ซูโจว ทาวเวอร์ บริดจ์ กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมือง
โดยส่วนมากผู้คนที่แวะมาเยือนมักจะเป็นคู่รักที่หามุมถ่ายภาพงานแต่งงาน
เนื่องจากราคาไม่สูงมากหากเทียบกับการไปเยือนสถานที่จริงในยุโรป

คุณอาจไม่รู้มาก่อนว่าในเมืองซูโจว ทางตะวันออกของจีน มี ‘ทาวเวอร์ บริดจ์’ (Suzhou Tower Bridge) เป็นของตัวเอง ซึ่งเลียนแบบสถานที่จริงอย่าง ลอนดอน ทาวเวอร์ บริดจ์ (London Tower Bridge) อย่างชัดเจน

การเลียนแบบหรือก๊อบปี้ครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดเสียงวิจารณ์จากผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในจีน และเริ่มเป็นที่วิจารณ์หนาหูขึ้นเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเสียงส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าเป็นเรื่องน่าละอายใจที่ชาติตนเองรับวัฒนธรรมต่างชาติมาเชิดชูเป็นสถานที่สำคัญของเมือง

Photo: news.163.com

ข้อมูลเกี่ยวกับ ทาวเวอร์ บริดจ์ ตั้งอยู่ ณ กรุงลอนดอน มีลักษณะสะพานยกและสะพานแขวนอยู่รวมกัน ก่อสร้างเสร็จในปี 1894 สำหรับใช้ข้ามแม่น้ำเทมส์ ประกอบด้วยหอคอย 2 หอ แบ่งออกเป็น 4 ชั้น ขนาดความสูง 40 เมตร เชื่อมต่อเข้าด้วยกันกับทางเดินคู่ขนานด้านบน อีกทั้งภายในตัวหอคอยยังมีทั้งลิฟต์และร้านกาแฟไว้คอยให้บริการ

ขณะที่ ซูโจว ทาวเวอร์ บริดจ์ ถูกสร้างขึ้นในปี 2012 ที่เมืองซูโจว ในมณฑลเซียงเฉิน ทางตะวันออกของจีน เลียนแบบลอนดอน ทาวเวอร์ บริดจ์ทุกกระเบียดนิ้ว แม้แต่บรรยากาศก็แทบจะเหมือนกันทุกประการ

Photo: news.163.com

ทางการระบุว่า ก่อสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างชื่อให้ซูโจวที่ในอดีตเคยเป็นแหล่งอุตสาหกรรมผลิตผ้าไหมของจีนมาเป็นเวลาหลายพันปี อีกทั้งยังถูกขนานนามว่าเป็น ‘เวนิสตะวันออก’ ให้กลายเป็นเมืองศูนย์กลางของการค้าระหว่างประเทศ ด้วยเหตุนี้จึงมีนโยบายก๊อบปี้โครงสร้าง ทาวเวอร์ บริดจ์ ในกรุงลอนดอน มาเป็นต้นแบบในการก่อสร้างสะพานแห่งนี้ เพื่อดึงดูดสายตาจากคนภายนอก

Photo: news.163.com

นอกจาก ซูโจว ทาวเวอร์ บริดจ์ จะสร้างขึ้นมาเลียนแบบ ลอนดอน ทาวเวอร์  บริดจ์ แล้ว ก่อนหน้านี้ซูโจวเคยมีการสร้างเลียนแบบ ซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ บริดจ์ (Sydney Harbour Bridge) ของออสเตรเลีย และสะพานอะเลคซันดร์ที่ 3 (Pont Alexandre III Bridge) ของฝรั่งเศส รวมถึงหมู่บ้านชาวดัตช์ที่มีกังหันลมเป็นสัญลักษณ์มาแล้วเช่นกัน

ตามรายงานล่าสุดระบุว่า ซูโจว ทาวเวอร์ บริดจ์ กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมือง โดยส่วนมากผู้คนที่แวะมาเยือนมักจะเป็นคู่รักที่หามุมถ่ายภาพงานแต่งงาน เนื่องจากราคาไม่สูงมากหากเทียบกับการไปเยือนสถานที่จริงในยุโรป

Photo: news.163.com

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ภาพสะพานแห่งนี้ถูกนำไปเผยแพร่อย่างรวดเร็วในโลกออนไลน์เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้กลับกลายเป็นเป้าโจมตีของสายตาชาวเน็ตแดนมังกรที่ล้วนลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่ารู้สึกไม่ชอบสถานที่แห่งนี้ พร้อมกับแสดงความเห็นเชิงละอายใจ

“ซูโจวมีประวัติที่มีชื่อเสียงโด่งดังของตัวเองทั้งในแง่ประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมมานานหลายศตวรรษ ทำไมคุณต้องขโมยงานของคนอื่น?”

“สถาปัตยกรรมแบบซานไจ้ (Shanzhai – วัฒนธรรมของลอกเลียนแบบ) กลายเป็นลักษณะของสถาปัตยกรรมหลักของจีนไปแล้ว”

“คุณขออนุญาตจากสหราชอาณาจักรในการสร้างสิ่งนี้แล้วหรือ?”

จะเห็นว่ากรณีของซูโจว ทาวเวอร์ บริดจ์ มีทั้งเสียงสนับสนุน อย่างเช่น มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชม ถ่ายรูป ฯลฯ และเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการก๊อบปี้จากสถานที่จริง จนมีกระแสจากบรรดาชาวเน็ตจีนที่ยกสะพานก๊อบปี้ดังกล่าวไปโยงกับกรณีของประติมากรรมนาฬิกาแดดขนาดใหญ่ริมแม่น้ำหวงผู่ ในนครเซียงไฮ้ ที่มีรายงานว่าผลงานชิ้นดังกล่าวลอกแบบมาจากผลงานของศิลปินชาวอังกฤษ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์เช่นกัน เพียงแต่นาฬิกาแดดเสมือนจริงถูกทางการจีนสั่งรื้อถอนเรียบร้อย

Photo: shanghaiist.com

เมื่อมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์สะพานดังกล่าวจากพลเมืองในโลกไซเบอร์ ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการเลียนแบบประเทศอื่น คำถามที่ตามมาคือทางการซูโจวจะทนรับเสียงวิจารณ์นี้ต่อไป หรือจะยอมรื้อถอนสะพานแห่งนี้เฉกเช่นกรณีของนาฬิกาแดด

เพราะในสายตาของชาวโซเชียลแดนมังกรที่มีจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากถึง 710 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรในประเทศ มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าละอายใจ!

อ้างอิง:

FACT BOX:

ซานไจ้ (Shanzhai, 山寨) เป็นคำที่นิยมใช้เรียกสินค้าปลอม หรือสินค้าก๊อบปี้ ถ้าแปลตามรากศัพท์ หมายถึง หมู่บ้านหรือสถานที่ในหุบเขา สันนิษฐานว่าคำนี้มีที่มาจากการผลิตสินค้าเลียนแบบในสมัยก่อนที่บริษัทส่วนใหญ่มักจะไปตั้งโรงงานหรือแหล่งผลิตในมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นมณฑลที่อยู่ห่างไกล (หรืออยู่หลังเขา) เพื่อให้รอดพ้นจากการตรวจสอบของทางราชการ

Tags: