเดี๋ยวมันก็หายไปแล้วไม่เอาเลย ผมยังชื่นชอบและพร้อมอ้าแขนตอบรับความรู้สึกนั้นที่มันฟูขึ้นมา ถึงแม้วันหนึ่งมันจะหายไปก็ไม่เป็นไร

คิดภาพกันไว้ไหมครับว่าคนที่เราต้องการเป็นแบบไหน จะต้องดีพอสักเท่าไร หรือแซ่บขนาดไหนถึงจะพอใจและพอดี

ปิงปอง: ความรักก็เหมือนรอรถเมล์ตอนตีสอง ได้แต่นั่งมอง แต่ไม่ยอมมาสักที (หัวเราะ) อันนี้ไม่เกี่ยวอะไร เพิ่งคิดขึ้นมาเฉยๆ

เต๋อ: คิดหนักครับ คำถามนี้เหมือนกำลังถามคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นว่าไปดำน้ำที่ไหนดี มีที่ไหนสวยๆ บ้างแบบนั้นเลยนะ (หัวเราะ) ตอบยากมาก อย่างที่บอกว่ายังไม่ค่อยมีโอกาสได้เข้าไปใกล้ความรักและพัฒนาความสัมพันธ์จนไปถึงจุดที่เราจะพูดได้ว่ามันดีหรือไม่ดีอย่างไร

ปิงปอง: แต่เราพอตอบได้นะ ความรักที่ดีคือการดูแลกัน คือความประนีประนอม เป็นห่วงเป็นใย ต้องคิดถึงเขาตลอดว่าเขาจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เหนื่อยหรือเปล่า ซึ่งสำหรับเรามันคือความรักของแม่ที่มีให้กับเราในทุกวันนี้

เต๋อ: มันใช่ความรักแบบที่เขาถามจริงๆ เหรอวะ

ปิงปอง: โอ๊ย ก็รู้จักอยู่แค่นี้ จะให้ตอบอะไรได้เยอะแยะ บอกแล้วไงว่าความรักจริงๆ มันแห้งเหี่ยวไปนานแล้ว

เพชร: คือถ้าใช้คำว่าดี สำหรับผมจะไม่ได้จำกัดตายตัวขนาดนั้นว่าแบบไหนถึงเรียกว่าดี แต่น่าจะเป็นคนที่เราใช้เวลารู้จักกันมานาน รู้ตัวตนกัน เข้าใจและยอมรับในสิ่งที่แต่ละคนเป็นได้ คงต้องใช้เวลาพิสูจน์ในระดับหนึ่งว่าเป็นความรักที่ดีจริงหรือเปล่า คือช่วงเริ่มต้นทำความรู้จักผมว่าเป็นช่วงเวลาที่แซ่บดีนะ กับคนที่เราเห็นแล้วรู้สึกชอบ ตื่นเต้น รู้จักกันไม่นานแต่มีแรงดึงดูดเข้าหากันเหลือเกิน ซึ่งช่วงนี้ทุกอย่างจะน่าสนุกไปหมด แต่มันก็จะได้แค่ในระดับชุ่มชื่นหัวใจ อาจจะยังไม่ใช่ความรักที่ดี ต้องใช้เวลาต่อไปอีกสักพัก จากความรักที่แซ่บอย่างเดียวจึงจะกลายเป็นความรักที่ดีไปด้วย

เต๋อ: ผมคิดออกแล้ว รู้สึกว่าตอนเด็กๆ เคยคิดว่าคนรักที่ดีต้องเป็นคนที่ตามใจเราทุกอย่าง แต่ตอนนี้คิดว่าไม่ได้ว่ะ คนแบบผมจะมีคนตามใจไม่ได้ ไม่อย่างนั้นชีวิตจะเหลิงมากๆ เพราะฉะนั้นคนรักที่ดีของผมตอนนี้ต้องโคตรพ่อโคตรแม่ดุเลย ดุให้ผมกลัวเหมือนหมาแล้วผมจะเชื่อคนนั้นมากๆ แต่ไม่ใช่ดุแบบเสียงดังโวยวายนะ ถ้าเจอแบบนั้นบอกได้เลยว่าจะไม่ได้เจอกับผมอีก แต่มันต้องดุกันด้วยเหตุผล เขาต้องมีปัญญาหรือมีพาวเวอร์อะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้ผมยอมจำนน ซึ่งตอนนี้ยังไม่เจอคนที่ถึงขนาดทำให้ผมยอมจำนนได้

เพชร: อื้อหือ คนที่ฉลาดกว่าพี่เต๋อ

ปิงปอง: คงจะมีมั้งนั่นน่ะ ถ้างั้นก็หาวนไปค่ะ (หัวเราะ)

ถ้าไม่นับเรื่องความดี แบบไหนเหรอที่แซ่บ

เพชร: ขาวครับ หุ่นดี ตัวเล็ก ไม่จำเป็นต้องอึ๋ม ยิ่งผมเป็นคนชอบดนตรี ถ้าคนนั้นร้องเพลงได้ เต้นได้จะยิ่งชอบมาก ชอบเวลาได้มองสรีระของคนรูปร่างดีๆ เวลาเคลื่อนไหว ออกท่าทางเวลาเต้น

ปิงปอง: อันนี้ตอบง่ายมาก (หัวเราะ) ความรักที่แซ่บคือความรักที่ทำให้รู้สึกร้อนหน้าท้องเวลาเห็นก้อน 6 ถึง 8 แพ็ก ยิ่งมีวีเชปยิ่งดี หรือจะออกแนวไทยเดิมแบบวินัย ไกรบุตร หรือต๊อก-ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ ใน มนต์รักทรานซิสเตอร์ ถ้าหากได้ฟีลนั้นจะรู้สึกแซ่บมาก แล้วถ้าได้คนแบบนั้นมาเป็นความรักที่ดี ความรักแบบห่วงใยกัน แบบแม่ลูกที่เรารู้จักนะ โอ้โห แจ็กพ็อตแตกค่ะ

เต๋อ: วู้ว ผมชอบผู้หญิงอวบๆ มาตั้งแต่เด็กๆ ผิวสีอะไรก็ได้ แต่ขอให้อวบไว้ก่อน รู้สึกว่ามันดูบ๊ะ ดูแน่นดี (หัวเราะ) บางคนอาจจะมองว่าอ้วนนะครับ แต่ผมไม่ค่อยติดนะ ไม่รู้เหมือนกัน ชอบคนเจ้าเนื้อ จ้ำม่ำๆ น่ารักดี

แล้วถ้าขยับขึ้นไปพูดเรื่องเซ็กซ์อย่างเดียว เซ็กซ์สำคัญสำหรับแต่ละคนมากขนาดไหนครับ

ปิงปอง: พี่เต๋อนางเคยบอกให้เราเชื่อว่ามนุษย์เกิดมาเพื่อสืบพันธุ์ แล้วมนุษย์ก็เรียนรู้เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ว่ามันสนุก ไม่จำเป็นต้องอยู่เป็นคู่ก็ได้ แต่พอทำอย่างนี้แล้วสนุก มนุษย์ก็ทำกันไปเรื่อยๆ สนุกสนานกันไป

เต๋อ: ไม่ได้บอกให้เชื่อ แต่ให้สังเกตดูว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

ปิงปอง: คือมันสนุกจริงๆ (หัวเราะ)

เต๋อ: สนุกมันชัดเจนอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่แค่นั้นสิ (หัวเราะ) เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งในกลไกฟังก์ชันของความเป็นมนุษย์ เวลาพูดถึงอุดมคติก็จะมีภาพเป็นลมเป็นแล้งว่าอยากมีบ้านปูนเปลือยสีขาว ปลูกดอกไม้สีเหลืองอะไรแบบนี้ แต่มองในภาพรวมมันไร้สาระมาก

ปิงปอง: แหม โดนแซวหน่อยก็ไม่จำเป็นต้องแรงกับความฝันหนูขนาดนี้ไหมล่ะ

เต๋อ: (หัวเราะ) คือใครจะมาสนใจว่ามึงจะอยากมีบ้านสีอะไร มันเป็นแค่นิยาม เป็นแค่อุดมคติไร้สาระของการเป็นมนุษย์ แต่ฟังก์ชันจริงๆ ของมนุษย์คืออะไร ถ้าย้อนกลับไปทางชีวภาพก็คือการสืบพันธุ์ แล้วนั่นคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เราขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารด้วย เพราะฉะนั้นถ้าถามผม เรื่องนี้สำคัญนะครับ มันคือสิ่งที่จำเป็นในแง่กลไกธรรมชาติของมนุษย์

ปิงปอง: จำเป็นนะ ก็ให้ความสุขเราดี แต่เข้าใจใช่ไหมว่าคนแบบเราก็ไม่ได้จะมีคนเข้ามาเยอะอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็จะใช้วิธีจัดการด้วยตัวเองอะไรก็ว่าไป โลกเป็นของเรา เราควบคุมได้ทุกอย่าง แล้วเรารู้สึกว่าแฮปปี้กว่า เคยคิดจะไปซื้อบริการอะไรแบบนี้ แต่เรารู้สึกว่าไม่โอเคเลย เพราะเรารู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำมันเป็นหน้าที่ เขาไม่ได้ทำเพราะชอบเราจริงๆ สรุปก็เลยไม่โอเค

ฉะนั้นเราขอรอคนที่เขาโอเคกับเรา ที่เขาทำเพราะรู้สึกชอบเราจริงๆ จะโอเคกว่าเยอะมาก อาจจะมีน้อยก็ไม่เป็นไร ช่วงที่ไม่มีก็โลกสวยด้วยมือเราไป สนุกกว่ากันตั้งเยอะ

เต๋อ: แต่การช่วยตัวเองเป็นวิธีที่ดีมากนะครับ ไม่ได้ทะลึ่งหรืออะไรเลย มันคือการเซฟเซ็กซ์ที่ง่ายที่สุดและดีมาก ปิงปองทำถูกแล้ว แล้วก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรด้วย

ความรักที่ดีคือการดูแลกัน คือความประนีประนอม เป็นห่วงเป็นใย
ต้องคิดถึงเขาตลอดว่าเขาจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เหนื่อยหรือเปล่า
ซึ่งสำหรับเรามันคือความรักของแม่ที่มีให้กับเราในทุกวันนี้

คนน่าจะเข้าใจผิดกันเยอะนะว่าปิงปองต้องใช้เงินซื้อเยอะแน่ๆ

ปิงปอง: เราไม่แฮปปี้ บวกกับพื้นฐานเราเป็นคนขี้เหนียวด้วย ก็เลยไม่เอาดีกว่า

แต่ก็ยังมีคนถูกใจมามีความสัมพันธ์ด้วยอยู่เรื่อยๆ ใช่ไหม

ปิงปอง: มีค่ะ แต่ก็น้อยยย (เสียงสูง) นานๆ ที ยิ่งเมื่อก่อนช่วงไว้เคราเยอะๆ นะ พอมีมาทีหนึ่งก็เป็นรับไปอีก โอ๊ยยย โมโห

ยกตัวอย่างเหตุการณ์แซ่บๆ ให้ฟังสักหน่อยได้ไหมครับ

ปิงปอง: ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ (หัวเราะ) มีอยู่คนหนึ่งเป็นหมอนะเธอ

เต๋อ: เป็นหมอเลยเหรอ หมอแบบด็อกเตอร์นะ ไม่ใช่หมอนวดหรือหมอผีอะไรแบบนี้ไม่เอานะ

ปิงปอง: หมอจริงๆ โว้ย เป็นนายแพทย์เลยค่ะ คือเป็นฟีลที่ชอบเลย สูงยาวเข่าดี มีซิกซ์แพ็ก เขามีรสนิยมทางเพศที่ชอบคนอ้วน เคยดูลิสต์คนที่เขาชอบคืออ้วนแบบเป็นอึ่งอ่างเลย อ้วนแบบถ้าตรวจก็คือเป็นเบาหวาน หรือไม่ก็ความดันแน่ๆ แล้วก็มีความแซ่บกันจนถึงทุกวันนี้ แต่หลังๆ ก็เริ่มหายไปแล้วเพราะเราคงอ้วนเกินลิมิตไปมั้ง (หัวเราะ) มีครั้งหนึ่งแซ่บมาก นางนัดให้เราไปหา นัดเจอกันในห้องห้องหนึ่งของตึก ทำทีเป็นต่างคนต่างมา แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นก็นึกเอาเองนะ หนูเล่าต่อไม่ได้ ห้ามถามเลยนะ (หัวเราะ)

