การประกวด Miss USA 2018 ได้จบลงไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมานี้ และผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศก็คือ ซาร่า โรส ซัมเมอร์ส (Sarah Rose Summers) จากรัฐเนแบรสกา แต่นอกจากผู้ได้รับมงกฎแล้ว การประกวด Miss USA ครั้งนี้ยังมีอีกสิ่งที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก นั่นก็คือคำถามในรอบห้าคนสุดท้ายและสามคนสุดท้าย ที่มีการเปลี่ยนแปลงกติกาเล็กน้อย เพื่อเพิ่มการวัดไหวพริบและทัศนคติของผู้เข้าประกวด

ในรอบห้าคนสุดท้าย กองประกวด Miss USA ให้ผู้เข้าประกวดแต่ละคนคิดคำถามเองเพื่อถามผู้เข้าประกวดคนอื่น หรือพูดง่ายๆ ว่าให้ถามกันเอง ทำให้เกมการแข่งขันสนุกขึ้นไปอีก เพราะผู้ชมรวมถึงกรรมการจะไม่ได้ฟังแค่คนตอบจะตอบว่าอะไร แต่เราจะให้ความสนใจว่าคนถามถามอะไรด้วย และนี่คือคำถามของผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย

“ในช่วงที่รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า คุณข้ามผ่านมันไปได้อย่างไร”

“การคุกคามทางเพศเป็นประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐอเมริกา คุณคิดว่าเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยปกป้องผู้หญิงในเขตโรงเรียน”

“1 ใน 4 ของเด็กในสหรัฐอเมริกามีชีวิตอยู่ในบ้านกับพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยว คนรุ่นเราจะมีมุมมองอย่างไรในเรื่องการแต่งงานและครอบครัว”

“เมื่อไม่นานมานี้ องค์การลูกเสือแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (The Boy Scouts) ตัดสินใจรับเด็กผู้หญิงเข้าเป็นสมาชิกขององค์กรของเขา คุณคิดว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงในทางบวกหรือไม่ และคุณคิดว่าองค์กรที่คัดสมาชิกโดยใช้เพศเป็นเกณฑ์ (Single-gender organizations) ยังคงมีประโยชน์อยู่หรือไม่?”

“สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุด ผู้หญิงมากกว่า 1 ใน 3 นอนหลับทับสิทธิ์ คุณเห็นอย่างไร?”

จะเห็นได้ว่า 4  ใน 5 ของคำถามล้วนแล้วแต่มีนัยยะทางการเมืองทั้งสิ้น โดยเฉพาะการเมืองเรื่องเพศรวมถึงการเรียกร้องความเสมอภาคทางเพศ มีเพียง 1 ข้อเท่านั้นที่เป็นคำถามถึงประสบการณ์ส่วนตัว (แต่ผู้ตอบก็โยงไปถึงประสบการณ์ของตัวเองในฐานะคนไร้บ้าน) จะเห็นได้ว่าการตั้งคำถามถูกยกขึ้นมาให้มีบทบาทพอๆ กับการตอบคำถาม เพราะคำถามที่คุณตั้งขึ้นเองจะเผยแบบอ้อมๆ ว่าคุณมีกึ๋นแค่ไหน หรือมีความสนใจในสิ่งรอบตัวอย่างไรบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าการถามคำถามให้ฉลาดเป็นสิ่งที่ยากไม่แพ้การตอบอย่างไรให้ดูฉลาด

มาถึงรอบสามคนสุดท้ายเป็นคำถามที่กองประกวดคิดให้ ทุกคนจะได้ตอบคำถามเดียวกัน ซึ่งก็จะกลับมาใช้ฟังก์ชั่นเดิมของคำถามที่จะเผยจุดยืนว่ากองประกวดต้องการคนแบบไหน และคำถามคือ

“หากคุณกำลังเดินทางเพื่อไปเดินขบวนและใครสักคนยื่นป้ายว่างๆ และปากกาให้กับคุณ คุณจะเขียนอะไรลงไปและทำไม”

คำถามนี้แปลง่ายๆ ว่า “คุณอยากจะประท้วงเรื่องอะไร” นั่นแหละ ซึ่งมันเป็นคำถามที่ง่ายแต่แสนทรงพลัง เพราะมันเป็นการกระตุ้นให้ผู้หญิงออกมาเปล่งเสียงในพื้นที่สาธารณะ หลังจากที่ถูกกันให้อยู่แต่ในอยู่ในพื้นที่ครัวเรือน (domestic sphere) มานานหลายศตวรรษ ซึ่งสาวงามแต่ละคนก็พูดถึงปัญหาที่ตนอินหรือเคยเผชิญ อย่างการคุกคามทางเพศ หรือ ปัญหาคนไร้บ้าน แต่ ซาร่า โรส ซัมเมอร์ส ตอบว่าเธอจะเขียนคำว่า “Speak your voice” ลงไป ซึ่งไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นเรื่องอะไร แต่คำนี้กลับครอบคลุมประเด็นปัญหาในทุกเพศ ทุกวัย และนี่อาจเป็นเหตุผลที่กองประกวดต้องโยนมงให้กับเธอ

หันมามองการประกวด Miss Universe Thailand 2018 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้เพื่อค้นหาตัวแทนสาวไทยไปเข้าร่วมประกวด Miss Universe 2018 สิ่งที่เกิดขึ้นกับมารีญา กับคำว่า ‘Social Movement’ ในปีที่แล้ว ทำให้หลายคนหันมาสนใจความคิดและทัศนคติของนางงาม ให้ความสำคัญกับการตอบคำถามมากขึ้น ซึ่งแต่เดิมการตอบคำถามไม่ได้มีผลชี้เป็นชี้ตายผู้ชนะขนาดนั้นเพราะใครสวยใครนอนมาก็จะ “มงลง” กันไปตามนั้น

เมื่อกระแสของ Miss USA ซึ่งเป็นผู้จัดเดียวกับ Miss Universe คือบริษัท IMG ออกมาประเด็นการเมืองจ๋าชัดเจนขนาดนี้ เราคงต้องมาติดตามกันแล้วว่า Miss Universe Thailand ที่จะส่งตัวแทนสาวไทยไปสู้กับเขาจะเป็นไปในลักษณะใด เราจะยังคงเจอคำถามจำพวก นิยามความสวยของผู้หญิง ภาพลักษณ์ที่ดีงามของความเป็นไทย แนะนำอาหาร ผลไม้ สถานที่ท่องเที่ยวไทย เหมือนปีที่ผ่านๆมาอยู่หรือไม่? เรามีโอกาสจะได้เห็นนางงามไทยออกมาพูดอะไรที่ก้าวหน้ามากกว่าการสรรเสริญเยินยอความเป็นไทย วัฒนธรรมไทย และความเป็นคนดีไหม? ‘การเมือง’ จะสามารถเข้ามาแทรกซึมอยู่บนเวที Miss Universe Thailand ได้มากเพียงใด?… เราจะได้รู้คำตอบของคำถามเหล่านี้ในอีกไม่ช้า

Tags: , , , ,