คิดอย่างไรกันบ้างกับคำว่า ‘One Night Stand’

ปิงปอง: ของหนูจะยากหน่อย เพราะมันเริ่มตั้งแต่เขาจะยอมรับได้ไหมที่เราแรดขนาดนี้ เพราะตัวเราเองยังคิดว่าแรดแล้วใครเขาจะมาเอา แต่ถ้ามีได้ก็ดีนะคะ เพราะหลายครั้ง one night stand แล้วกลายเป็นพาร์ตเนอร์กันมาเรื่อยๆ ก็มี

เพชร: เรื่องปกติแหละเนอะ แต่สำหรับคนที่มีแฟนแล้ว ก็อาจจะติดนิดหนึ่งว่าไม่ควรทำ แต่ถ้าคนทั่วไปผมว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ต้องเซฟตัวเอง ป้องกันตัวเองไว้ อันนี้สำคัญมาก

เต๋อ: แล้วคำว่า one night stand ในประเทศไทยคือคำที่ถูกสังคมกดเอาไว้ว่าเป็นของสกปรก นำมาซึ่งโรคติดต่อ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่ถ้าเราทำทุกอย่างปลอดภัยและอยู่ในเงื่อนไขที่ว่าไม่ทำให้ใครเดือดร้อน สำหรับผมก็เป็นเรื่องที่โอเคมากๆ แล้ว ของแบบนี้ใครไม่เจอกับตัว หรือไม่ได้อยู่ในสถานการณ์แบบนั้นไม่มีทางเข้าใจหรอก

ช่วงหลังเราจะได้ยินคำว่า ‘สายเปย์’ กันบ่อยๆ อยากรู้ว่าพวกคุณเคยผ่านประสบการณ์สายเปย์มาบ้างหรือเปล่า เริ่มที่ปิงปองก่อนก็ได้ น่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้

ปิงปอง: ผิดค่ะ เราจะมีความอายนะที่ต้องเป็นสายเปย์อะไรแบบนี้ รู้สึกว่ามันไม่โอเคเลย ไม่เคยรู้สึกว่าการเปย์ในรูปแบบของเงินมันคือการให้ที่แฮปปี้ แต่ถ้าหากเรามาเปย์ความจริงใจให้กัน อย่างนั้นแฮปปี้กว่า

ประเภทว่าเข้ามาจีบ มาอ้อนให้เราเปย์ ซื้อของโน่นนี่ให้ล่ะ แบบนี้มีบ้างหรือเปล่า

ปิงปอง: ตอนแรกไม่มีใครอยากเข้ามาให้เราเปย์เลยนะ เพราะตอนนั้นยังเป็นแม่ค้าโต๋โหลโต๋เหลไปเรื่อย พอเริ่มมีงาน มีหน้าตา มีเงิน ทุกคนก็จะพูดเหมือนกันหมดว่าเดี๋ยวเราต้องเป็นสายเปย์แน่ๆ จนคำพูดนี้มันหลอนเข้ามาในหูว่าถ้ามีใครเข้ามาหา เดี๋ยวเขาก็จะหลอกเรา อย่าเพิ่งไปชอบเขานะ พอมีความคิดก้อนนี้แล้ว ถ้าเราเห็นพฤติกรรมบางอย่างที่จะไปในทิศทางนั้นเราจะกลัวแล้วตัดสินใจว่า ‘ไม่เอาดีกว่า’  เราเชื่อว่าเงินหายากมาตลอดนะ เราเป็นแม่ค้า ขายเสื้อตัวหนึ่ง 250 บาทเอง แล้วคุณเป็นใคร มาคบฉันเพื่อหวังว่าจะให้เงินคุณอย่างนั้นเหรอ ไม่ให้หรอกจ้า อยากได้เงินก็ไปตัดผ้าขายไป (หัวเราะ)

เพชร: ไม่ได้ชอบเปย์นะครับ คล้ายๆ ปิงปอง เพราะว่าเมื่อก่อนเราก็ไม่ได้มีหน้าที่การงานอะไรมากมาย พูดง่ายๆ คือไม่ได้มีเงินเยอะขนาดจะเอาไปเปย์ใคร คำว่าเปย์สำหรับผมคือการทำอะไรที่เกินความสามารถปกติไปหน่อย ถ้าแบบนั้นยังไม่เคย อย่างผมก็แค่ซื้อของขวัญให้คนที่เรารัก ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของคนรักคู่อื่นๆ

เต๋อ: ผมก็ไม่ค่อยเปย์นะครับ แต่เวลาไปกินข้าวด้วยกันผมจะเป็นฝ่ายเลี้ยงอยู่แล้ว จะถูกจะแพงก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าต้องให้เราเลี้ยงตลอดก็จะไม่ค่อยชอบผู้หญิงคนนั้นเท่าไร คิดว่าผู้หญิงที่ผมชอบน่าจะเป็นคนที่เก่งและมีศักดิ์ศรีมากพอที่จะไม่รับฝ่ายเดียว คือผมยินดีจ่ายให้ทุกครั้งแล้วยังคงความสัมพันธ์ลักษณะนั้นต่อไปได้เรื่อยๆ คือถึงเขาไม่พูดก็ไม่ได้บอกว่าผิดนะครับ เพราะเป็นเรื่องปกติ คนเราเติบโตมาไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเขาพูดมาแค่ว่ามื้อนี้พี่เต๋อไม่ต้องนะ เขาขอเลี้ยงเอง เจอแบบนี้ผมจะประทับใจเป็นพิเศษ

แต่ละคนสนิทสนมกับแอปพลิเคชันแชตหรือแอปพลิเคชันหาคู่ต่างๆ มากขนาดไหนครับ

เต๋อ: ปิงปองคนเดียวน่าจะพูดได้ประมาณ 2 ชั่วโมง

ปิงปอง: เล่นเก่งกว่ากูเกิลอีกค่ะ (หัวเราะ) แอปฯ ต่างๆ นานา ตอนแรกก็ไม่เคยคิดจะเล่น แต่มีเพื่อนบอกว่าได้ผู้ชายมาจากแอปฯ นี้ เห็นมีชีวิตสนุกสนาน ก็ลองโหลดมาดู โอ้โห มึงบ้าหรือเปล่าเนี่ย นี่มันโลกอะไรกัน ทำไมทุกคนถึงดูเปิดเผยพร้อมเพรียงกันขนาดนี้ (หัวเราะ)

สิ่งที่ดีคือนอกจากเอาไว้คุยกัน ทุกคนจะบอกสเตตัส บอกความต้องการของตัวเองเอาไว้ว่าชอบแบบไหน มีรสนิยมยังไงรุก รับ ไบ ชอบคนอ้วน ชอบคนสูงอายุ หาคนคุยเฉยๆ หรือหามิตรภาพดีๆ อะไรก็ว่าไป ซึ่งมันก็มีทั้งคนที่ดีและคนไม่ดีปนๆ กันอยู่เหมือนสังคมทั่วไปนี่ล่ะ แต่ในแอปฯ นี้เราจะเปิดเผยความต้องการกันได้มากกว่า ไม่มีใครมาคอยว่าเรื่องรสนิยมทางเพศของเรา แล้วมันก็ทำให้เรารู้ว่าคนบนโลกนี้เขาไม่ได้ชอบคนหล่อคนสวยกันทั้งหมดหรอก รสนิยมของมนุษย์มันหลากหลายมากเลยนะ ยิ่งทำให้รู้สึกว่า เออ โลกนี้มันเก๋จังเลย อย่างคุณหมอแซ่บคนนั้นก็มาเพราะแอปฯ พวกนี้นะคะ

เพชร: ผมไม่เคยเล่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพิ่งจะมารู้จักในช่วงหลัง แล้วก็ไม่เคยคิดอยากเล่นด้วยนะ รู้สึกว่าไม่ได้สนใจกับความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้เท่าไร ยังสนุกกับการได้เจอหน้ากันจริงๆ แล้วค่อยเข้าไปคุยกันแบบนี้มากกว่า

เต๋อ: มันต้องเป็นคนโสดระดับหนึ่งด้วยนะถึงจะเล่นได้ ผมมีเล่นบ้างนะครับ ตั้งแต่ไปทำงานที่อเมริกา เพื่อนก็บอกให้โหลดแอปฯ ไว้ใช้ ประมาณ 2-3 ปีแล้ว ไม่ได้เข้าไปดูบ่อยๆ นานๆ ทีจะเข้าไปดู ช่วงหลังพอเล่นซีรีส์แล้วมีคนเห็น เขาก็จะเข้ามาถามว่าใช่พี่เต๋อ ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ หรือเปล่า พอบอกใช่ ทุกคนก็จะตกใจว่าทำไมพี่เต๋อต้องเล่นอะไรแบบนี้ด้วย ก็ได้แต่คิดว่า ทำไมล่ะ เราจะหาใครสักคนที่ถูกใจเพื่อทำความรู้จักมันเป็นเรื่องน่าตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ อย่างแรกคือผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองสูงส่งอะไร ผมก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ก็ไม่คิดว่าแอปฯ พวกนี้จะสกปรกหรืออะไร แล้วมันเป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำที่เปิดโอกาสให้คนทำความรู้จักกัน ตอนหลังโดนถามมากๆ ไม่รู้จะตอบยังไง ก็เลยลบทิ้งไปเลย

คำถามสุดท้าย ขอถามปิงปองก่อน เห็นเพชรกับเต๋อแมนๆ แบบนี้ มีมุมไหนของสองคนนี้บ้างที่รู้สึกว่าสาวสุดๆ         

ปิงปอง: พี่เต๋อจะมีเรื่องเสื้อผ้าการแต่งตัว เขาจะละเอียดกับเรื่องพวกนี้มากจนบางทีรู้สึกว่า โอ๊ยยย คุณพี่ขา ขนาดตุ๊ดอย่างเรายังไม่ถึงขนาดนั้นเลย งานไหนบอกว่าใส่ชุดไปรเวต พี่แกก็จะใส่สูทเนี้ยบๆ มาเลย นี่เลยนึกไม่ออกว่าถ้าเป็นงานที่เขาบังคับใส่สูทกันแล้วคุณพี่จะต้องแต่งไปถึงเบอร์ไหน เพราะต้องนำคนอื่นไปอีกขั้นตลอด มีความใส่ใจรายละเอียดมาก ดูดีทุกอย่าง ทุกชิ้น ไปดูได้เลย แล้วก็มีเซนส์ในการเป็นกะเทยสูง ปากจัด คิดเก่ง คิดเร็ว แดกดันใครแต่ละทีนี่แสบมาก

ส่วนเพชรจะมีความเป็นสาวหวานภาคเหนือ ต๊ะต่อนยอนหน่อยๆ ดูมีสติ คิดอะไรรอบคอบตลอดเวลา นางมีองค์ความเรียบร้อยของผู้หญิงที่นางไม่ค่อยรู้ตัว

ถ้าคำว่าแมนหมายถึงการดูแลผู้หญิงคนหนึ่งอย่างดีที่สุด
ผมว่าปิงปองเขาก็คือคนแมนที่สุดคนหนึ่งเหมือนกัน

แล้วปิงปองล่ะครับ มีนิสัยอะไรแมนๆ ที่คนอื่นคิดไม่ถึงบ้างหรือเปล่า

เต๋อ: ที่ผมคิดว่าเขาเท่มากแล้วคนอื่นไม่รู้แน่ๆ คือธงชัย ทองกันทม ที่นั่งอยู่ตรงนี้ขับรถเกียร์กระปุกได้นะครับ แมนกว่าผมอีก ตุ๊ดอะไรขับรถเกียร์แมนวลเป็นวะ (หัวเราะ) แล้วเป็นรถกระบะถึกๆ เลยนะครับ ทะมัดทะแมงมาก เวลาเชนเกียร์ทีนี่ไม่มีลังเล ลูกระนาดอะไรไม่เคยหลบ เร่งเครื่องสู้ตลอด

เพชร: เรื่องความเป็นผู้นำของเขาครับ ในสายตาของผมภายนอกเขาจะดูสนุกสนานเฮฮา ร่าเริงไปเรื่อย แต่อีกมุมหนึ่งเขาคือผู้นำครอบครัวที่ดีมาก เอาใจใส่ดูแล รักแม่ของเขาที่สุด ถ้าคำว่าแมนหมายถึงการดูแลผู้หญิงคนหนึ่งอย่างดีที่สุด ผมว่าปิงปองเขาก็คือคนแมนที่สุดคนหนึ่งเหมือนกัน

Tags: ,